ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 108

สรุปบท บทที่108 เซวียนเหนียง: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน

อ่านสรุป บทที่108 เซวียนเหนียง จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง

บทที่ บทที่108 เซวียนเหนียง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ฝูเชิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

“อาจารย์โจวพูดถูก ท่านอู๋รู้จักคนเยอะ”

อาจารย์โจวได้ยินแล้วก็เบะปากอย่างไม่พอใจ “อย่าบอกเขาว่า ข้าเป็นคนแนะนำเจ้านะ”

ลู่ม่าน “……” ผู้เฒ่าสองคนนี้น่ารักจริงๆ

เมื่อกวานท่านอู๋มาแล้วไม่รู้ว่าพูดอะไรไปบ้าง สุดท้ายอาจารย์โจวก็ไม่ไป นางคิดว่าพวกเขาดีกันแล้วเสียอีก? แต่ตอนนี้ดูท่าแล้ว แค่ไม่ได้กลับไปเท่านั้น

สถานการณ์ยังเหมือนกับเมื่อก่อน!

“ได้ ข้าจะไม่พูด” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม

รอไม่ไหวแล้ว วันนั้นตอนเที่ยงลู่ม่านก็ไปที่ตำบลกับเฉินจื่ออานทันที ท่านอู๋กำลังทำงานอยู่ ทั้งสองรอสักพักใหญ่ จนเขามีเวลาว่าง

พอถามเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปแล้ว เขาก็ยิ้มอย่างลึกลับ “ตาแก่โจวบอกพวกเจ้าใช่หรือเปล่า?”

ลู่ม่านเม้มริมฝีปาก “ข้าไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”

ท่านอู๋กลับหัวเราะออกมาแทน “ในเมื่อเขาบอกให้พวกเจ้ามา ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องช่วยอยู่แล้ว!”

ลู่ม่านไม่พอใจ “ท่านหมายความว่า ถ้าไม่ใช่เขาแนะนำมา ท่านก็จะไม่ช่วยเหรอ?”

“ยัยหนูคนนี้!” ท่านอู๋หัวเราะอย่างเหนื่อยใจ “แต่เรื่องนี้ หากเจ้ามาเองข้าคงไม่ช่วยจริงๆ”

ลู่ม่านไม่เข้าใจ ท่านอู๋ก็ถึงพูดว่า “เพราะคนคนนั้นเป็นตาแก่โจว……”

ประโยคตบท้ายด้านหลัง ท่านอู๋เงียบไม่พูดต่อ

ต่อมความอยากรู้อยากเห็นของลู่ม่านถูกปลุกขึ้นมา แต่ไม่ว่าจะถามยังไง ท่านอู๋ก็ไม่ยอมพูด สุดท้ายลู่ม่านจึงต้องยอมแพ้แต่โดยดี

ตอนเย็น ลู่ม่านกลับไปแล้ว อาจารย์โจวก็ได้ยินว่าลู่ม่านไปขอให้ท่านอู๋หาคนช่วยสร้างบ้านแล้ว จึงพูดว่า “พอดีเลย ช่วงนี้ข้ามีธุระต้องออกไปสักพักใหญ่ รอบ้านเจ้าสร้างเสร็จแล้ว ข้าค่อยกลับมานะ”

ดูท่าแล้วคงจะเป็นคู่ปรับในความรัก ลู่ม่านพูดอย่างลังเล “อาจารย์โจว……”

อาจารย์โจวพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้าคิดว่าข้าโกรธเหรอ? ข้าไม่โกรธหรอก ถ้าข้าโกรธ ก็คงไม่บอกให้เจ้าไปหาเขา ข้ามีธุระที่ต้องกลับไปจัดการจริงๆ”

เขาพูดแบบนี้ ในที่สุดลู่ม่านก็ไม่ได้ยื้อเขาไว้ต่อไป

ตอนก่อนจะไป อาจารย์โจวก็สั่งการบ้านไว้ให้เฉินจื่ออาน บอกว่าตอนกลับมาจะตรวจสอบ

และยังตักเตือนเฉินจื่ออานด้วย

“ถึงแม้จะยุ่งแค่ไหน ก็จะเอาแต่อ่านหนังสือไม่ได้ ต้องปรับเวลาทำงานกับพักผ่อนให้สมดุลกัน ช่วยเสี่ยวม่านสร้างบ้านให้ดีล่ะ”

เรื่องพวกนี้เฉินจื่ออานรู้ดีแก่ใจ

สองสามีภรรยาส่งอาจารย์โจวถึงหน้าหมู่บ้าน มองดูอาจารย์โจวนั่งเกวียนออกไปไกลเรื่อยๆ ก็ถึงเดินกลับบ้านกัน

ตอนที่เดินกลับบ้าน ทันใดนั้นลู่ม่านก็ถามว่า “อาจารย์โจวหลบหน้าแบบนี้ คนคนนั้นคงไม่ใช่คู่ปรับในความรักของเขาหรอกนะ?”

เฉินจื่ออานตะลึง “เสี่ยวม่านอย่าพูดเป็นเล่นไป”

“ข้าไม่ได้พูดเล่นนะ ที่เมืองคาร์มีแต่เห็นคู่ปรับในความรักเท่านั้นถึงจะหนีเร็วแบบนี้!”

เฉินจื่ออาน “……”

“พวกเรามาเดิมพันกันไหม?” ลู่ม่านมีอารมณ์ขึ้นมากะทันหัน “ถ้าข้าชนะ เจ้าติดค้างคำขอข้าหนึ่งอย่าง ถ้าจะเอาชนะ ขาเข้าจะติดตามคำขอเจ้าหนึ่งอย่าง ขอแค่ไม่ข้ามเส้นของอีกฝ่าย ขอในสิ่งที่อีกฝ่ายทำได้ก็พอ”

นานๆทีลู่ม่านจะมีอารมณ์ขัน เฉินจื่ออานก็พยักหน้า “ได้เลย!”

ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นข้าจะชนะให้ได้!”

เช้าวันต่อมา ท่านอู๋มาจริงๆด้วย รถม้าสีเทาคันหนึ่งขับเข้าหมู่บ้านมาอย่างถ่อมตัว

ลู่ม่านตะลึง “เจ้าว่าจะออกแบบเหรอ?”

เซวียนเหนียงอึ้ง “ออกแบบคือ?”

“อ้อ ไม่มีอะไร!” ลู่ม่านแลบลิ้น นางตื่นเต้นเกินไป บอกว่ามีคนจะวาดภาพออกแบบ นางก็ยังคิดว่าเป็นพวกเดียวกันเสียอีก

รอตอนที่กลับไปบ้านเก่า ท่านอู๋ก็โฆษณาฝีมือการทำอาหารของลู่ม่านให้กับเซวียนเหนียงใหญ่โต “เซวียนเหนียง เจ้าจะต้องพักอยู่ที่นี่สองสามวันนะ ถึงเวลา อาการป่วยไข้ของเจ้าอาจจะหายขึ้นก็ได้”

ถึงว่า ตอนที่ลู่ม่านเห็นเซวียนเหนียงครั้งแรก สีหน้าของนางดูซีดเซียวมากกว่าปกติ ที่แท้ก็ป่วยนี่เอง

“ไม่ทราบว่าเซวียนเหนียงป่วยเป็นอะไรหรือ?”

ท่านอู๋ไม่ได้พูด เซวียนเหนียงพูดเอง “แค่ร่างกายอ่อนแอน่ะ ไม่เป็นไรมากหรอก”

ดูท่าแล้ว เซวียนเหนียงคงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ลู่ม่านก็เลยไม่ได้ถามต่อไป แต่นางก็ยอมฟังคำแนะนำของท่านอู๋ อยู่พักที่นี่ต่อ

ลู่ม่านให้นางนอนในห้องที่อาจารย์โจวเคยพักก่อนหน้านี้อย่างไม่ต้องสงสัย

ในบ้านของนางไม่มีที่อื่นให้นอนแล้วจริงๆ อีกอย่าง อาจารย์โจวบอกแล้วว่า รอสร้างบ้านเสร็จแล้วเขาค่อยกลับมา

ตอนเที่ยง ลู่ม่านดีใจมาก จึงทำของอร่อยไม่น้อย ในนั้นยังมีย่างเนื้อแพะที่ท่านอู๋ชอบอยู่ด้วย และยังมีผัดผักอีกด้วย

ในนั้นใส่ผงเครื่องเทศสิบสามชนิดเข้าไปด้วย รสชาติไม่เลวเลยจริงๆ

ท่านอู๋กินหนึ่งคำ แล้วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ก็คือผงเครื่องเทศสิบสามชนิดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในภัตตาคารเฟิ่งหลายตอนนี้ใช่หรือไม่?”

“ท่านก็รู้จักเหรอ?” เฉินจื่ออานถามอย่างสงสัย

“ก็ต้องรู้จักสิ! ช่วงนี้ภัตตาคารเฟิ่งหลายคนเต็มทุกวันเลยล่ะ คนที่หน้ามีตาในตำบลต่างก็เคยกินกันหมด วันนี้ ตอนที่ข้าไป ยังเห็นมีคนต่อแถวอยู่หน้าภัตตาคารเฟิ่งหลายด้วยนะ”

ขายดีขนาดนี้เลยเหรอ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน