“หิน?”
ดวงตาที่สวยงามของหลี่เหวินจวินยิ่งดูประหลาดใจมากขึ้นไปอีก “น้องหก เจ้าหมายถึงเจ้าเอาหินขว้างเหยื่อจนตายมากมายขนาดนี้เลยงั้นหรือ”
นางไม่ได้นับดูอย่างละเอียด แต่คิดว่าน่าจะมีประมาณสิบห้าสิบหกตัว
ซึ่งเช้านี้นางล่าได้แค่เจ็ดตัวเท่านั้น!
เขาใช้ก้อนหินขว้างได้สิบห้าสิบหกตัวเลยงั้นรึ
เป็นไปได้อย่างไรกัน
เหล่าองครักษ์ที่อยู่ด้านหลังต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจเมื่อได้ยินหลี่จุ่นบอกว่าเขาใช้หินขว้าง
พวกเขาเดาได้ว่าพวกมันถูกขว้างด้วยหิน แต่นี่เป็นเรื่องที่น่าประหลาดเกินไป
การเอาหินขว้างกวางสิบแปดตัวจนตายนั้นมันเป็นเรื่องเกินไปหน่อยไหม
หลี่จุ่นรู้สึกเขินอายมาก เขารู้สึกผิดเล็กน้อยที่ต้องโกหกหลี่เหวินจวิน แต่จะไม่โกหกก็ไม่ได้
ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
“ใช่แล้วพี่หญิง”
หลี่จุ่นขมวดคิ้วและพยักหน้า “หัวหน้าขันทีหยางกับข้าพบกวางกลุ่มหนึ่งด้านล่างหน้าผา เราที่ยืนอยู่บนหน้าผาจึงขว้างหินใส่พวกมัน แล้วเราก็โชคดีมากที่ฆ่าพวกมันได้สิบแปดตัว”
พบฝูงกวางด้านล่างหน้าผา?
ใช้หินขว้าง?
โชคดีที่ฆ่าได้สิบแปดตัว?
ริมฝีปากของหลี่เหวินจวินอ้าออกเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของนางจ้องมองไปที่หลี่จุ่นอย่างมึนงง และรู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันช่างแปลกประหลาดเกินไป
“อะแฮ่ม พี่หญิง ท่านล่าได้กี่ตัวแล้ว” หลี่จุ่นเห็นหลี่เหวินจวินมองเขาด้วยความตกใจ จึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว
หลี่เหวินจวินพูดด้วยน้ำเสียงคับแค้นใจ
“ข้าไม่เก่งเท่าเจ้าหรอกน้องหก เช้านี้ข้าล่าได้แค่เพียงเจ็ดตัวเท่านั้น”
“เจ็ดตัวเลย สมกับเป็นพี่หญิงใหญ่จริง ๆ!”
หลี่จุ่นกล่าวชมนางทันที แต่กลับได้รับสายตาว่างเปล่าจากหลี่เหวินจวินกลับมา
เจ็ดตัวเก่งแล้ว?
แล้วสิบแปดตัวแบบเจ้าล่ะจะพูดอย่างไรดี
“อะแฮ่ม พี่หญิง ถ้าอย่างนั้นเช้านี้เราก็ล่าได้ยี่สิบห้าตัวแล้ว แล้วถ้าเราล่าอีกสิบเจ็ดตัวก่อนเที่ยงคืนของวันนี้ เราก็จะสามารถผ่านด่านไปได้!” หลี่จุ่นกล่าว
หลี่เหวินจวินพยักหน้า แต่สีหน้าของนางไม่ได้มองโลกในแง่ดีและพูดว่า
“มันคงไม่ง่ายขนาดนั้น ตอนนี้องค์รัชทายาทและองค์ชายสี่ของเจ้าขึ้นไปบนภูเขาแล้ว เมื่อวานนี้องค์รัชทายาทไม่ได้ทรงออกแรงเท่าไร ข้าเกรงว่าวันนี้กลุ่มของเขาจะต้องได้เปรียบมากกว่า”
หลี่จุ่นเห็นด้วย
และเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที
หรือว่าเขาจะต้องใช้หน้าไม้เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในบ่ายวันนี้?
แต่ว่าในช่วงบ่ายคนจะเยอะขึ้น ดังนั้นมันจึงง่ายที่จะถูกเปิดโปง
ซึ่งมันก็อาจจะยากขึ้น
“น้องหก อย่าได้กังวลมากเกินไป มีข้าอยู่ทั้งทีเราจะต้องไม่ถูกคัดออกอย่างแน่นอน” หลี่เหวินจวินเห็นท่าทางกังวลใจของหลี่จุ่น จึงยิ้มขึ้นและพูดเบา ๆ เพื่อปลอบใจเขา
หลี่จุ่นพยักหน้า “ได้พี่หญิง ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวไปทานอาหารก่อน”
“ได้สิ”
หลี่เหวินจวินพยักหน้า
สองพี่น้องแยกทางกัน หลี่จุ่นและหยางจงจึงกลับไปยังตำหนัก
จ้าวเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันได้ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อล่าสัตว์ร่วมกับคนของหลี่เหวินจวิน ส่วนเสิ่นจิงหงและคนอื่น ๆ ก็ขึ้นไปล่าสัตว์ และไม่ได้อยู่ที่ตำหนักเช่นกัน
หลังจากที่ทั้งสองทานอาหารเช้าแล้ว หยางจงก็ถามขึ้นอย่างกังวล
“องค์ชาย เราควรทำอย่างไรกันดีพ่ะย่ะค่ะ ยังเหลืออีกสิบเจ็ดตัว ตอนนี้องค์ชายรัชทายาท องค์ชายสี่และคนอื่น ๆ ต่างก็ขึ้นไปบนภูเขาแล้ว หากจะลงมือแย่งชิงจากพวกเขา เห็นทีจะเป็นเรื่องยากนะพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จุ่นหรี่ตา จิบชา ลุกขึ้นและเดินไพล่หลังไปรอบ ๆ ในตำหนัก
หลี่เหวินจวินพูดถูก
เมื่อวานองค์รัชทายาทไม่ได้ออกแรงอะไรเลย ดังนั้นวันนี้จะต้องเป็นสนามเจ้าถิ่นของเขา นอกจากนั้นองค์ชายสี่ก็ไม่ใช่พวกที่หาเรื่อง และตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการหยิบอาหารจากปากเสือซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าวันนี้เขากับหลี่เหวินจวินไม่ขึ้นไปบนภูเขาแต่เช้า ก็คงคว้าอากาศ และการแข่งขันคงจะดุเดือดรุนแรงขึ้นไปอีก
แต่ก็ถือว่าได้ช่วงชิงเวลาส่วนใหญ่มาได้
ตามหลักแล้วเหล่าผู้มีฝีมือลูกน้องของหลี่เหวินจวิน รวมถึงจ้าวเฟยเอ๋อร์ซึ่งเป็นผู้มีทักษะอันดับหนึ่งในด้านการยิงธนูก็สามารถล่าได้ถึงสิบเจ็ดตัว แต่เมื่อพิจารณาจากผลงานของเมื่อวานนี้ ตอนนี้มาคิด ๆ ดูก็ยังพอไปวัดไปวาได้
เขาก็วางใจไม่ได้เหมือนกัน
ดังนั้นจึงต้องคิดหาวิธี
หลี่จุ่นเดินวนไปวนมาในตำหนักอยู่นานหนึ่งก้านธูป และทันใดนั้นก็พูดว่า “หัวหน้าขันทีหยาง เตรียมตัวให้พร้อม เราจะไปที่ภูเขากันอีกครั้ง”
“พ่ะย่ะค่ะองค์ชาย”
หยางจงไม่รู้ว่าหลี่จุ่นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อหลี่จุ่นบอกว่าเขาต้องการเข้าไปในภูเขา ก็คิดว่าคงมีแผนรับมืออะไรบางอย่างเป็นแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามอะไรอีก
ทั้งสองเก็บข้าวของและมุ่งหน้าไปยังภูเขาอีกครั้ง
ในครั้งนี้หลี่จุ่นไม่ได้นำพลุสัญญาณหรือหน้าไม้ไป แต่มีเพียงธนูขนาดใหญ่อยู่บนหลัง
หยางจงรู้สึกสับสน หรือว่าองค์ชายจะไม่ไปล่ากวางแล้ว?
แล้วพวกเขาจะไปทำอะไรบนภูเขาล่ะ
ทั้งสองเข้าไปในส่วนลึกของป่า และหลี่จุ่นก็ขอให้หยางจงมองหารอยกีบม้าบนพื้นหิมะ
“องค์ชาย ทรงกำลังทำอะไรอยู่รึพ่ะย่ะค่ะ” หยางจงอดไม่ได้ที่จะถาม
หลี่จุ่นหรี่ตาลง “ในเมื่อแย่งอาหารจากปากเสือไม่ได้ งั้นเราก็ต้องทำให้อีกฝ่ายหลงทาง”
ทำให้อีกฝ่ายหลงทาง?
หยางจงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับมาทำความเข้าใจกับสิ่งที่หลี่จุ่นพูด แต่จะทำอย่างไรล่ะ?
หลี่จุ่นมองหารอยเท้าในหิมะ และพูดว่า
“ก่อนอื่นต้องหาที่ที่กลุ่มขององค์รัชทายาทหรือพี่สี่ไปก่อน”
แม้ว่าจะไม่มีหนทาง แต่เราก็ต้องหาวิธีรับมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน