ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 101

“เตรียมเสร็จพอประมาณแล้ว!” ผู้ดูแลร้านช่ายพูดว่า “แต่ว่า คุณชายลองบอกว่ามีแขกผู้หญิงท่านหนึ่งที่กินเจ ยังต้องทำให้อร่อยด้วย! เรื่องนี้ข้าคิดหนักมาก อาหารเจไม่ว่าจะทำยังไง ก็ไม่มีรสชาติของเนื้อเลย!”

“ได้สิ!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม

เรื่องนี้ง่ายจะตายไป ลู่ม่านคิดในใจ ผงเครื่องเทศสิบสามชนิดที่เพิ่งคิดค้นออกมา ก็จะมีคนต้องการในไม่ช้านี้แล้ว

“ทำยังไงหรือ?” ผู้ดูแลร้านช่ายมองหน้าลู่ม่านที่เหมือนกำลังคุยโวอยู่ ข่าวเรียนรู้การทำอาหารมาก็ไม่ใช่ปีสองปีแล้ว และยังเป็นภัตตาคารเฟิ่งหลายที่ อ๋อมีแต่อาหารอร่อยๆขาย เมื่อมีอะไรบ้างที่เขาไม่เคยเห็น

แต่การผัดผักกาดขาวให้ออกมาเป็นรสเนื้อได้ เขายังไม่เคยเห็นจริงๆ

ลู่ม่านเห็นเขาทำหน้าไม่เชื่อ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะยังไงมีหลายๆอย่างที่ไม่พูดไปก็ไม่มีประโยชน์ ต้องทำให้เขาเห็นกับตาเท่านั้น

ดังนั้น นางจึงถามไปตรงๆว่า “หลังครัวอยู่ไหน?”

“ตามข้ามา!” ถึงแม้ผู้ดูแลร้านช่ายจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ยังอยากเห็นลู่ม่านทำอยู่ดี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลู่ม่านคิดออกมามันดีมาก และยังมีผลไม้กวนด้วย

หลังครัวของภัตตาคารเฟิ่งหลายก็สุดยอดมากเหมือนกัน ลู่ม่านจะเห็นหลังครัวที่ใหญ่แบบนี้เฉพาะในโรงแรมห้าดาวในโลกปัจจุบันเท่านั้น

ตอนที่ลู่ม่านติดตามผู้ดูแลร้านช่ายเข้าไป พวกพ่อครัวกำลังทำงานกันให้วุ่น

เห็นทั้งสองคนเข้ามา ทุกคนก็หยุดงานในมือแล้วมองไปยังผู้ดูแลร้านช่าย สองวันมานี้ ผู้ดูแลร้านช่ายออกคำสั่งสิบกว่าครั้งต่อวันเพื่องานเลี้ยงในครั้งนี้ พวกเขาต่างก็ชินกันแล้ว

ไม่คิดว่า ผู้ดูแลร้านช่ายกับแค่ปัดมือ “พวกเจ้าออกไปก่อน”

ทุกคนอึ้งกันหมด “คือ……ผู้ดูแลร้าน ยังมีของอีกมากมายที่ยังเตรียมไม่เสร็จนะขอรับ”

ผู้ดูแลร้านช่ายเงียบไปสักพัก มองดูวัตถุดิบที่อยู่เต็มโต๊ะ ก็กัดฟันแล้วพูดว่า “ออกไป……”

“ไม่ต้องหรอก!” ลู่ม่านยกมือขึ้นห้าม “ไม่ใช่ความลับอะไรสักหน่อย ก็แค่การผัดผักธรรมดา ให้พวกพ่อครัวดูก็ไม่เป็นไรหรอก”

ผู้ดูแลร้านช่ายไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ “แค่ผัดผักธรรมดา จะผัดรสชาติที่แตกต่างอะไรออกมาได้?” เขาคิดว่าจะเป็นสูตรลับอะไรเสียอีก

“แน่นอนสิ!” ว่าแล้ว ลู่ม่านก็เลิกแขนเสื้อขึ้นแล้วเตรียมทำอาหารทันที

ผักกาดขาวที่ล้างเสร็จเตรียมไว้แล้ว ลู่ม่านก็ขอเต้าหู้มาอีก

ผักผัดเต้าหู้เป็นรสชาติที่อ่อนมาก หากทำรสชาติที่ดีออกมาได้ ก็จะดึงดูดคนได้มากเช่นกัน

พวกพ่อครัวที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้วต่างก็มองดูผู้หญิงคนนี้อย่างไม่อยากจะเชื่อ โดยเฉพาะพ่อครัวคนนั้น เขารู้สึกว่าลู่ม่านกำลังโม้อยู่ แต่ผู้ดูแลร้านช่ายกลับยอมฟังนางโม้

เขามองดูด้วยสายตาที่เย็นชา เห็นลู่ม่านใส่น้ำมันแล้วผัดธรรมดา จากนั้นก็ใส่เกลือ

เห็นว่าใกล้จะเสร็จอยู่แล้ว ในที่สุดเขาก็อดไม่ได้หัวเราะเยาะออกมา “แม่นาง อาหารแบบนี้คงเทียบกับพ่อครัวที่มาใหม่ในภัตตาคารเฟิ่งหลายไม่ได้ด้วยซ้ำ”

ลู่ม่านไม่โกรธ แต่กลับหัวเราะแล้วพูดว่า “เทียบได้หรือไม่ เดี๋ยวพวกท่านลองชิมก็จะรู้เอง”

ได้ยินคำนี้แล้ว อาหารก็มีกลิ่นหอมโชยออกมา ลู่ม่านหยิบผงเครื่องเทศสิบสามชนิดที่เตรียมเอาไว้ในกระเป๋าออกมาสาดลงไป

จากนั้นก็ผัดอีกสองที กลิ่นหอมก็โชยออกมาจากกระทะ ทุกคนต่างก็สูดดมกันใหญ่ “นี่คือ?”

ครั้งก่อนผู้ดูแลร้านช่ายเคยเห็นผงเครื่องเทศห้าชนิด จึงถามไปว่า “นี่คือผงเครื่องเทศห้าชนิดเหรอ?”

“ไม่ใช่!” ลู่ม่านส่ายหัว “ผงเครื่องเทศห้าชนิดมีผลต่อเนื้อสัตว์มากกว่า แต่หากจะใช้สำหรับอาหารเจ ต้องเป็นนี่เลย ผงเครื่องเทศสิบสามชนิด”

“ผงเครื่องเทศสิบสามชนิด!” ผู้ดูแลร้านช่ายพึมพำ และน้ำลายสอขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ

มีผู้ช่วยครัวยื่นจานมาให้ ลู่ม่านเทผักกาดขาวลงไป จากนั้นก็เริ่มผัดเต้าหู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน