องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 439

คนกลุ่มนี้อัดอั้นมานานแล้ว

ใช่แล้ว

กลุ่มคนที่กำลังโห่ร้องไชโยอยู่ในขณะนี้ นั่นก็คือกลุ่มคนที่เห็นหลี่จุ่นฆ่าไก่ด้วยตาตัวเองในวันนั้น

สองวันมานี้ พวกเขาต่างถูกต่อต้าน กระทั่งถูกด่าถึงบรรพบุรุษ กล่าวหาพวกเขาว่าเป็นคนทรยศเพราะเข้าข้างหลี่จุ่น ต้องการให้เขาเป็นผู้บัญชาการคนใหม่ของชายแดนทางตอนเหนือ ดังนั้นจึงกุเรื่องหลอกลวงเช่นนี้ขึ้นมา

พวกเขาขมขื่นเพราะพูดออกมาไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อหลี่จุ่นแพ้แข่งม้าในรอบแรก นั่นเป็นการยืนยันความจริงที่ว่าเขาเป็นคนไม่เอาถ่านในทันที และยังเป็นการยืนยันโดยตรงว่าพวกเขาเป็นคนทรยศ

พวกเขากลัดกลุ้มใจเป็นอย่างยิ่ง

ทว่า

หลี่จุ่นพลันตัดสินใจที่จะเสี่ยงโดยการให้ม้าตัวเดียววิ่งสามรอบจนเอาชนะท่านกุนซือได้และได้รับชัยชนะในการแข่งม้า ในที่สุดพวกเขาก็สามารถตะโกนโห่ร้องออกมาดังๆ ได้แล้ว

โห่ร้องว่าท่านอ๋องไม่ใช่คนที่ไม่เอาถ่าน

นี่คือความจริง แต่ที่พวกเขาพูดว่าหลี่จุ่นไม่ใช่คนไม่เอาถ่าน ไม่ใช่เพราะเข้าข้างเขา แต่เพราะเขาไม่ใช่คนไม่เอาถ่านจริงๆ

นี่คือความจริง

“พวกเจ้าเห็นหรือยัง ท่านกุนซือแพ้แล้ว ท่านอ๋องเป็นผู้ชนะ”

“ท่านกุนซือเก่งในเรื่องแข่งม้าปานนี้ แทบจะไม่เคยแพ้มาก่อน แต่บัดนี้เขากลับแพ้ให้กับท่านอ๋อง คนเช่นนี้จะไม่เอาถ่านได้อย่างไร เขาไม่ใช่”

“เขาไม่ใช่คนไม่เอาถ่าน”

“นี่คือความจริง”

“...”

คนกลุ่มนี้ตะโกนโห่ร้องเสียงดังเพื่อระบายความรู้สึกที่อัดอั้นที่อยู่ในใจออกมา และยังฉวยโอกาสนี้ชี้หน้าด่าทอคนที่บังอาจต่อต้านพวกเขา ชี้หน้าด่าแม่พวกเขา ด่าจนพวกเขาหน้าเครียด...

แต่คนที่โดนด่าเป็นคนผิดอยู่แล้วจึงไม่กล้าตอบโต้อันใดเลย...ทำได้แค่จ้องตาเขม็ง

เมื่อเห็นสมมาพาควรแล้ว คนของหน่วยทหารม้าก็รู้ว่าในที่สุดโอกาสก็มาถึง กระนั้นจึงรีบโห่ร้องตามคนที่โห่ร้องให้หลี่จุ่น

“ถูกต้องแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ท่านอ๋องจะไม่เอาถ่าน”

“เหตุใดพวกเจ้าทหารม้าก็พูดเช่นนี้ ดูเหมือนพวกเจ้าไม่เคยไปดูท่านอ๋องคนนั้นฆ่าไก่มาก่อนใช่หรือไม่”

“ใช่แล้ว... เหตุใดพวกเจ้าจึงเข้ามาสอดแทรกด้วยเล่า”

“ไม่ พวกข้าพูดความจริง ท่านอ๋องไม่ใช่คนไม่เอาถ่านอย่างแน่นอน เพราะหากไม่เอาถ่าน ท่านอ๋องคงไม่สามารถชนะการแข่งม้าครั้งนี้ได้”

“นี่...”

“ช่วยพูดให้กระจ่างที”

หน่วยทหารม้ามองทุกคนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “เพราะท่านอ๋องสามารถดูออกว่าม้าหนึ่งตัวสามารถวิ่งได้สามรอบโดยไร้ปัญหา นี่แหละคือข้อพิสูจน์”

“อะไรนะ”

“หมายความว่าอย่างไร”

ทุกคนต่างตกตะลึง

คนของหน่วยทหารม้ารีบอธิบายว่า “พวกเราเป็นทหารม้า ม้าศึกเป็นเสมือนพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของเรา ฉะนั้นพวกเราจึงคุ้นเคยกับม้าศึกอย่างมาก ม้าศึกทั้งหมดในกองทัพพิทักษ์อุดรของเราไม่นับว่าวิ่งได้วันละพันลี้ แต่วิ่งได้วันละสามสี่ร้อยลี้ก็ยังมีเรงเหลือเฟือ การวิ่งเร็วสองสามลี้เช่นนี้ (หนึ่งลี้เท่ากับห้าร้อยเมตร) ไม่นับว่าเป็นปัญหาใหญ่โตอันใด”

“ลู่วิ่งแข่งนี้มีความยาวเพียงหนึ่งจั้งเท่านั้น สำหรับม้าศึกแล้ว เป็นเพียงการวิ่งเหยาะๆ หนึ่งรอบเท่านั้น ฉะนั้นไม่ต้องพูดม้าหนึ่งตัววิ่งสามรอบ แม้แต่ห้ารอบก็ยังสามารถคงสภาพที่ดีที่สุดไว้ได้”

“นั่นก็หมายความว่า ท่านอ๋องมีความคุ้นเคยกับความอดทนของม้าศึก ฉะนั้นจึงตัดสินว่าม้าหนึ่งตัวสามารถวิ่งสามรอบได้”

“ถูกต้องแล้ว เป็นจริงดังที่กล่าวมา ท่านอ๋องไม่ได้คาดเดามั่วซั่ว หากเดามั่วก็คงไม่สามารถเดาวิธีการเช่นนี้ได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน