องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1464

ณ เป่ยโจว

กองทัพขงจื๊อที่เหลือรวมตัวกันและย้ายเข้าไปอยู่ในเป่ยโจว

กองทัพอีกส่วนหนึ่งได้แบ่งกองกำลังลงไปทางใต้ จนไปถึงเมืองเฟิงหั่วใหม่ จนไปถึงด่านเฟิงเป่ย

ด่านเฟิงเป่ยเป็นที่ที่ต้องตีฝ่าบุกทะลวงมากที่สุด ดังนั้นจึงมีกองกำลังส่งเข้าไปมากที่สุด!

ทันใดนั้นรายงานสภาพการรบก็มาถึงเป่ยโจว และถูกส่งไปยังจวนแม่ทัพ

เมื่อหลี่โจ้วที่นั่งอยู่บนบัลลังก์อ่านรายงานสภาพการรบแล้ว ใบหน้าของเขามืดมนไปชั่วขณะ!

จากรายงานกล่าวว่า มีกองกำลังกว่าหนึ่งล้านนายในเมืองเฟิงหั่วใหม่!

กองทหารล้านนายมาจากที่ใดกัน?

ต้องเป็นกองทัพแคว้นเยียนและแคว้นจ้าวแน่!

กองทัพของซือหม่าหยวน!

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ซือหม่าหยวนฉีกสัญญาอยู่ฝ่ายเดียวและได้สร้างพันธมิตรกับกองทัพจงหยวน!

หลี่โจ้วมีสีหน้าอึมครึม มองไปยังเหล่าขุนนางในท้องพระโรง หลังจากเงียบไปนาน เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า

“ข้าขอสั่งให้กองทัพทั้งหมด มุ่งหน้าไปที่ด่านเฟิงเป่ยทันที! ยึดด่านเฟิงเป่ยให้ได้ภายในห้าวัน จากนั้นเดินทางลงใต้เสีย!”

การทรยศอย่างกะทันหันของซือหม่าหยวน ทำให้สถานการณ์กลับตาลปัตรทันที!

นั่นทำให้เขาตกเป็นฝ่ายถูกกระทำทันที!

“ขอรับ ฝ่าบาท!”

ขุนนางทั้งฝ่ายบุ๋นและบู๊รับคำสั่ง!

ขุนนางฝ่ายบุ๋นมีน้อยมาก ทว่าฝ่ายบู๊มีค่อนข้างมาก ขณะนี้พวกเขาเดินออกจากจวนแม่ทัพ และเตรียมสั่งกองกำลังให้ออกเดินทางครั้งใหญ่ไปทางใต้!

หลี่โจ้วออกคำสั่งอีกว่า

“สั่งให้แม่ทัพฝ่ายซ้ายถอนกองกำลังทันที แล้วเข้ารวมกองทัพที่ซีหนานในวันพรุ่งนี้เสีย!”

“ขอรับ!”

องครักษ์รับคำสั่งและไปมอบหมายคำสั่งต่อทันที

จั่วเลี่ย แม่ทัพฝ่ายซ้ายเป็นผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดที่รับหน้าที่โจมตีเมืองเฟิงหั่วใหม่!

เขาคือแม่ทัพที่หลี่โจ้วเฝ้าฝึกฝนบ่มเพาะอย่างลับ ๆ มาตลอดหลายปี ไม่ด้อยไปกว่าจางเฟิงลู่นัก!

แน่นอนว่าเทียบไม่ได้กับผู้บัญชาการอย่างเจิ้นเป่ยอ๋องอยู่แล้ว แต่ก็ยังถือว่าน่าทึ่งอยู่ดี!

หลี่โจ้วนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดวงตาของเขาล้ำลึกและมืดมน!

“ให้นกพิราบส่งข่าวไปยังสมาคมเทียนตี้ทันทีว่าให้ส่งสารลับไปตลอดทางโดยไม่ให้มีข้อผิดพลาดใด ๆ ก่อนที่กองทัพขงจื๊อจักทำลายด่านเฟิงเป่ย ให้เหยียนอ๋องผู้เฒ่าถอนทัพของเขาจากจวนชายแดนตะวันตก จากนั้นล่าถอยไปยังเมืองหลินซุ่นโดยอย่าให้ทัพศัตรูที่อยู่ตรงนั้นผ่านไปได้อย่างราบรื่น!”

“ขอรับ!”

หัวหน้าองครักษ์ซือคงซั่วรับคำสั่งทันที!

ซือหม่าหยวนมองหลี่จุ่นแล้วฝืนยิ้มพร้อมพูดว่า

“ดูเหมือนว่าการเผาเมืองเฟิงหั่วจักเป็นความตั้งใจของท่านมหาจักรพรรดิตั้งแต่แรกแล้ว จี้จงชิงคงจะเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดสำหรับท่าน”

หลี่จุ่นเหลือบมองเขาแล้วพูดว่า

“ท่านรู้ช้าไปนะ”

ด้วยความสามารถของทั้งสอง แน่นอนว่าพวกเขาเดาวิธีการของหลี่โจ้วในตอนนี้ออก

หลี่โจ้วรีบร้อนจักลงทางใต้ถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าเขาต้องอยากที่จะทำลายด่านเฟิงเป่ยให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จากนั้นก็เข้าไปยังจวนชายแดนตะวันตกและทำลายข้างในด่าน ยึดครองเหยียนโจว เมืองอวี๋เจียง หรือแม้กระทั่งชิงโจว ต้องยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่ง จากนั้นก็หยุดการต่อสู้และเข้าเผชิญหน้า จัดการกับกองทัพจงหยวน!

สู้กับสงครามพร่ากำลังที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน!

ทว่า หลี่จุ่นคงไม่ยอมให้หลี่โจ้วทำตามใจปรารถนา!

หากต้องการทำสงครามพร่ากำลังกับเขา คงไม่ได้!

ซือหม่าหยวนครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นกองกำลังของข้าจะเข้าไปยังเป่ยโจว แล้วไล่ตามจากข้างหลังไปทางใต้?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน