องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1310

หลี่จุ่นให้คําอธิบายที่ชัดเจนแก่จ้าวต้าเฉียน

บอกเขาว่าต้องทํายังไง จ้าวต้าเฉียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ และขอตัวไปเตรียมตัวทันที

ผลคือ หลังจากจ้าวต้าเฉียนออกไปได้ไม่นาน

หวังเซิ่งก็วิ่งเข้ามา ทันทีที่เขาเข้ามาในกระโจม ก็เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม:

"ท่านจอมทัพ ข้าได้ยินมาว่ากุนซือเป้ากําลังจะไปแล้ว ท่านว่าข้าน้อย......ควรไปกับพวกเขาหรือไม่? ”

หลี่จุ่นขมวดคิ้วมุ่น

เขาไม่รีบร้อนตอบ และไม่ได้ปฏิเสธ แต่ถามว่า

"ไม่รู้ว่าเรื่องกองทัพยอมสวามิภักดิ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว? แม่ทัพหวังเคยรับปากกับข้าแล้ว ”

หวังเซิ่งตบหน้าอกตนเองทันที และพูดว่า:

"ท่านจอมทัพโปรดวางใจ สองวันมานี้ข้าน้อยได้โน้มน้าวเหล่าพี่น้องไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว เหล่าพี่น้องต่างตกลงที่จะติดตามท่านจอมทัพไป!"

ในความเป็นจริง หวังเซิ่งก็ประหลาดใจกับเรื่องนี้อย่างมากเช่นกัน

เดิมทีคิดว่าการเกลี้ยกล่อมให้ยอมจำนนจะเป็นเรื่องยาก แต่เขาไม่คิดว่าทันทีที่กองทหารราชวงศ์อู่เกือบหกหมื่นนายได้ยินว่าหลี่จุ่นเป็นผู้บัญชาการคนก่อนของชายแดนเหนือ เป็นผู้บัญชาการกองกำลังทหารชายแดนเหนือผู้เลื่องชื่อคนนั้น ที่เอาชนะซือหม่าชิงอวิ๋นแห่งแคว้นเยียนและโจวชิงแห่งแคว้นฉู่ได้ พวกเขาก็บอกว่าจะติดตามหลี่จุ่นไปทันทีโดยไม่พูดอะไรให้มากอีก!

หวังเซิ่งเองก้ถึงกับหมดคำจะพูด

ต่อมาหวังเซิ่งคิดอย่างรอบคอบจนเข้าใจ

ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกพวกเขาด้วยว่า จี้จงชิงไม่ใช่ผู้บัญชาการกองกำลังทหารชายแดนเหนือแต่เป็นหลี่จุ่น สำหรับนายทหารเหล่านั้นแล้วในเวลานั้น หลี่จุ่นเป็นเหมือนเซียน!

ท้ายที่สุดการต่อสู้ที่ชายแดนเหนือก็ดังมาก จนแม้แต่เจิ้นเป่ยอ๋องก็ถูกนำมาเปรียบเทียบ

และตอนนี้เมื่อพวกเขารู้ว่าผู้ที่รบชนะพวกเขาคือคนผู้นี้ จึงไม่มีใครที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์!

นอกจากนี้

นี่ก็เป็นเชลยศึกไปหมดแล้ว ในเมื่อไม่มีทางที่จะกลับไปได้ เช่นนั้นการติดตามหลี่จุ่นไปย่อมเป็นเรื่องดีกว่าไม่ใช่หรือ?

อย่างไรก็ตามแม้แต่เขาหวังเซิ่งยังสวามิภักดิ์แล้ว อีกทั้งยังมีกองทัพสายฟ้าเกือบแสนนายในทัพแคว้นหนานด้วย ดังนั้นตอนนี้การยอมจำนนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!

โดยไม่สําคัญว่าเขาจะรับใช้ใคร!

เพราะเหตุนี้ เรื่องการโน้มน้าวกองทัพให้ยอมจำนนจึงราบรื่นมาก

แค่หวังเซิ่งไปจัดการก็สำเร็จแล้ว แต่ในวันแต่งงานของหลี่จุ่นเขาจะมาแย่งเอาความดีความชอบก็ไม่เหมาะ มาตอนนี้เมื่อเขาได้ยินว่าเป้าชุนชิวกําลังจะจากไป หวังเซิ่งจึงยับยั้งตนเองไม่ให้มาไม่ได้แล้ว

"จริงหรือ!"

หลี่จุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อมองสีหน้าของหวังเซิ่ง เขาก็แปลกใจเล็กน้อย"แม่ทัพหวังคงไม่ได้จะหลอกข้าหรอกนะ!"

หวังเซิ่งเอ่ยอย่างมั่นใจ:

ขณะที่พูดเขาก็เรียกคนให้ไปเรียกเถี่ยโถวที่เพิ่งแยกย้ายไปไม่นานกลับมาทันที

ทันทีที่เถี่ยโถวได้ยินว่าหลี่จุ่นต้องการพบตน เขาก็รีบกลับมาทันที

"พี่ใหญ่ ท่านเรียกหาข้าหรือ!"

ทันทีที่เถี่ยโถวเข้ามาในกระโจม ก็ตะโกนถามอย่างกล้าหาญทันที

จากนั้นก็เห็นว่าหวังเซิ่งอยู่ใกล้ๆตรงนั้นด้วย ทั้งสองก็พยักหน้าให้กันอย่างเป็นมิตร

หลี่จุ่นพยักหน้าและพูดว่า:

"เถี่ยโถว มีบางเรื่องที่ต้องการให้เจ้าไปทำด้วยตนเอง"

"พี่ใหญ่โปรดสั่งมาได้!" ทันทีที่ได้ยินว่ามีภารกิจให้เขาทำ เถี่ยโถวก็ยิ้มกว้างจนตาหยี่

หลี่จุ่นเอ่ย:

"ข้าสัญญากับเจิ้นเป่ยอ๋องว่าจะให้ยืมปืนใหญ่ ดังนั้นอีกเดี๋ยวจำเป็นต้องให้เจ้านําทหารผู้เกรียงไกรหมื่นนาย คุ้นกันไปส่งยังเมืองหลิงเฟิง ทำได้หรือไม่?”

เถี่ยโถวมีสีหน้าตกใจทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้!

พี่ใหญ่จะเอาปืนใหญ่ที่ทรงพลังนั่นให้กับเจิ้นเป่ยอ๋องยืมจริงหรือ?!

นี้………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน