ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 102

“แม่นางลู่ เห็นแก่ที่ข้าไปหมู่บ้านไป่ฮัวกับคุณชายรองตลอด สงสารข้าหน่อยเถอะนะ ข้าตัดสินใจแล้ว ข้าจะเอาผงเครื่องเทศสิบสามชนิดนี้”

ทั้งที่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ เขาไม่จำเป็นต้องไม่เลือกก็ได้

ลู่ม่านก็ถึงหยุดเดิน “ผู้ดูแลร้าน ข้าเห็นแก่ที่พวกเรารู้จักกันมานาน……”

“ใช่ๆๆ!” ผู้ดูแลร้านช่ายปาดเหงื่อ กำลังจะรีบกระบอกไม้ไผ่มา ทันใดนั้นพ่อครัวที่อยู่ด้านหลังก็เลิกแขนเสื้อขึ้น “ในเมื่อท่านไม่เชื่อข้าแล้วดึงดันจะใช้ผงเครื่องเทศนี้ งั้นอาหารเย็นมื้อนี้ ท่านก็ไปเชิญคนอื่นมาทำเถอะ!”

ผู้ดูแลร้านช่ายรีบเข้าไปห้ามพ่อครัวใหญ่ไว้ “นี่ไม่เหมาะสมนะ พ่อครัวฟ่าน ท่านทำงานในภัตตาคารเฟิ่งหลายมาไม่ใช่วันสองวันแล้ว ท่านจะมาทิ้งงานไปแบบนี้ไม่ได้นะ”

พ่อครัวฟ่านทำหน้าดูถูก และยังมีความไม่พอใจเล็กน้อย “ผลลัพธ์นี้ผู้ดูแลร้านท่านเป็นคนเลือกเอง โทษข้าไม่ได้ แน่นอนว่า ข้าก็ไม่ได้ไร้หัวใจขนาดนั้น หากท่านอยากให้ข้าอยู่ต่อ งั้นก็เลือกระหว่างข้ากับผงเครื่องเทศสิบสามชนิด ท่านจะเลือกอันไหน”

“นี่……” ผู้ดูแลร้านช่ายอึ้ง “พ่อครัวฟ่าน ท่านก็รู้ว่าแขกวันนี้สำคัญมากแค่ไหน?”

“ก็เพราะว่าสำคัญไง ข้าถึงได้ไม่อยากเสี่ยง”

แต่ว่า สำหรับผู้ดูแลร้านช่ายแล้ว ไม่เพียงแต่เป็นแค่ปัญหาเสี่ยงเท่านั้น เขาทำงานในภัตตาคารเฟิ่งกลายตำบลชางผิงมานานหลายปี ไม่เคยโดดเด่นเลย แถมตำบลชางผิงยังเป็นตำบลที่ยากจนด้วย จะมีโอกาสอะไรได้ล่ะ?

หากไม่ใช่เพราะคุณชายรองมาเปิดโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่นี่ เกรงว่าทั้งชีวิตนี้ของเขาคงรอโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้ ตอนนี้กว่าจะได้โอกาสนี้มา มีแขกผู้ทรงเกียรติมา หากยอมเสี่ยงหนึ่งครั้ง เพื่อแลกกับความชื่นชอบของแขกผู้ทรงเกียรติได้ ไม่แน่อนาคตอาจจะมีโอกาสได้กลับไปเมืองหลวงก็ได้

ครอบครัวของเขายังอยู่ในเมืองหย่งอานอยู่เลย

“พ่อครัวฟ่าน เรื่องนี้ท่านต้องเชื่อข้านะ มีปัญหาอะไรข้าจะรับผิดชอบเอง”

“ท่านจะรับผิดชอบไหมเหรอ? ถ้าเกิดมีปัญหาร้ายแรงเกินขึ้นก็ทำลายชื่อเสียงของข้าด้วยนะ!” พ่อครัวฟ่านพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หากพูดถึงคนที่ต้องรับผิดชอบก็ต้องเป็นพวกเขา ไม่ใช่ท่าน!”

“รับผิดชอบก็รับผิดชอบ!” ในที่สุดลู่ม่านก็ทนไม่ไหว พ่อครัวฟ่านเห็นได้ชัดว่าอายที่นางทำอาหารอร่อยกว่า แต่กลับมาพูดจาประชดประชันเสียดสีแบบนี้ น่าเหนื่อยใจเสียจริง

เทียบไม่ได้กับเฉินหลี่ซื่อด้วยซ้ำ มีอะไรก็พูดกันตรงๆ อืดอาดยืดยาดอย่างกับผู้หญิง

ผู้ดูแลร้านช่ายร่าเริงใหญ่ “แม่นางยอมช่วยข้าเหรอ?”

“ข้าไม่ได้จะช่วยเจ้าหรอกนะ แต่พ่อครัวฟ่านพูดถูก ของของใครก็ต้องให้ผู้นั้นรับผิดชอบ ในเมื่อผงเครื่องเทศสิบสามชนิดเป็นของข้า งั้นโต๊ะอาหารเจข้าจะรับผิดชอบเอง”

พ่อครัวฟ่านได้ยินแล้วก็อึ้ง สีหน้าแย่ลงมาทันที ที่จริงเขาก็แค่ไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าลูกน้องก็เท่านั้น ไม่คิดว่านี่จะเป็นการยกก้อนหินมาทับขาตัวเองเลย

ตอนนี้อยากจะกลับคำก็ไม่ทันแล้ว จึงต้องพูดเสียงแข็งว่า “แบบนี้ก็ได้! ในเมื่อจะเอาเช่นนี้ แม่นางก็เชิญเลย!”

เฉินจื่ออานที่อยู่ด้านหลังกลับดึงมือของลู่ม่านอย่างเป็นห่วง “เสี่ยวม่าน……”

“ไม่เป็นไร” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พูดกับผู้ดูแลร้านช่ายว่า “ข้าต้องการห้องครัวเดี่ยว อาหารเจของเราก็ยกไปทางนั้นด้วย”

“ได้เลย!” ผู้ดูแลร้านช่ายรีบไปเตรียมของ ไม่นานก็เตรียมห้องครัวเล็กๆออกมา

ห้องครัวเล็กนั้นปกติเอามาทำพวกยำ ด้านในสะอาดมาก และยังมีเตาเล็กๆด้วย สามารถเอามาทำอาหารได้

ลู่ม่านพึงพอใจกับห้องครัวนี้มาก

เชิญคนที่ส่งผักออกไปแล้ว ลู่ม่านก็เหลือเฉินจื่ออานให้ช่วยนางแค่คนเดียว เหอะ พ่อครัวใหญ่คนนั้นเกลียดนางขนาดนี้ นางไม่อยากโดนขาใส่ร้ายป้ายสีหรอกนะ

รอไม่มีคนอยู่แล้ว เฉินจื่ออานก็อดไม่ได้พูดว่า “เสี่ยวม่าน หากพวกเขาไม่เอาก็ช่างเถอะ พวกเรากลับกันเถอะนะ ไม่ต้องมาทนถูกรังแกแบบนี้หรอก”

ลู่ม่านหัวเราะเสียงดัง “ข้าไม่ได้โดนรังแกสักหน่อย”

“แต่เมื่อกี้……” เฉินจื่ออานนึกถึงเรื่องเมื่อกี้ก็อดไม่ได้ขมวดคิ้วเป็นปม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน