องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 403

ตอนนี้ชายแดนทางตอนเหนือนับว่าสงบ ทว่าก็ยังมีคลื่นใต้น้ำ ต้องเผชิญหน้ากับการประชิดชายแดนของทัพใหญ่แคว้นศัตรูอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่มามุ่งมาที่ราชวงศ์อู่ในครั้งนี้คือสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไข

อย่างแรกแคว้นหลางจะแพ้ไม่ได้ และแคว้นเฟิงเฉวี่ยนจะชนะไม่ได้ อย่างที่สองด่านเฟิงเป่ยที่ซีเฟยจะถูกตีแตกไม่ได้ จุดที่สำคัญที่สุดก็คือชายแดนทางตอนเหนือต้องมั่นคง

และจุดที่ต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์ใหม่สุดท้ายก็อยู่ที่ชายแดนทางตอนเหนือตรงนี้ ต้องจัดการจุดสำคัญของสถานการณ์ยากลำบากในครั้งนี้จากชายแดนทางตอนเหนือ ไม่อย่างนั้นครั้งนี้ราชวงศ์อู่ได้เผชิญอันตรายจริงๆ แน่

จี้จงชิงเอ่ยขึ้นว่า “ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวใด แต่ท่านอ๋องวางใจเถิด ในเมื่อข้ามาช่วยท่านอ๋องแล้วเช่นนั้นต่อไปด้านข่าวก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง หากมีข่าวใดข้าจะรีบมาบอกท่านอ๋องทันที”

หลี่จุ่นพยักหน้า

ตามความเร็วในการแพร่ข่าว ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความน่าเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย แต่นี่ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถึงอย่างไรโลกนี้ก็ไม่มีโทรศัพท์มือถือ กระทั่งโทรเลขก็ยังไม่มี

วิธีการสื่อสารที่ล้ำหน้าที่สุดและสะดวกที่สุด ก็แค่การใช้นกพิราบส่งจดหมาย

ที่ร้ายแรงคือบางครั้งนกพิราบเกิดอุบัติเหตุ อย่างเช่นเกิดหลงกลางทาง หรือถูกเด็กพ่อแม่ไม่สั่งสอนใช้หนังสติ๊กดีดลงมา แล้วย่างกินเลย

ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุใดก็เกิดขึ้นได้

เนื่องด้วยเหตุนี้ในขณะเดียวกันกับที่นกพิราบไปส่งจดหมาย เพื่อป้องกันความปลอดภัยเอาไว้ก่อน จะส่งคนตามไปแจ้งข่าวในภายหลังด้วย ทว่าความเร็วยิ่งไม่ต้องพูดถึง

ที่โชคดีคือวิธีการส่งจดหมายของโลกนี้ต่างเหมือนกันทุกที่ ฉะนั้นข่าวทางฝั่งเขาไม่คล่องตัว สำหรับแคว้นศัตรูแล้วก็เป็นเช่นนี้เช่นเดียวกัน

ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถคว้าโอกาสในด้านการสื่อสารได้ก่อน

“ข่าวที่ส่งให้เหยียนอ๋อง ตอนนี้น่าจะถึงแล้วกระมัง? ขอแค่ทัพใหญ่ที่ชายแดนทางตะวันตกทางเหยียนอ๋อง ดึงดูดความสนใจทางศัตรู เช่นนั้นก็คงยื้อเวลาให้พวกเราได้อย่างน้อยสิบวันเป็นแน่” หลี่จุ่นเอ่ยถาม

จี้จงชิงพยักหน้า ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ด้วยความเร็วในการบินของนกพิราบ ตอนนี้น่าจะถึงแล้ว อีกสามวันก็คงตอบกลับมา”

“เช่นนี้ก็ดียิ่งนัก ไม่ว่าอย่างไร ภายในสิบวันนับตั้งแต่พรุ่งนี้ ต้องให้ทัพใหญ่ของชายแดนทางตอนเหนือฟังคำสั่งของคนคนเดียวให้ได้ ตอนนี้อำนาจทหารอยู่ในมือของแม่ทัพหลิวและแม่ทัพจาง ซึ่งก็คือต้องให้พวกเขาทั้งสองคนเชื่อฟังคำสั่ง และจะไม่ตั้งคำถามกับคำสั่งทางทหารใดๆ ในช่วงเวลาสำคัญ!”

วิธีขอร้องแคว้นหลาง นอกจากตัวเขาที่คิดว่าใช้ได้การแล้ว จี้จงชิงก็ไม่แน่ว่าจะเห็นด้วย เนื่องด้วยเหตุนี้จึงต้องให้พวกเขายอมรับ ไม่อย่างนั้นโอกาสในการรบก็จะหายวับไป และการเดินทางขึ้นเหนือของเขาในครั้งนี้ก็จะพยายามไปสูญเปล่า!

ด้วยเหตุนี้ สำหรับเรื่องคุมทัพใหญ่ ในเมื่อหลี่จุ่นรู้แล้วว่าตัวเองหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องคิดหาวิธีมายึดอำนาจทหารนี่ให้ได้!

สิ่งที่ตัวเขาอยากได้ไม่ได้มีเพียงแค่ตราพยัคฆ์สองอันที่ถูกสองคนนี้เอาไปครองไว้ในมือ แต่ยังเป็นการทำให้ทั้งทัพใหญ่ยอมรับอีกด้วย!

เมื่อได้ตราพยัคฆ์มาแล้ว พูดได้เพียงว่าเป็นแค่ก้าวแรกแห่งความสำเร็จเท่านั้น แต่ไม่ใช่ความสำเร็จในท้ายที่สุด ถึงอย่างไรบารมีและภาพลักษณ์ของเจิ้นเป่ยอ๋องก็เข้าไปอยู่ลึกในใจผู้คน สำหรับกองกำลังทหารของชายแดนทางตอนเหนือแล้วฝั่งรากลึกเลยทีเดียว

สำหรับพวกเขาแล้ว ในใจมีเจิ้นเป่ยอ๋องเป็นผู้บัญชาการเพียงคนเดียวเท่านั้น!

คนอื่นแม้ในมือจะถือตราพยัคฆ์ อยากให้พวกเขาเข้าสนามรบอย่างเต็มใจ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายขนาดนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน