องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 329

เมื่อถูกหลี่เจิ้งถาม เสิ่นคั่วก็ถึงกับอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป เขาย่นคิ้วแล้วอธิบาย

“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า... แผนนั้นควรหารือกันใหม่อีกครา หากเร่งรัดเกินไป เกรงว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการนะพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้ฟังดังนั้น น้ำเสียงของอวี่เหวินจิ้งก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที

“ใต้เท้าเสิ่น ตอนที่คิดวางแผนท่านไม่เคยมีความเห็นปฏิเสธ มาบัดนี้จนพวกข้าเตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว ท่านกลับบอกว่าไม่เห็นด้วย การได้ปั่นหัวพวกเราสนุกมากนักหรือ”

สีหน้าของหลี่เจิ้งเองก็เคร่งเครียดไม่ต่างกัน

คิ้วของจี้จงชิงถูกขมวดจนเผยให้เห็นรอยย่นลึก ครั้นเมื่อมองดูเสิ่นคั่วที่มากด้วยทิฐิแล้วก็เอ่ยขึ้นทันที

“ฝ่าบาท สิ่งที่สำคัญและเร่งด่วนในตอนนี้คือการค้นหาต้นตอของมือสังหารที่นอกเมืองเหล่านั้น ว่ามือสังหารนิรนามพวกนี้มาจากไหน แล้วใครเป็นคนบงการ”

อวี่เหวินจิ้งได้ยินก็เอ่ยเย้ยหยันอีกฝ่ายเข้าให้ “เรื่องตรวจสอบคงไม่มีใครสู้หน่วยข่าวลับของใต้เท้าเสิ่นได้หรอก ถ้าแม้แต่ใต้เท้าเสิ่นยังไม่รู้ แล้วในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ พวกข้าจะมีวิธีใดได้อีกเล่า กลัวเสียแต่ว่าใต้เท้าเสิ่นจะรู้อยู่แล้วแต่ไม่อยากบอกพวกข้าน่ะสิ”

เสิ่นคั่วจึงรีบเอ่ย “ไท่ซืออย่าได้พูดจาเหลวไหล... ข้าไม่รู้ที่มาที่ไปของมือสังหารเหล่านั้นจริง ๆ”

“บัดซบจริง ๆ !”

หลี่เจิ้งโกรธจนเต็มประดา เขากวาดเอาฎีกาที่อยู่บนโต๊ะทรงงานลงไปกองบนพื้นเสียหมด สีหน้าไม่อาจคาดเดาอารมณ์ได้ “หากข้ารู้ว่ามันเป็นใคร ข้าจะสั่งประหารเก้าชั่วโคตร !”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นคั่วกลับใช้มือลูบปลายจมูก สีหน้าเห็นได้ชัดว่าผิดแปลกไป

“ฝ่าบาท !”

เสียงของหวังเหลียนดังขึ้นด้วยน้ำเสียงรีบร้อนขึ้นกะทันหัน เขารีบลนลานวิ่งเข้ามา เมื่อเข้ามาด้านในห้องแล้วก็เห็นว่ามีพวกเสิ่นคั่วยืนอยู่ก่อน จึงรู้ได้ทันทีว่าตนเองทำผิดธรรมเนียมเสียแล้ว แต่ตอนนี้เขาไม่อาจสนใจเรื่องพวกนั้นได้ จึงรีบก้มหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“ฝ่าบาท... องค์ชายรุ่นอ๋อง... สิ้น... สิ้นชีพแล้วที่ตำหนักอิ้งเหนียนพ่ะย่ะค่ะ !”

เพียงประโยคนี้ถูกเอ่ยออกมา

จงจี้ชิงและคนอื่น ๆ ก็ถึงกับเบิกตากว้าง หันไปมองหวังเหลียนด้วยท่าทีที่ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

ขณะที่ดวงตาทั้งคู่ของหลี่เจิ้งนั้นแทบจะถลนออกมา ราวกับถูกอสนีบาตจากสรวงสวรรค์ลงโทษ

เจ้าเจ็ด... ตายแล้วหรือ

“บังอาจ ! กล้าพูดจาเหลวไหลที่นี่ได้เชียวหรือ !” ท่าทีของหลี่เจิ้งนั้นดูน่ากลัว น้ำเสียงที่ตวาดนั้นดุดันยิ่งนัก

หวังเหลียนฟังแล้วถึงกับร้องไห้โฮพลางเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท กระหม่อมมิกล้าพูดเหลวไหล... หลังจากองค์ชายรุ่นอ๋องและองค์ชายสี่เสด็จกลับจากจวนจิ่งอ๋องเมื่อวานนี้ ก็อาเจียนและถ่ายท้อง ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เห็นว่าได้เชิญหมอหลวงไปตรวจดูอาการตอนกลางคืน แต่อาการยากเกินจะแก้ไขได้ เมื่อครู่องค์ชายรุ่นอ๋องจึง... จึงสิ้นลมไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ...”

“เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ได้ ทำไมถึงไม่มีใครบอกข้า” หลี่เจิ้งตวาดกร้าว

“ฝ่าบาท องค์ชายรุ่นอ๋องและองค์ชายสี่เจ็บป่วยกะทันหัน ทั้งพระสนมจ้าวเฟยและเฉินกุ้ยเฟยต่างก็ลนลานจนทำตัวไม่ถูก จึงไม่ทันได้...”

หลี่เจิ้งถึงกับมีอาการหายใจติดขัด สีหน้าซีดเผือดในทันที เขารีบเดินออกไปด้านนอกด้วยท่าทีโซซัดโซเซแล้วตะโกนเสียงดังลั่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน