องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 3

พันขุนเขาไร้นกบิน

หมื่นทางไร้เท้าคน

เรือน้อยโดดเดี่ยว ชายชราสวมเสื้อหญ้าแฝกหมวกกุ้ยเล้ย

ตกปลาเดียวดายในแม่น้ำเย็นเยือกยามหิมะโปรย

บนคูเมืองนั้น มิใช่ว่ากำลังมีหิมะโปรยปราย มีเรือลำหนึ่งกำลังข้ามแม่น้ำ มีชายใส่หมวกกุ้ยเล้ยตกปลาอยู่หนึ่งคนหรือ

สองประโยคแรกบรรยายทิวทัศน์รอบเมืองหลวง ใช้จิตภาพไร้ลักษณ์บรรยายทิวทัศน์ธรรมชาติขณะที่พื้นมีหิมะอากาศหนาว สองประโยคหลังจึงจะเป็นทิวทัศน์คูเมืองที่เป็นหัวข้อหลัก

ภาพที่เห็น มันคือภาพที่เห็นจริง ๆ!

พอสิ้นเสียงของหลี่จุ่น ทั่วทั้งหอเหวินชวีเงียบกริบ แม้เข็มตกก็ยังได้ยิน

สายตาของทุกคนล้วนตกตะลึง ใบหน้าทึ่ง!

เจ็ดก้าวเป็นกลอน!

เจ็ดก้าวก็เป็นกลอนแล้ว!

ไหนว่าองค์ชายหกคนนี้เป็นคนไม่เอาไหนอย่างไรเล่า!

ทำไมถึงแต่งกลอนห้าที่วิเศษอย่างนี้ได้ล่ะ!

คนที่อยู่ในงานใครบ้างไม่มีความรู้

จะฟังความล้ำลึกของกลอนบทนี้ไม่ออกได้อย่างไร!

จินตภาพงดงามเพียงนี้ เชื่อมโยงกับภาพชัดเจน!

กลอนห้าบทนี้ยอดเยี่ยมจริง ๆ!

ชั่วขณะ คนจำนวนมากกำลังทำความเข้าใจกับบทกลอนที่หลี่จุ่นเพิ่งแต่ง ยิ่งพินิจวิเคราะห์ก็ยิ่งรู้สึกว่ากลอนบทนี้มหัศจรรย์อย่างยิ่ง!

ดวงตางามของหวังเยียนหรันก็ตกตะลึงเหมือนกัน กำลังหวนคิดถึงกลอนบทนี้

ในใจบังเกิดคลื่นยักษ์น่ากลัวแล้ว

“พันขุนเขาไร้นกบิน หมื่นทางไร้เท้าคน ไม่ได้พรรณนาถึงลักษณะฟ้าดิน ทิวทัศน์ฤดูหนาวอันกว้างใหญ่ แต่ยังให้รู้สึกอ้างว้างอย่างหนึ่งด้วย...”

“แต่ ที่สำคัญที่สุดคือสองประโยคหลัง ‘เรือน้อยโดดเดี่ยว ชายชราสวมเสื้อหญ้าแฝกหมวกกุ้ยเล้ย ตกปลาเดียวดายในแม่น้ำเย็นเยือกยามหิมะโปรย’ ไม่ใช่แค่ตรงกับหัวข้อ แต่ยังบรรยายความหดหู่และโดดเดี่ยวของตัวเอง หลอมรวมอารมณ์กับภาพ อารมณ์ภาพผสมผสาน...ยอด สุดยอดไปเลย!”

จินตภาพงดงาม เชื่อมโยงกับภาพชัดเจน!

จุดที่ยอดเยี่ยมคือ กลอนบทนี้ยังแต่งขึ้นจากภาพที่เห็น แล้วภาพที่เห็นก็แฝงไว้ด้วยอารมณ์ นี่สิสุดยอดไปเลย!

เป็นบทกลอนที่ดีเยี่ยมจริงแท้!

หวังเยียนหรันเป็นยอดหญิงอันดับหนึ่งของเมืองหลวง วิเคราะห์อารมณ์ที่แฝงอยู่ในกลอนบทนี้ได้ทันที ตกตะลึงอยู่ในใจอย่างหนัก

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะเป็นกลอนที่สุดยอดเช่นนี้ กลับเป็นผลงานที่หลี่จุ่นผู้ถูกประณามว่าไม่เอาถ่าน!

“เป็นไปได้ยังไง”

“นี่มันเป็นไปไม่ได้...”

ใบหน้าขององค์ชายสามหลี่เฉียนและองค์ชายห้าหลี่จงเปลี่ยนสีนานแล้วเหมือนกัน เหนือคาด!

พวกเขาคือองค์ชาย มีบัณฑิตผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักศึกษากลางถ่ายทอดความรู้ให้พวกเขาโดยเฉพาะ มีความสามารถกับเรื่องเพลงกลอนมากประมาณหนึ่ง ไหนเลยจะมองระดับกลอนบทนี้ของหลี่จุ่นไม่ออกว่าเป็นอย่างไร

แต่!

หลี่จุ่นเป็นคนไม่เอาถ่าน บุ๋นไม่ได้บู๊ไม่ไหว จะแต่งกลอนดีอย่างนี้ได้อย่างไร!

เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

ไม่ว่าอย่างไรทั้งสองก็ไม่เชื่อ

เวลานี้ เสิ่นคั่วที่อยู่ด้านข้างหวั่นไหว หลับตาพิจารณากลอนบทนี้ไม่หยุด สีหน้าอัศจรรย์มากขึ้นทุกที ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดขึ้นว่า

“กลอนบทนี้...เป็นกวีเด็ดพันปีได้!”

ฮะ!

กวีเด็ดพันปี?!

คำพูดนี้ราวกับอสนีบาต สะเทือนเลือนลั่นไปทั้งหอเหวินชวี!

เสิ่นคั่วเป็นบุคคลระดับไหน!

ไท่ฟู่ในรัชกาลปัจจุบัน อาจารย์ของรัชทายาทเชียวนะ แล้วยังเป็นผู้นำของหมู่ผู้ทรงความรู้ทั่วหล้าด้วย!

ผู้ทรงความรู้ทั่วหล้ากราบเขาเป็นปรมาจารย์!

บทกลอนที่เขาวิจารณ์ จะถูกบันทึกในหนังสือประวัติศาสตร์แทบทั้งหมด!

สุดยอดกวีพันปี!

บทกลอนที่ผู้ทรงความรู้ในรัชกาลปัจจุบันแต่ง มีใครแต่งบทกลอนที่ยอดเยี่ยมกว่าบทนี้ได้บ้าง!

ไม่มี!

และเสิ่นคั่วก็ไม่เคยประเมินกลอนบทใดในรัชกาลปัจจุบันสูงขนาดนี้มาก่อน!

วันนี้หลี่จุ่นประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์!

หลี่เฉียนและหลี่จงสีหน้าปั้นยากทันที อึ้งงันชั่วขณะ

สุดยอดกวีพันปี?

จะเป็นไปได้อย่างไร!!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน