หลี่จุ่นนึกออกแล้วว่าจะให้เฟิงอู่หังทำอย่างไรดี
จึงเตรียมตัวจะไปขอความเห็นจากจักรพรรดินีทันที จากนั้นจึงถ่ายทอดคำสั่ง
ทว่า
เพิ่งออกจากกระโจมก็เจอกับซั่งกวนเฮ่า!
หลี่จุ่นสะดุ้ง
ทำไมจู่ ๆ เจ้านี่ถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ได้
“ทำไมเจ้าถึงอยู่ที่นี่ได้!” หลี่จุ่นโพล่งปากออกไป
ซั่งกวนเฮ่าหัวเราะเลิ่กลั่ก ตอบ
“ทำไมท่านต้องทิ้งข้าด้วย ให้ข้าตามหาลำบากแทบแย่”
“เอ่อ...”
หลี่จุ่นพูดไม่ออก
ถ้าจำไม่ผิด วันที่เคลื่อนทัพเขาหายตัวไปตั้งแต่เช้าแล้ว
“ช่างเถอะ เอาไว้ข้ากลับมาแล้วค่อยคุยกันเถอะ”
หลี่จุ่นโบกมือพลัน
คิดไม่ถึงว่าเจ้านี่จะไม่ลงมือกับจักรพรรดินี!
ก่อนหน้านี้ลืมถามเรื่องเจ้านี่กับจักรพรรดินีไปเลย
แต่นี่มันอย่างไรกันเนี่ย
หรือว่าใจเสาะระแวง ก็เลยไม่หลงกลเขา ไม่รีบร้อนลงมือ
หรือไม่ก็คือเขาสันนิษฐานผิด
ไม่อย่างนั้นที่หลอกเขาเมื่อก่อนหน้านี้ บอกว่าจักรพรรดินีบาดเจ็บสาหัส ถ้ามีใจคิดชั่วจริง จะพลาด ‘โอกาส’ นี้ไปได้อย่างไร
“ได้ เช่นนั้นข้าจะรอท่านอยู่ในกระโจมก็แล้วกัน”
ซั่งกวนเฮ่าพยักหน้า เข้ากระโจมทันที
หลี่จุ่นส่ายหน้าแล้ววิ่งไปที่กระโจมกลางกองทัพ
นอกกระโจมเพิ่งรายงาน จักรพรรดินีก็เรียกให้เขาเข้าไป
พอเห็นเขา จักรพรรดินีก็พูดว่า
“ท่านมาได้พอดีเลย เมื่อครู่ข้าได้รับข่าวสำคัญมา เมืองหลวงราชวงศ์อู่มีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นกำลังคิดจะตามท่านมาหารือด้วย!”
เมืองหลวงราชวงศ์อู่มีการเปลี่ยนแปลงหรือ
หลี่จุ่นแปลกใจนิด ๆ จึงถาม
“เมืองหลวงราชวงศ์อู่เกิดการเปลี่ยนแปลงอันใดหรือพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดินีคิดแล้วจึงยื่นจดหมายในมือให้หลี่จุ่นพร้อมพูดว่า
“นี่คือจดหมายที่สายของข้าในเมืองหลวงราชวงศ์อู่ใช้ม้าเร็วลงแส้ส่งมา ท่านลองอ่านดู”
หลี่จุ่นรับมาทันที อ่านอย่างละเอียด
ครู่หนึ่งแล้วก็อ้าปากตะลึงงันไปทั้งคน!
แม่เจ้าโว้ย!
ไม่ปกติมาก ๆ!
จักรพรรดินีพยักหน้าอย่างเห็นด้วยหนัก ๆ เอ่ย
“ถูกต้อง เรื่องไม่ง่ายอย่างนั้น ฮ่องเต้ราชวงศ์อู่ไม่ใช่คนอ่อนด้อยเช่นนี้ จะไม่ถูกบีบให้สละราชสมบัติง่าย ๆ อย่างนี้ เด็ดขาด เพียงแต่...ฮ่องเต้ราชวงศ์อู่คิดจะทำอะไร เรื่องนี้ข้าคิดไม่ตก”
หลี่จุ่นคิดแล้วจึงตอบ
“ฝ่าบาท ในเมื่อทรงคิดไม่ตก เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต้องคิดแล้ว สำหรับกองทัพเรา ที่แย่ที่สุดยังจะแย่ถึงไหนได้”
“ไม่ว่าฮ่องเต้ราชวงศ์อู่จะมาไม้ไหนแผนไหน ก็ไม่อาจทำลายกองทัพสองแสนคนของเราชั่วข้ามคืน ในเมื่อหลี่เจิ้งทำผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดไม่ได้ เช่นนั้นเหตุใดเราต้องกังวลด้วย กระหม่อมกลับคิดว่าโอกาสของทัพเรามาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
จักรพรรดินีตะลึงงันแล้วถาม
“เหตุใดท่านจึงกล่าวเช่นนี้”
หลี่จุ่นยิ้มตอบ
“ฝ่าบาท บัดนี้มหาสงครามนี้ คนใต้หล้าต่างมองว่ากองทัพเราเป็นฝ่ายท้าทายก่อน สำหรับประชาชนราชวงศ์อู่คือกองทัพเรารุกรานราชวงศ์อู่ก่อน”
“ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าอย่างไรประชาชนของราชวงศ์อู่ก็มีจิตใจคิดแค้นกับเรา แต่เวลานี้โอกาสมาถึงแล้ว”
“ฝ่าบาทสามารถประกาศต่อใต้หล้า บอกว่าฮ่องเต้ราชวงศ์อู่สังเกตรู้ว่ารัชทายาทจะก่อกบฏผลัดเปลี่ยนแผ่นดินนานแล้ว จึงแจ้งกับฝ่าบาท ให้พระองค์ยกทัพมาปราบรัชทายาท ไปช่วยเหลือ ดังนั้นพระองค์จึงได้กระทำการเช่นนี้”
“เมื่อนั้นประชาชนราชวงศ์อู่จะรู้สึกว่ากองทัพของเราคือผู้ผดุงความเป็นธรรม มาเพื่อปราบรัชทายาทโดยเฉพาะ เช่นนั้นการที่พวกเราโจมตีเมืองหลวงราชวงศ์อู่ก็คือสมเหตุสมผล ไม่แน่ว่าประชาชนยังจะต้อนรับขับสู้เสียอีก”
คำพูดของหลี่จุ่นทำให้จักรพรรดินีปากอ้าตาค้าง!
ทำเช่นนั้นได้ด้วยหรือ
จักรพรรดินีตะลึงงัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...