ท้องฟ้าแจ่มใสลมพัดเย็นสบาย
เป็นวันที่เหมาะแก่การออกไปรับแสงแดด
ทว่า ไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น
ใกล้ถึงช่วงกลางวัน
หลี่จุ่นได้รับการคุ้มกันจากเถี่ยโถวและยอดผีมือของกองทัพสายฟ้ายี่สิบกว่าคน คนกลุ่มหนึ่งขี่ม้าออกจากเมืองและมาถึงสถานที่ที่ตกลงกันไว้
บนเนินเขาเล็ก ๆ ข้างถนนสายหลัก มีโต๊ะตัวหนึ่งวางอยู่ บนโต๊ะมีกาน้ำชาและถ้วยชาสองใบ
หลี่จุ่นและพวกพ้องลงจากม้าโดยอยู่ห่างประมาณร้อยก้าว
หลังจากนั้น!
หลี่จุ่นในชุดสีดำปลดดาบที่เอวออก ย่างก้าวไปคนเดียว เดินตรงเข้าไปนั่งหน้าโต๊ะ!
หลี่จุ่นขอเอาไว้ว่าให้เขาเดินไปคนเดียว
เนื่องจากเขาและเจิ้นเป่ยอ๋องมีเรื่องต้องหารือกัน เรื่องค่อนข้างเป็นความลับ ไม่สะดวกนักหากจะให้ใครได้ยิน
นอกจากนี้ หากเจิ้นเป่ยอ๋องตั้งใจจะต่อต้านเขา นำเถี่ยโถวมาด้วยคงไม่มีประโยชน์อยู่ดี
เวลาผ่านไปชั่วครู่!
เจิ้นเป่ยอ๋องนำทัพทหารม้ากลุ่มนึงขี่ม้าเข้ามา และลงจากม้าทันทีโดยทิ้งระยะห่างออกไปร้อยก้าว!
ทันทีที่เจิ้นเป่ยอ๋องมาถึง สายตาของเขาก็มองไปที่หลี่จุ่นทันที
“จอมทัพ!”
กุนซือเป้าชุนชิวที่ติดตามเขามาก็มองหลี่จุ่นด้วย!
ผู้ที่อยู่ข้าง ๆ โต๊ะบนเนินเขาเล็ก ๆ นั้น รูปหล่อสง่างามดังคำเล่าลือเสียจริง!
ในเวลานี้ ท่าทางของเขาช่างสุขุมเยือกเย็นสมกับเป็นจอมทัพชั้นสูง!
เป้าชุนชิวตกตะลึง!
เจิ้นเป่ยอ๋องกล่าว “เป็น เป็นเขา...ไม่ผิดแน่!”
หลังจากนั้น เขาก็หยุดเป้าชุนชิวที่กำลังจะเดินตามเขาเอาไว้ ถอดดาบที่ห้อยไว้ที่เอวออกและเดินไปตัวเปล่า!
วรยุทธ์ของเจิ้นเป่ยอ๋องไม่มีใครเทียบเทียมได้ภายใต้โลกหล้านี้ ไม่มีผู้ใดสามารถลอบสังหารเขาได้ง่าย ๆ ผู้ที่สามารถปะทะฝีมือกับเขาได้มีเพียงเจ้าลัทธิอาวุโสของลัทธิเทียนซานเท่านั้น!
ดังนั้นแล้ว หายห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขาได้เลย!
เจิ้นเป่ยอ๋องย่างก้าวมาอย่างช้า ๆ วินาทีที่หลี่จุ่นเห็นเจิ้นเป่ยอ๋อง เขากลับหรี่ตาลงเล็กน้อย!
เหมือน!
เหมือนมาก!
กำยำล่ำสัน ไหล่กว้างบึกบึน!
ไอ้เจ้านี่...พี่สี่ผู้อ่อนแอของตนนั้นไม่ได้มีรูปร่างแบบนี้ไม่ใช่หรือ?!
เจิ้นเป่ยอ๋องยิ้มกว้างด้วยความพอใจ ดื่มชาอย่างมีความสุขโดยปราศจากชั้นเชิงหรือความหวาดระแวงใด ๆ
บรรยากาศระหว่างอาหลานเป็นไปอย่างอบอุ่นดั่งครอบครัวและทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกัน
คุยกันอยู่เกือบครึ่งค่อนวัน
ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะจับต้นชนปลายไม่ถูก
ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองยังมีเสียงหัวเราะออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ
ในความคิดของเถี่ยโถว สถานการณ์นี้ดูแปลกประหลาดเล็กน้อย
เหตุใดจอมทัพของเราถึงพูดคุยกับผู้บัญชาการกองทัพศัตรูอย่างมีความสุขถึงเพียงนั้น?
หรือว่าจะนัดหมายกันไปเที่ยวซ่อง?
“ท่านอา ที่ข้าเชิญมาวันนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญอยากจะหารือด้วย”
หลังจากพูดคุยกันสักพัก ในที่สุดหลี่จุ่นก็เข้าประเด็น
เจิ้นเป่ยอ๋องจิบชาและมองหลี่จุ่น ดวงตาของเขาขยับไปมาและพยักหน้าช้า ๆ
หลี่จุ่นเองก็จิบชาเช่นกัน หลังจากวางจอกชาลงก็ค่อย ๆ กล่าวว่า
“ท่านอา ขณะนี้ข้ามีกองทัพใต้บังคับบัญชากว่าสามแสนนาย อีกทั้งยังมีอาวุธ เช่น ปืนใหญ่ หลี่เจิ้งเองก็ขวางข้าไว้ไม่ได้! ดังนั้นข้าต้องการให้ท่านอาตัดสินใจเลือกล่วงหน้าก่อน”
“ท่านอาจะรับใช้หลี่เจิ้งต่อไป หรือต้องการสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นจักรพรรดิและสร้างราชวงศ์อู่ขึ้นอีกครั้ง...ท่านอา ท่านคงมีความคิดไว้ในใจอยู่แล้ว วันนี้มาเปิดอกคุยกับหลานชายอย่างตรงไปตรงมาดีไหมล่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...