ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 106

สรุปบท บทที่106 อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

สรุปเนื้อหา บทที่106 อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ – ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บท บทที่106 อำนาจยศถาบรรดาศักดิ์ ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ฝูเชิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

แต่ตอนนี้ เขาจะได้เป็นชิ่วไฉแล้ว ทำไมยังต้องขอร้องพึ่งพาเฉินจื่ออานด้วย? เขาไม่เอาหรอกนะ!

หมายเหตุ: ชิ่วไฉของก่อนราชวงศ์ถังแตกต่างจากราชวงศ์อื่น ในก่อนราชวงศ์ถัง ตำแหน่งของชิ่วไฉสูงกว่าจิ้นชื่อ (บัณฑิตชั้นสูง) มาก ทุกครั้งที่สอบคัดเลือกชิ่วไฉมีน้อยจนแทบจะนับนิ้วได้ คนส่วนใหญ่เพราะสอบชิ่วไฉไม่ได้จึงไปสอบจิ้นซื่อแทน

เฉินจื่อคังไม่พูดอะไร ถือเป็นการแสดงอารมณ์ทั้งหมดของเขาแล้ว

เฉินหลี่ซื่อจึงพูดทันทีว่า “จื่ออาน เจ้าเป็นพี่สามของจื่อคัง ทำไมถึงไม่สงสารน้องชายตัวเองสักครั้งล่ะ?”

เฉินจื่ออานกัดฟันพูดว่า “ในเมื่อเช่นนี้ พวกเจ้าไม่ยอมขึ้นรถข้าก็ช่างเถอะ งั้นข้าขอตัวกลับก่อน!”

ว่าแล้ว เขาก็ไม่สนใจเสียงเรียกของเฉินหลี่ซื่อ แล้วใช้แส้ฟาดหลังวัว

วัวเพราะตกใจจึงวิ่งเร็วมาก จนกระทั่งทั้งสองวิ่งไปไกลแล้ว เฉินจื่ออานถึงขับเกวียนให้ช้าลง

เงียบตลอดทาง ตอนที่เดินไปถึงบ้านเฉิน ตาแก่เฉินก็รออยู่ด้านนอกแล้ว พอเห็นรถเกวียนขับมา เขาคิดว่าเฉินจื่อคังกลับมาแล้ว จึงรีบเงยหน้ามองออกไป หลังที่ค่อมอยู่นั้นแทบจะยืดตรงอยู่แล้ว

พอเห็นว่าเป็นฉฺนจื่ออาน เขาก็รีบก้มหน้าลง แต่เฉินจื่อฟู่กับชะโงกหน้าออกมาจากด้านหลัง แล้วถามว่า “จื่ออาน เจ้าเห็นจื่อคังกับพี่ชายพวกเขาไหม?”

เฉินจื่ออานลังเลสักพัก แล้วก็พูดว่า “รถเกวียนของพวกเขาเสียแล้ว อยู่ด้านหลัง”

ได้ยินดังนั้น ตาแก่เฉินก็รีบเงยหน้ามองค้อนเฉินจื่ออานอย่างไม่พอใจ “แล้วทำไมเจ้าไม่พาพวกเขากลับมาด้วย?”

เฉินจื่ออานกระตุกมุมปาก “พวกเขาไม่ยอมขึ้นรถของข้าเอง”

ตาแก่เฉินก็เข้าใจที่ไปที่มาคร่าวๆแล้ว จึงไม่ได้ถามอะไรมาก เฉินจื่ออานกำลังจะบอกว่า เอารถเกวียนของเขาไปไหม ตาแก่เฉินก็หันกลับไปสั่งเฉินจื่อฟู่ว่า “เร็ว รีบไปบ้านลุงผู้ใหญ่บ้าน ไปยืมเกวียนใหญ่ของเขาไปรับพวกเขาเร็ว”

มือที่ถือเชือกของเฉินจื่ออานก็ชะงักค้าง จากนั้นก็หัวเราะกับตัวเอง แล้วรีบขับเกวียนออกไป

ต่อมา ลู่ม่านก็ถึงได้ยินมาว่า คืนนั้นบ้านเฉินทางนั้นจัดงานเลี้ยงใหญ่โต ไม่เพียงแต่เชิญผู้ใหญ่บ้าน ยังเชิญญาติผู้ใหญ่ผู้อาวุโสในตระกูลมากินข้าวด้วยกัน เช้าวันต่อมาทุกคนต่างก็ลือกันให้แซดว่า ครั้งนี้เฉินจื่อคังจะต้องสิบชิ่วไฉได้แน่นอน

เฉินจื่ออานก็น่าจะได้ยินเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้พูดกับลู่ม่าน ลู่ม่านก็รู้ตัวจึงไม่ได้พูดเรื่องนี้ต่อหน้าเขาเลย

