“ช่างไร้สาระสิ้นดี ไร้สาระ!”
หลี่เจิ้งที่เพิ่งจะอารมณ์ดีได้เพียงชั่วครู่ก็พลันต้องอารมณ์เสียอีกแล้ว
นี่ช่างทำไปเรื่อยจริง ๆ!
เมืองเฟิงหั่วที่กองทัพพิทักษ์อุดรปกป้องกันมาหลายปีขนาดนี้ให้ทิ้งไปอย่างนี้น่ะหรือ?
มิหนำซ้ำยังทำให้ทัพใหญ่ของซือหม่าชิงอวิ๋นลงใต้อีก นี่มันบ้าไปแล้วหรือเปล่า?!
ก็ยังคิดว่าให้ลูกชายคนนี้คงคิดจะแก้แค้นตัวเองเป็นแน่ จึงจงใจสั่งการไปเรื่อย?
เสิ่นคั่วเห็นสีหน้าของหลี่เจิ้ง ก็รีบเอ่ยขึ้นว่า
“คือว่า...ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่ออัครมหาเสนาบดีจี้ไม่ได้มีการคัดค้านอะไร มิหนำซ้ำยังจงใจขอร้องให้ฝ่าบาททรงห้ามจิ่งอ๋อง คิดว่าอัครมหาเสนาบดีจี้เองก็ตกลงแล้ว อัครมหาเสนาบดีจี้กับจิ่งอ๋องคงจะไม่มีแผนอะไรเป็นแน่”
หลี่เจิ้งขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม เขาครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยขึ้นพลางพยักหน้าเล็กน้อย
“ที่ไท่ฟู่พูดมาก็มีเหตุผลเช่นกัน แต่นี่มันสั่งการไปเรื่อยเกินไปแล้ว หากสูญเสียเมืองเฟิ่งหั่วไป แม่ทัพทัพศัตรูคงได้เร่งเดินทัพพร้อมทั้งบุกเข้ามา พุ่งตรงมายังเมืองหลวงเราเลยนะ”
เสิ่นคั่วทำได้เพียงเอ่ยขึ้นว่า “กระหม่อมคิดว่า ตอนนี้มีเพียงต้องเชื่อพวกเขาทั้งสองคน ถึงจะสามารถกอบกู้ราชวงศ์อู่ของเราจากวิกฤติได้”
หลี่เจิ้งพลันถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ดูจากตอนนี้ คงต้องทำเช่นนี้จริง ๆ ตอนนี้ด่านเหิงกู่หมิ่นเหม่ ทัพเหยียนอ๋องทางด่านเฟิงเป่ยเองก็ยากจะต้านทานทัพใหญ่ของโจวชิง...หากไม่เสริมกองกำลัง ไม่ว่าจะเป็นด่านเหิงกู่หรือด่านเฟิงเป่ยก็ต้องถูกตีแตกเป็นแน่!”
เสิ่นคั่วพยักหน้า
หลี่เจิ้งลุกขึ้นอย่างผิดหวัง มา ๆ ไป ๆ เดินไปเดินมาอยู่ในตำหนัก
ทันใดนั้นก็ครุ่นคิด หวังเหลียนที่ถอยออกจากประตู ให้เขาเฝ้าอยู่ด้านนอก
ในขณะนี้เองถึงได้มองไปยังเสิ่นคั่วพลางเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ไท่ฟู่...เจ้าคิดว่าข้าควรทำอะไรสักหน่อยใช่หรือไม่?”
เสิ่นคั่วยังคงซุกสองมือเอาไว้ในแขนเสื้อดังเดิม เขากลับส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ที่วันนี้กระหม่อมมายังมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากทูลพ่ะย่ะค่ะ ในจดหมายของท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ยังกำชับเอาไว้เป็นพิเศษว่า ที่เมืองหลวงตอนนี้ไม่ควรจะกระทำการหุนหันพลันแล่น สถานการณ์วิกฤติของราชวงศ์อู่ในตอนนี้อาจจะ...ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจิ่งอ๋อง!”
“หืม?!”
หลี่เจิ้งตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบเอ่ยถามขึ้นว่า “ไม่นึกเลยว่าอัครมหาเสนาบดีจี้จะเชื่อมั่นในตัวเจ้าหกขนาดนี้? แต่เจ้าหกยังมีวิธีใดที่จะกอบกู้แนวโน้มในตอนนี้กัน?”
“เรื่องนี้กระหม่อมไม่รู้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสิ่นคั่วส่ายหน้า ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนาแล้วเอ่ยขึ้นว่า “แต่ว่า กระหม่อมคิดว่าในเมื่ออัครมหาเสนาบดีจี้เอ่ยปากเช่นนี้แล้ว คิดว่าท่านอัครมหาเสนาบดีจี้คงมั่นใจในตัวจิ่งอ๋องไม่น้อย”
นัยน์ตาของหลี่เจิ้งประกายความสงสัยนิดหน่อย เขาครุ่นคิด ก่อนจะหัวเราะเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นว่า
“ฮ่า ๆ ๆ หากเจ้าหกเปลี่ยนแนวโน้มของราชวงศ์อู่เราในตอนนี้ได้จริง ๆ เช่นนั้นก็จะพิสูจน์ได้ว่าเราเลือกคนไม่ผิด! ช่างเถอะ เจ้าลูกคนนี้ทำให้ข้าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ตอนนี้จะลองเชื่อมั่นในตัวเขาอีกสักคราก็แล้วกัน”
“แต่ว่า เรื่องนี้ท้ายที่สุดแล้วก็พัวพันถึงความปลอดภัยและอันตรายของราษฎรในใต้หล้า พัวพันถึงแผ่นดินราชวงศ์อู่ของเรา ข้าเองจะไม่เตรียมแผนสำรองก็ไม่ได้ ต้องจับตาดูสถานการณ์รบของด่านเหิงกู่และด่านเฟิงเป่ยอยู่ตลอดเวลา ส่งคนของหน่วยข่าวลับออกไป ตอนนี้ข้าจะต้องได้รับข่าวสถานการณ์รบของทั้งสองฝ่ายทุกวัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...