องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1158

ทัพใหญ่ประสบกับการจู่โจมของทัพศัตรู บาดเจ็บล้มตายไม่เท่าไร ทว่าขวัญกำลังใจของทหารได้รับการกระทบกระเทือนเป็นอย่างมาก

เนื่องจากในสองวันมานี้ค่ายทหารของแคว้นฉีเรียกได้ว่าทุกคนต่างตกอยู่ในอาการตื่นตระหนกกันไปหมด

แม้ทัพใหญ่จะถอยทัพมาแล้ว ถอยมาอยู่ในสถานที่ที่ทัพศัตรูไม่สามารถโจมตีได้ แต่ทว่าที่นี่ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มีเครื่องโยนหิน สามารถจู่โจมระยะไกลได้ ระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวถูกโยนเข้ามาอย่างฉับพลัน

เดิมทีก็ยากจะป้องกันอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นหวังฉวนเหวิน หรือว่าอู๋อี๋หลิงก็ตกอยู่ภายใต้ความกดดันอยู่เล็กน้อย

“แม้จะรู้อยู่ตั้งนานแล้วว่าราชวงศ์อู่มีอาวุธเช่นนี้...ทว่าก่อนหน้านี้ ลัทธิขงจื๊อส่งข่าวมา บอกว่าเจ้าสิ่งนี้หายไปแล้วเดิมทีไม่ควรค่าให้ต้องเป็นกังวลใจ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเช่นนี้ ช่างน่าโมโหยิ่งนัก!”

ภายในกระโจมกลางกองทัพ อู๋อี๋หลิงเอ่ยปากขึ้นอย่างเดือดดาล

หวังฉวนเหวินที่อยู่ข้าง ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม

ชายแดนเหนือก็เคยมีระเบิดอาวุธที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ปรากฏขึ้น ศึกที่ด่านฝานหลงทางชายแดนตะวันตกเอง ก็เคยมีเครื่องโยนหินอาวุธโจมตีเมืองประเภทนี้ปรากฏขึ้นเช่นกัน

ตอนนี้ทั้งสองอย่างรวมเป็นหนึ่งเดียว ทว่าอยู่เหนือความคาดหมายของเขาอยู่เล็กน้อย

หลังจากที่ทั้งสองอย่างรวมเป็นหนึ่งเดียว อานุภาพเพิ่มเป็นทวีคูณ เพียงแค่กำลังมนุษย์ต้านทานไม่อยู่จริง ๆ!

หวังฉวนเหวินเองก็ปวดหัวเช่นกัน

“ท่านอัครมหาเสนาบดี ตอนนี้ควรทำเช่นไรกันดี?” อู๋อี๋หลิงเอ่ยถาม

แม้ทัพศัตรูจะมีเพียงทัพใหญ่สองแสนกว่านาย ทว่ามีอาวุธอยู่ในมือ สถานการณ์ไม่เป็นผลดีต่อแคว้นฉีนัก หากฝืนบุกเข้าไป เช่นนั้นก็ต้องบาดเจ็บล้มตายกันนับไม่ถ้วนเป็นแน่แท้

สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าก่อนหน้านี้อีก

อย่าว่าแต่ผลักดันไปให้ถึงเมืองหลวงแห่งใหม่ของราชวงศ์อู่เลย แค่จะออกจากชิงโจวได้หรือไม่ยังเป็นปัญหาใหญ่

หวังฉวนเหวินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ตอนนี้ทำได้เพียงดูว่าลัทธิขงจื๊อจะมีวิธีไหน หากแม้แต่ลัทธิขงจื๊อเองก็หมดปัญญาสู้ เช่นนั้นเกรงว่าศึกนี้พวกเราเองก็ทำได้เพียงถอยเท่านั้น”

อู๋อี๋หลิงพลันเดือดดาลอย่างไร้ที่เปรียบ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ!

การต่อสู้ในครั้งนี้ เตรียมตัวมาหลายปีขนาดนั้น ลงทุนลงแรงไปเท่าไร? เสียเงินไปเท่าไร?

ช่างมันไปทั้งอย่างนี้?

ไม่ว่าเป็นใครก็ไม่สบอารมณ์กันทั้งนั้น!

ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ อาวุธประเภทนี้ทำไมถึงไม่ปรากฏที่แคว้นฉีของพวกเขานะ?

“แต่ว่า ถอยกลับไปก็ไม่ใช่วิธีที่ดีอะไร ด้วยความทะเยอทะยานของหลี่เจิ้ง ขอแค่รอเขาสะสมกำลังกลับมา แถมในมือยังมีอาวุธเช่นนี้อีกด้วย ต้องกำเริบเสิบสานขยายอาณาเขตเป็นแน่...เพียงแค่จงหยวนจะเพียงพอต่อความกระหายของเขาได้อย่างไร?”

หวังฉวนเหวินเอ่ยปาก ใบหน้าเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “วันที่มาต้องยกทัพมาประชิดแคว้นฉีของเราเป็นแน่ และยกทัพมาประชิดใต้หล้า!”

“หึ!”

ระเบิดจนเละตุ้มเป๊ะไปหมด!

ทำเอาคนที่เห็นเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจ

“ศิษย์พี่ใหญ่ ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดี ท่านกับข้าร่วมมือกันบุกเข้าไปในค่ายทัพแคว้นฉี คงพอฉวยโอกาสในระหว่างที่ทัพศัตรูจิตใจระส่ายระส่ำ ลงมือฆ่าหวังฉวนเหวินได้แน่ ล้างแค้นให้ท่านอาจารย์!”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เสนอแนะ

ศัตรูของพวกเขามีสองคน!

คนหนึ่งคือหวังฉวนเหวิน และแน่นอนว่าอีกคนย่อมคือหลี่เจิ้ง!

แต่ว่าตอนนี้ฆ่าหลี่เจิ้งไม่ได้ แต่ฆ่าหวังฉวนเหวินได้นี่นา!

ทว่าเฮยไหลไป่หลี่กลับรีบส่ายหน้า แล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ศิษย์น้องสาม จะชะล่าใจไม่ได้! ในเมื่อตาเฒ่านี่กล้ามาราชวงศ์อู่ เช่นนั้นย่อมต้องมีการตระเตรียมเอาไว้เป็นแน่ ยอดฝีมือข้างกายเขาไม่ได้มีเพียงอู๋อี๋หลิง หากเจ้าและข้าบุกเข้าไปอย่างสะเพร่า เกรงว่าคงยากจะถอยกลับมาอย่างปลอดภัย!”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ขมวดคิ้ว “ศิษย์พี่ใหญ่ เช่นนั้นโอกาสทองเช่นนี้ หรือว่าเราจะปล่อยผ่านไปทั้งอย่างนี้หรือ? ที่ท่านมาชิงโจวก็เพื่อฆ่าเขาไม่ใช่หรือ?”

เฮยไหลไป่หลี่ครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยว่า

“ศิษย์น้องไม่ต้องร้อนใจไป ศิษย์พี่มีแผน สร้างโอกาสให้เราได้!”

นัยน์ตาของเขาพลันประกายความเย็นยะเยียบออกมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน