องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 162

เมื่อหลี่จุ่นหารถม้ามา เฉาวานวานก็แบกโหลวฮวนฮวนเข้าห้องโดยสารรถอย่างระมัดระวัง ให้นางนอนราบ

หลี่จุ่นให้หลี่เหวินจวินตรวจดูบาดแผลอีกครั้ง แต่ก็วินิจฉัยไม่ได้ว่าถูกกัดเมื่อไร น่ากลัวว่าจะไม่ได้ถูกกัดวันนี้ ไม่อย่างนั้นโหลวฮวนฮวนก็ออกมาแต่แรกแล้ว หลี่จุ่นล้มเลิกความคิดที่จะดูดพิษออกมา

ที่โหลวฮวนฮวนยังเหลือหนึ่งเฮือกลมหายใจและทนมาได้ถึงตอนนี้ คงเพราะนางเป็นคนฝึกยุทธ์ ร่างกายแข็งแรง อย่างเช่นมีกำลังภายในล้ำลึกอะไรเทือกนั้น ถ้านางฝึกกำลังภายในละก็นะ

หลี่เหวินจวินไปจวนจิ่งอ๋องด้วย หลังจากจัดการที่พักให้โหลวฮวนฮวนเรียบร้อย หลี่จุ่นและหลี่เหวินจวินก็ออกจากห้อง เหลือเพียงสองศิษย์อาจารย์อยู่ข้างใน

“น้องหก เจ้าแน่ชัดเรื่องตัวตนของพวกนางแล้วหรือ” หลี่เหวินจวินและหลี่จุ่นเดินออกไปถึงลานบ้านแล้ว หลี่เหวินจวินปราดมองห้องแวบหนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็ถามขึ้นด้วยความหมายเชิงลึก

“มิสำคัญ” หลี่จุ่นส่ายหน้า

“มิสำคัญหรือ” หลี่เหวินจวินใบหน้าเต็มไปด้วยความฉงน

หลี่จุ่นพยักหน้า แววตาใส หัวเราะเยาะตัวเองเล็กน้อย

“อย่างน้อยพวกนางก็ไม่ทำร้ายข้า อย่างมากก็แค่ใช้ข้าเท่านั้น แต่มันก็ไม่เป็นไรหรอก สำหรับข้ามิได้มีอะไรเสียหาย จะใช้ก็ใช้ไปเถอะ”

หลี่เหวินจวินนิ่งงันทันที

นางเผยอปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดออกมา แต่การเยาะเย้ยตัวเองที่คล้ายมีคล้ายไม่มีจากมุมปากหลี่จุ่นนั้น ทำให้นางเจ็บแปลบในใจทันที

นางเข้าใจคำพูดของหลี่จุ่น

แม้แต่ราชวงศ์บ้านตัวเองก็ยังไม่แยแส คนนอกจะใช้เขาสักหน่อยจะเป็นอะไรไป อย่างน้อยคนนอกก็สนใจเขา

หลี่เหวินจวินเข้าใจหลี่จุ่น ดังนั้นจึงเข้าใจความหมายของเขา

หลี่เหวินจวินมองท้องฟ้ากว้างใหญ่ สุดท้ายยังอยากพูดแทนหลี่เจิ้ง

“น้องหก บางทีเสด็จพ่ออาจไม่เป็นอย่างที่เจ้าคิด อาจมีความลำบากพระทัยอื่นก็ได้”

หลี่จุ่นมองนางแวบหน้าแล้วหัวเราะ มองความหมายไม่ออก เอ่ย

“พี่หญิง ข้าอยู่อย่างนี้มาสิบเจ็ดปี อยู่ในตำหนักปีกมาตลอด ตอนท่านแม่ยังอยู่ ต่อให้เสด็จพ่อกับพี่น้องทั้งหลายทำอะไรกับข้าก็ยังไม่เป็นไร แต่นับจากนางจากไป ข้าก็ถือว่าตัวคนเดียวแล้ว...พี่หญิง ความรู้สึกนี้ เกรงว่าท่านคงไม่เคยสัมผัสกระมัง”

ตัวคนเดียวอย่างนั้นหรือ

ไม่เคยสัมผัสหรือ

หลี่เหวินจวินเหลือบมอง แววตาฉายอารมณ์ซับซ้อนเล็กน้อย เม้มริมฝีปาก อยากพูดแต่ก็ลังเล ทว่าสุดท้ายยังลอบส่ายหน้าแล้วเงียบไป

หลี่จุ่นพูดต่อ “ความจริงเสด็จพ่อทรงคิดอย่างไร ข้าไม่สนใจนานแล้ว สำหรับข้า ก็แค่เป็นหรือตายเท่านั้น เรื่องที่รู้แต่แรก ไม่จำเป็นต้องครุ่นคิดทั้งวันหรอก มิสู้หัวสมองปลอดโปร่ง อิสระทุกวัน”

หลี่เหวินจวินหันไปมองหลี่จุ่น บีบนิ้วมือในแขนเสื้อลับ ๆ เตรียมจะพูดอะไร แต่เวลานี้ฉิงเอ๋อร์พาหมอหลวงหวังจากสำนักหมอหลวงเดินฉับมาแล้ว

“องค์หญิง ท่านอ๋อง หมอหลวงหวังมาแล้วเพคะ!” ฉิงเอ๋อร์คำนับแล้วรายงาน

หลี่จุ่นพูด “รีบเชิญเถอะ!”

จากนั้นเขาก็รีบนำหมอหลวงหวังที่อายุอานามเลยห้าสิบไปยังห้องที่อยู่ข้างหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน