วันต่อมา
หิมะตกไปทั่ว ทับทมกันจนหนาสูง อากาศทั้งหนาวทั้งแห้ง
หลี่จุ่นสวมเสื้อนอกสีขาวทับ เขานั่งอยู่ในศาลากลางสวนของจวนรอง เขาดื่มชา ชมหิมะตกอยู่กับหยางจง พร้อมกับกินยำเต้าหู้หัวหอมไปด้วย
หยางจงที่ไม่ค่อยได้กินเต้าหู้เท่าไหร่นัก เขาดื่มด่ำกับมันเป็นอย่างมาก เขากินอย่างเอร็ดอร่อย
หยางจงรู้สึกว่า เขาโชคดีเหลือเกินที่เลือกนายถูกคน
แม้ว่าแต่ก่อนเจ้านายของเขานั้นไม่ได้เรื่อง ตัวเขาเองก็พลอยโดนคนว่าเสียดสีไปด้วย ทั้งยังโดนมองบนและหัวเราะเยาะ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแต่ก่อนนายของเขาอดทนมาตลอด ตอนนี้ก็เลยเปิดเผยตัวตนและความสามารถออกมา
หยางจงรู้สึกว่า ตอนนี้ตัวเองเหมือนฟ้าหลังฝน
ดูตอนนี้สิ ได้กินเต้าหู้ที่แสนอร่อยขนาดนี้ ทั้งยังมีเหล้าดีๆ ให้ดื่ม
หยางจงมีความสุขเป็นอย่างมาก
หลี่จุ่นเปิดหนังสือไม้ไผ่ออก ก่อนที่จะค่อยๆ อ่าน ทว่าสีหน้าค่อนข้างที่จะผิดหวัง ก่อนที่จะหมดความสนใจหนังสือเล่มนั้นไปเขาวางมันลงก่อนเอ่ยออกมา
“เฮ้อ ปัญญาชนของราชวงศ์อู่เนี่ย เขียนนิยายกันไม่เป็นหรืออย่างไร? หนังสือที่คนยุคสมัยนี้ชื่นชอบมีระดับแค่นี้เองหรือ ไม่สนุกเลยสักนิด”
หยางจงรู้จักหนังสือที่หลี่จุ่นอ่าน เป็นหนังสือที่ตอนนี้ผู้คนในเมืองนิยมมากที่สุดเรื่องสยบปีศาจร้าย เป็นเรื่องเล่าที่เกี่ยวกับนักพรตคนนึง ที่ลงเขาไปเพื่อฆ่าล้างเผ่าปีศาจ เขาเคยอ่าน และก็ติดเป็นอย่างมาก
คิดไม่ถึงว่า องค์ชายของเขาจะบอกว่าไม่สนุก
หยางจงรีบเอ่ยออกมาทันที “ฝ่าบาท ถ้าอย่างนั้น เรื่องบันทึกลึกลับ ก็ไม่เลวนะขอรับ”
ทว่า หลี่จุ่นกลับส่ายหน้าไปมา ก่อนเอ่ยออกมาว่า “ไม่เห็นจักน่าสนใจ”
ดูท่าแล้วนี่น่าจะเป็นโอกาสให้เขาได้เขียนเรื่องไซอิ๋วขึ้นมา ให้คนในยุคนี้ได้เห็นว่า อะไรที่เรียกว่าเทพนิยายแล้ว!
หยางจงหมดคำจะพูด
แปลกจริงเชียว
องค์ชายของเขานั้นมีความสามารถแปลกประหลาดมากมาย ความคิดก็ผิดแปลกไม่เหมือนผู้อื่น ของที่พวกเขาคิดว่าน่าสนใจเช่นนิ้ องค์ชายของเขาคงรู้สึกว่ามันแสนจะธรรมดาสินะ
ถึงกระทั่งไม่อยากจะชายตามองด้วยซ้ำ
“องค์ชายช่างมีอารมณ์สุนทรีเหลือเกินนะเพคะ”
หวังเยียนหรันและสาวรับใช้เสี่ยวจูปรากฎตัวขึ้นที่ศาลา ตัวนางยังไม่ทันเดินมาถึงศาลา ทว่าเสียงกลับมาก่อนเสียแล้ว
หวังเยียนหรันสวมเสื้อคลุมกันหนาวยาวสีแดง นางปรากฎตัวขึ้นอย่างงามสง่า ใบหน้างดงาม น่ามองเป็นอย่างมาก
“ยอดหญิงหวัง ท่านมาแล้วหรือ?”
หยางจงกุลีกุจอลุกขึ้นแล้วเชิญทั้งสองคนเข้ามาในศาลา จากนั้นก็ไปเตรียมตะเกียบมาเพิ่มสองคู่
ในจวนรองนี้มีเพียงหลี่จุ่นและหยางจงสองคนเท่านั้น ไม่ได้มีผู้อื่นอยู่ด้วย ดังนั้นไม่สามารถวานให้คนอื่นทำงานให้ได้ หยางจงจึงต้องจัดการเอง
หลี่จุ่นเหลือบไปมองหวังเยียนหรันที่โดนลมหนาวพัดโบก มองใบหน้าของนางที่หนาวเหน็บจับใจ เขาเอ่ยออกมาทันที
“เจ้ามาได้อย่างไรกัน?”
หวังเยียนหรันไม่ได้มีท่าทีเขอะเขินเฉกเช่นแต่ก่อน นางนั่งลงอย่างสบายๆ และมือเรียวสวยราวกับหยก ก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเต้าหู้ขึ้นชิม ใบหน้าของนางนั้นแสดงออกว่าพึงพอใจกับรสชาติ ก่อนที่จะยิ้มแล้วเอ่ยออกมา
“ก็คิดถึงองค์ชายน่ะสิเพคะ ยำเต้าหู้หัวหอมขององค์ชายจานนี้ อร่อยจริงเชียว”
ใบหน้าที่อิ่มเอมกับรสชาติอร่อยของนางนั้น น่ารักเป็นอย่างมาก
หลี่จุ่นตะลึงงัน หญิงสาวผู้นี้กล้าไม่เบาเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...
ปกติจะอัพ เพิ่มวันไหนครับ รึ ไม่มีอัพให้แล้ว...
ไม่อัปเดทแล้วเหรอครับ กำลังสนุก...
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...