ครั้นเมื่อโหลวฮวนฮวนหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นศิษย์รักของตนเองอย่างเฉาวานวาน
สีหน้าของเฉาวานวานในยามนี้ดูเหนื่อยล้ามากนัก นางสวมชุดของบุรุษ ในมือกำกระบี่ยาวเอาไว้ ท่าทีร้อนใจอยู่ไม่น้อย
“มีอะไรหรือ” โหลวฮวนฮวนขมวดคิ้วขึ้น
เฉาวานวานตาแดงก่ำ เสียงสั่นเครือยามเอ่ย
“อาจารย์ พวกเราหลงกลเข้าแล้ว ที่ตั้งภายนอกเมืองถูกทหารรักษาพระองค์ล้อมไว้จนหมด ทั้งเจ้าลัทธิและผู้อาวุโสอีกหลายคนต้องเสี่ยงตายถึงจะหนีออกมาได้ แต่คนของพวกเราก็ตายไปมากนัก... อาจารย์ เจ้าลัทธิบอกให้พวกเรารีบออกจากเมืองหลวง เรื่องของพวกเราถูกเปิดเผยเสียแล้ว !”
“อะไรนะ !”
สีหน้าของโหลวฮวนฮวนแย่ลงไปในฉับพลัน !
......
ณ วังหลวง
หลี่เจิ้งที่อยู่ในห้องทรงพระอักษรมองไปยังหวังเหลียนแล้วเอ่ยถามขึ้น “งานแต่งน่าจะจบเรียบร้อยแล้วกระมัง”
หวังเหลียนพยักหน้ารับทันทีพลางเอ่ยขึ้น “ฝ่าบาท งานน่าจะใกล้จบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เพราะบัดนี้ล่วงเลยยามอู่ไปแล้ว
เมื่อหลี่เจิ้งพยักหน้ารับจึงได้เห็นเย่หงที่ทำท่าเคารพอยู่ตรงหน้า จึงเอ่ยถามขึ้น “เป็นอย่างไรบ้าง สังหารพวกคนสารเลวของลัทธิเทียนซานที่เหลือหมดแล้วหรือไม่”
เย่หงตัวสั่นขึ้นมาพลางส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงต่ำ “กระหม่อมสมควรตายที่ไม่อาจกำจัดพวกมันได้จนหมด... ยังมีพวกสารเลวบางส่วนที่เสี่ยงตายหนีไปได้พ่ะย่ะค่ะ !”
หลี่เจิ้งขมวดคิ้วเข้าหากัน สายตาจับจ้องไปยังเย่หงอยู่ครู่หนึ่งจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้น “ข้าต้องเสียกลุ่มชิงเมี่ยนจึงจะทำให้แหล่งกบดานของพวกมันเปิดเผยออกมาได้... หากตอนนี้ปล่อยให้พวกมันหนีไปได้ ภัยในวันหน้าย่อมไม่อาจจบสิ้นได้แน่”
ได้ยินดังนั้นแล้ว เย่หงก็รีบเอ่ยขึ้นทันที “ขอฝ่าบาททรงวางพระทัย ฉางชวนได้นำกำลังพลไปไล่ล่าสังหารอย่างเต็มกำลังแล้ว ขอแค่พวกเขามิได้หนีออกนอกด่านไป กระหม่อมจะต้องสังหารพวกมันได้จนหมดสิ้นแน่นอน !”
แต่ทว่า !
หลี่เจิ้งกลับพูดขึ้นทันที “พอได้แล้ว ! นั่นเป็นทหารรักษาพระองค์ของข้า อยู่ไกลจากเมืองหลวงมากมิได้ ในเมื่อมิอาจล้อมสังหารได้ยกรัง สูญเสียโอกาสไปแล้ว เช่นนั้นก็ช่างเถิด รีบเรียกฉางชวนให้กลับเมืองหลวงมาซะ !”
สีหน้าของเย่หงดูไม่เต็มใจนัก “ฝ่าบาท...”
คล้ายว่าเขายังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่หวังเหลียนที่อยู่ข้าง ๆ กลับเอ่ยขัดจังหวะเขาทันที
“ผู้บัญชาการเย่ วันนี้เป็นวันมงคลของจิ่งอ๋อง และยังเป็นวันมงคลของลูกน้องในสังกัดท่าน ผู้บัญชาการเย่ควรจะไปดื่มเหล้ามงคลนะ”
ทั้งนี้ยังส่งสายตาให้แก่เขาอีกด้วย
เย่หงเมื่อเห็นดังนี้จึงทำได้เพียงกัดฟันรับแล้วเอ่ยขึ้น “พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมน้อมรับพระบัญชา !”
จากนั้นก็รีบก้าวถอยออกไปด้วยความรวดเร็ว
ในห้องทรงพระอักษร หลี่เจิ้งเหลือบมองหวังเหลียนแล้วหัวเราะขึ้นพลางต่อว่าต่อขาน
“ตาเฒ่าอย่างเจ้านี่นะ พูดมากเสียจริง !”
หวังเหลียนได้ยินดังนั้นจึงรีบยิ้มรับ “ฝ่าบาท เมื่อครู่กระหม่อมปากไวไปเสียหน่อย ขอฝ่าบาททรงประทานอภัยด้วย”
หลี่เจิ้งยกมือโบกไปมาแล้วเอ่ยขึ้น “ช่างเถิด เจ้าไปที่จวนจิ่งอ๋องเสียหน่อย ไม่เช่นนั้นเจ้าเด็กนั่นจะเข้าใจว่าข้าไม่สนใจเขาจริง ๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...