แต่ว่า หลังจากที่เฉินจื่ออานกลับมาแล้ว ก็อ่านหนังสือหนักกว่าแต่ก่อน ทุกเช้าเขาจะตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือ ตอนบ่ายก็ไปโรงงานกับลู่ม่าน แต่ตอนกลางคืน เขาก็ยังอ่านหนังสืออยู่นานมาก

ลู่ม่านรู้สึกว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน บางทีคนก็ต้องได้รับแรงกระตุ้นจากภายนอก ถึงจะมีแรงในการพัฒนาตัวเอง

เช้าวันต่อมา จวงลี่จ้งมาที่บ้าน ไม่เพียงแต่เขาที่มาเท่านั้น ยังมีท่านอู๋ด้วย

ตอนที่เห็นท่านอู๋มา อาจารย์โจวก็อึ้งไปสักพัก “พวกเจ้าสนิทกับตาแก่อู๋ด้วยเหรอ?”

ลู่ม่านก็ไม่ปิดบังอะไร แล้วพูดไปตามตรงว่า “ท่านอู๋เคยช่วยจื่ออานไว้ ตอนนั้นเขาแนะนำท่านให้กับพวกเรา”

ไม่คิดว่า อาจารย์โจวจะโกรธมาก “ข้าไม่ต้องการความเมตตาจากตาแก่นั่นหรอกนะ การเรียนของจื่ออานไปเชิญคนอื่นมาสอนแทนเถอะ!” พูดจบ เขาก็เดินออกไปทันที

ลู่ม่านอึ้งไปชั่วขณะ “อาจารย์โจว ทำไมถึงพูดเช่นนี้เล่า?”

เฉินจื่ออานก็ร้อนใจเหมือนกัน “ท่านอาจารย์ พวกเราเคารพในตัวท่านมาตลอด จะเมตตาได้อย่างไร?”

“ไม่มีแล้ว!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม

“ดังนั้น เจ้าอยากได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลจวงของเรา จากนั้นก็คิดตำแหน่งที่ปรึกษานี้ออกมางั้นเหรอ?” เสียงของเขาต่ำมาก ฟังแล้วเหมือนไม่มีความอบอุ่นเลย

เฉินจื่ออานรับรู้ได้ถึงความอันตราย จึงเดินไปข้างหน้าของลู่ม่าน

“คุณชายรองจวง นี่เป็นความหมายของข้า ไม่เกี่ยวกับเสี่ยวม่าน”

จวงลี่จ้งมองไปยังเฉินจื่ออาน เขาจำผู้ชายคนนี้ได้ดี ปกติเขาเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย ถึงจะเป็นเรื่องของธุรกิจ เขาก็ปล่อยให้ภรรยาตัวเองเป็นคนจัดการทั้งหมด

ดูท่าทางเหมือนจะไม่มีความสามารถอะไร แต่พอถึงช่วงอันตราย เขาก็จะเข้ามาปกป้องภรรยาของตัวเองทุกครั้ง คู่สามีภรรยาที่ปรองดองกันนี้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ

จวงลี่จ้งอดไม่ได้นึกถึงว่าที่ภรรยาที่หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยของตัวเอง ถ้านางไม่หายตัวไปล่ะก็ อาจจะแต่งงานกับเขาแล้วก็ได้ พวกเขาจะปรองดองเหมือนสามีภรรยาคู่นี้ไม่นะ?

“คุณชายจวง?” เสียงของเฉินจื่ออานตัดความคิดของจวงลี่จ้ง เขาก็ถึงเงยหน้ามองสองคน “ข้าตกลงพวกเจ้าได้ แต่แค่ขอเปลี่ยนหุ้นส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากห้าส่วนเป็นหกส่วน และมีสิทธิ์ในการตัดสินใจ”

ให้ตายสิ ลู่ม่านรู้ว่านักธุรกิจเอาประโยชน์ตั้งเป็นที่หนึ่ง คุณชายจวงนี่มันเกิดมาเพื่อเป็นนักธุรกิจโดยแท้

เห็นลู่ม่านไม่พูด เขาก็พูดเตือนว่า “แม่นางคงไม่รู้ว่าแขกที่ข้าเชิญมาเมื่อวานเป็นใคร ไม่ทราบว่าแม่นางเคยได้ยินอ๋องหนิงหรือเปล่า! ท่านนั้นเป็นแม่ของอ๋องหนิง”

ลู่ม่าน “!!!” อ๋องหนิง? ท่านอ๋อง?

นางคิดว่าตัวเองข้ามมิติมาอยู่ในบ้านชาวนาเล็กๆ แต่กลับไปเกี่ยวพันกับอ๋องหนิงอะไรนั่นได้ยังไงกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน