องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 959

หลังจากหลี่จุ่นให้จักรพรรดินีประกาศต่อใต้หล้าอย่างนี้ ทั้งยังซื้อตัวคนเมืองหลินโจวอีกจำนวนหนึ่ง ให้พวกเขาไปโพนทะนาป่าวประกาศเรื่องนี้ตามมณฑลต่าง ๆ

แค่ไม่กี่วัน

เรื่องที่จักรพรรดินีมาปราบรัชทายาทก็แพร่สะพัดไปทั่ว แทบจะแพร่ไปทุกแห่งหนตำบล ประชาชนต่างวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้

“ทำไมรัชทายาทผู้นั้นถึงทำเรื่องเช่นนี้ได้”

“นั่นสิ นี่ผิดต่อหลักแห่งฟ้า! สมควรปราบ!”

“คิดไม่ถึงว่าก่อนหน้านี้จะโทษแคว้นหนานผิดไป ข้ายังคิดว่าแคว้นหนานอยากรุกรานราชวงศ์อู่เหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเช่นนี้!”

“ก็นั่นนะสิ วันก่อนน้องชายลูกพี่ลูกน้องข้าหนีมาจากอำเภอผิงอัน บอกว่ากองทัพแคว้นหนานไม่ได้ฆ่าคน แถมยังทำตามกฎของกองทัพเคร่งครัด ไม่กล้าละเมิดพวกเราประชาชน ดังนั้นวันนี้น้องชายข้าจึงกลับอำเภอผิงอันแต่เช้า บอกว่าถ้าวันหน้ากองทัพแคว้นหนานมาอีกต้องรับรองอย่างดี!”

“พวกเราก็ช่วยอีกแรงหน่อยเถอะ รัชทายาทผู้นั้นใช้ไม่ได้เลย ทำไมถึงก่อกบฏได้ ฝ่าบาทของพวกเราเป็นผู้ครองแคว้นที่ปรีชาสามารถ!”

“ถูกต้อง เอามันให้ตายไปเลย!”

“...”

ด้วยการชักนำทางวาจาของหลี่จุ่น สร้างประชาพิจารณ์ กลับดำเป็นขาวโดยตรง

แน่นอน กองทัพแคว้นหนานไม่ถือว่าดำอยู่แล้ว

แต่ตอนนี้ประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์ สร้างชื่อว่ากองทัพแคว้นหนานคือผู้ผดุงความยุติธรรม!

การบุกเข้าเมืองหลวงราชวงศ์อู่กลายเป็นเรื่องที่สมควรแก่เหตุผล!

เมื่อข่าวนี้แพร่ไปถึงเมืองหลวงราชวงศ์อู่ เห็นว่ารัชทายาทเกรี้ยวกราดจนขว้างปาสิ่งของทั้งตำหนัก!

ด่าทออยู่ในวังครึ่งวัน!

รัชทายาทโกรธจนเต้นผางเหมือนสายฟ้า ส่วนหลี่เจิ้งที่ถูกกักบริเวณอยู่วังหลังตามข่าวลือเล่า

ครั้นหลี่เจิ้งได้ยินเรื่องนี้ก็ขมวดคิ้วมุ่น

สถานที่ที่หลี่เจิ้งถูกกักบริเวณคือตำหนักบรรทมของฮองเฮา หลายวันนี้ตามติดฮองเฮาไม่ห่าง

พอฮองเฮาได้ยินข่าวนี้พลันตกตะลึงพรึงเพริด คิ้วผูกปมทันที มองหลี่เจิ้งพลางพูดว่า

“ฝ่าบาท นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เพคะ”

หลี่เจิ้งในเวลานี้กำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่ พูดด้วยสีหน้าเย็นชา

“ข้าประมาทนางผู้นี้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะหลอกใช้ข้าเช่นนี้!”

หลี่เจิ้งในยามนี้รู้สึกเหมือนยกหินมาทับเท้าของตัวเอง ทำให้เขาหัวเสียมาก!

ฮองเฮาร้อนรนรีบพูดว่า

“ฝ่าบาท เช่นนั้นเวลานี้ควรทำอย่างไรดีเพคะ หัวใจของไพร่ฟ้าเอนเอียงไปทางแคว้นหนานหมดแล้ว...”

หลี่เจิ้งนิ่งงันครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกทางข้างนอก

ผลลัพธ์คือถูกรัชทายาทสั่งให้คนลากตัวออกไปโบยร้อยไม้นอกท้องพระโรงทันทีทันใด ผลลัพธ์คืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายถูกโบยจนสลบคาที่

เวลานี้ ขุนนางบุ๋นบู๊ทั่วราชสำนักสะพรึง

แต่ละคนตกใจจนหน้าซีดขาว เนื้อตัวสั่นเทิ้ม ไม่มีใครกล้าพูดครึ่งคำอีก

ต่อมา

เมืองหลวงเปลี่ยนฟ้าแล้ว

คหบดีมากมายถูกใช้กำลังริบทรัพย์สินครอบครัวเติมเต็มหลวง แทบจะในเวลาคืนเดียว เมืองหลวงไม่มีคนร่ำรวยอีก ล้วนตกเป็นประชาชนแร้นแค้น

คนที่โดนก่อนก็ต้องเป็นร้านเต้าหู้ตำรับจ้าวและหอสุราหลงไถที่เป็นผู้นำธุรกิจสองธุรกิจนี้อยู่แล้ว

รัชทายาทสั่งให้เพชฌฆาตไปถึงบ้าน ใช้กำลังบีบให้พวกนางมอบเงิน

แม้แต่กั๋วจิ้วผู้เฒ่าก็ยังไม่รอดพ้นอย่างโชคดี เห็นว่าจบเรื่องกั๋วจิ้วไม่ยินยอม ให้คนไปขอความเป็นธรรม แต่ถูกรัชทายาทผู้กำเริบเสิบสานให้คนตีตายเดี๋ยวนั้น

กั๋วจิ้วผู้เฒ่าตกใจทันที ไม่กล้าผายลมสักครึ่งสาย

ตอนนี้เอง

ทุกคนต่างรู้ว่ารัชทายาทวิปลาสไปแล้ว

นี่เขาชักดาบกับคนมีเงินแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ยึดเงินเป็นของตัวเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน