ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 117

เรือนสี่ประสานแบบสามส่วน เป็นเรือนที่สร้างจากไม้รูปแบบโบราณทั้งหมด

ถ้าดูจากภายนอก ก็จะไม่ต่างจากบ้านของคนมีเงินของที่นี่ แต่ห้องครัวและห้องน้ำลู่ม่านสร้างตามมาตรฐานยุคปัจจุบันทั้งหมด พักอาศัยได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ผิดแปลกเกินไป

เซวียนเหนียงก็พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์ที่ทันสมัยของลู่ม่าน

ด้านหน้าเป็นประตู พอเดินผ่านบ้านหลังเล็กไป ถึงจะเข้ามาในบ้านหลังแรก ลู่ม่านใช้เรือนแรกเป็นห้องรับแขกกับห้องหนังสือภายนอก และหนึ่งในห้องพักแขกเตรียมไว้ให้อาจารย์โจว ของใช้ภายในห้องและเตียงปรับแต่งตามความคุ้นเคยของเขา

ถัดจากห้องของอาจารย์โจว คือห้องหนังสือ

ในห้องมีชั้นหนังสือขนาดใหญ่ และโต๊ะทำงานที่สวยงาม ของบางอย่าง ลู่ม่านยังใช้การออกแบบสมัยใหม่กับโบราณผสมผสานกัน ดูไปแล้วทั้งแปลกใหม่ และใช้งานสะดวก

หลังจากเดินผ่านทางเดินที่แกะสลักกับประตูกลมแล้ว จะเป็นทางเข้าที่สอง

ทางเข้าที่สองคือบ้านที่ลู่ม่านเตรียมไว้ให้ตัวเองกับเฉินจื่ออาน มีห้องหลักสามห้อง และห้องรับรองสองห้อง การตกแต่งภายในยังเป็นสไตล์จีนสมัยใหม่ที่ลู่ม่านชื่นชอบ ไม่เหมือนสไตล์จีนโบราณที่ดูมืดมน

ตรงลานเล็กๆ ด้านหน้า ลู่ม่านได้เก็บพื้นที่เล็กๆ ไว้เพื่อทำสวนดอกไม้ ถึงจะบอกว่าทำสวนดอกไม้ แต่ที่จริงแล้วความคิดแรกที่คิดไว้ ลู่ม่านอยากจะนำต้นพริกอันล้ำค่าของนางมาเพาะกล้าที่นี่

บ้านหลังสุดท้ายที่เข้าไปนั้นค่อนข้างเรียบง่าย เป็นห้องเดี่ยวที่มีพื้นที่ประมาณสิบตารางเมตร แต่มีของใช้ทุกอย่างครบครัน เป็นบ้านที่ลู่ม่านสร้างไว้ให้คนงานในอนาคต มีประตูด้านหลังให้สำหรับเข้าออกและไม่ได้เชื่อมต่อกับบ้านทั้งสองหลังด้านหน้า

บ้านทุกหลังลู่ม่านจะออกแบบให้มีห้องครัว ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำสมัยใหม่

โดยเฉพาะทางฝั่งลู่ม่าน ห้องอาบน้ำจะสร้างไว้ในห้องนอน เดิมทีลู่ม่านต้องการจะเชื่อมห้องน้ำไว้ข้างในด้วย แต่พอมาคิดว่าท่อระบายน้ำไม่ดีเท่าสมัยใหม่ นางกลัวว่ามันจะไม่ปกปิดกลิ่น จึงสร้างให้ห่างออกไปเล็กน้อย จึงสร้างไว้บริเวณประตูทางเดินข้างห้องหลัก ซึ่งสะดวกต่อการใช้งานมาก

หลังจากบ้านสร้างเสร็จ ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั้งหมู่บ้านทันที

นี่เป็นแห่งแรกในหมู่บ้านไป่ฮัว แม้แต่บ้านของผู้ใหญ่บ้านก็เทียบไม่ได้

ลู่ม่านไม่ได้ขี้เหนียว พวกเขาอยากจะดู นางจึงยกยิ้มแล้วพูด “รอถึงวันขึ้นบ้านใหม่ พวกข้าจะเชิญทุกคนมากินดื่มสังสรรค์ และดูให้พอใจไปเลย”

แน่นอนว่าทุกคนต่างก็ชื่นชอบ การขึ้นบ้านใหม่เป็นงานที่สำคัญมากในหมู่บ้าน และเป็นเวลาที่ชาวบ้านจะผูกสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ตอนนี้เฉินจื่ออานมีชีวิตที่ดีเช่นนี้ แน่นอนว่าทุกคนจะต้องคิด ว่าจะผูกสัมพันธ์กับพวกเขาได้ยังไง

เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่ ลู่ม่านจึงทำตามคำแนะนำของเซวียนเหนียงไปดูฤกษ์วันดี จึงกำหนดไว้เป็นครึ่งเดือนหลังจากนี้ หลังจากกำหนดวันแล้ว ลู่ม่านก็เริ่มสร้างของใช้ภายในบ้าน

เมื่อก่อนของใช้ในบ้านทั้งแตกหักและขาดรุ่งริ่ง แน่นอนว่าต้องไม่เอาไปใช้ที่บ้านใหม่ แต่ชุดโต๊ะเก้าอี้ที่หวังเอ้อร์หนิวมอบให้ในช่วงวันปีใหม่ยังคงสภาพดีมาก ลู่ม่านจึงตั้งใจที่จะเอาไปใช้งานต่อ

ตอนนี้หวังเอ้อร์หนิวกำลังยุ่งมาก ลู่ม่านจึงไม่กล้าไปขอให้เขามาสร้างของใช้ในบ้านให้ ในขณะที่นางกำลังคิดหนัก และไม่รู้จะหันไปหาใคร เหยาซื่อก็มาหา

“หลายวันที่แผงขายของเอ้อร์หนิวไม่ค่อยยุ่ง ดังนั้นข้าจึงขอให้พี่ชายทางบ้านมาช่วยดูให้ พอดีเลย ของใช้ในบ้านของเจ้า ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ ก็ให้เขาทำให้เถอะ”

ลู่ม่านไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี “เรื่องนี้จะรบกวนพวกเจ้าเกินไปหรือเปล่า”

เหยาซื่อโบกมืออย่างดีใจ “รบกวนอะไรกัน แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเราสองครอบครัว ยังต้องพูดพวกนี้อีกเหรอ”

ลู่ม่านเองก็รู้สึกว่าตนเองเกรงใจมากเกินไป จึงพยักหน้ารับทันที “ได้ งั้นก็รบกวนพี่เอ้อร์หนิวแล้ว”

ยังไงซะ ฝีมือของหวังเอ้อร์หนิวก็ดีมาก ถึงเวลานั้นก็จ่ายค่าจ้างเพิ่มให้จะให้อีกฝ่ายเสียเปรียบไม่ได้

เพราะลู่ม่านกำลังรอให้ถึงวันขึ้นบ้านใหม่ หวังเอ้อร์หนิวจึงเรียกมาอีกสองคนที่เคยทำของใช้ภายในบ้านด้วยกัน ลู่ม่านให้ค่าจ้างพวกเขาสามสิบเหวินต่อวัน และมีคำขอเพียงสองข้อเท่านั้น นั่นคือขอแบบรวดเร็วและคุณภาพดี

เพราะหวังเอ้อร์หนิวทำเงินได้จึงยิ่งมั่นใจในตัวเอง และมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม พอเห็นเช่นนี้ เขาก็ตบหน้าอก แล้วพูดรับรองว่า “พวกเจ้าวางใจได้เลย!”

ลู่ม่านจึงไม่สนใจอีก นางรู้ว่าถ้าหวังเอ้อร์หนิวพูดอย่างนั้น เขาจะต้องทำได้ตามที่พูดอย่างแน่นอน

หลังจากที่เฉินจื่อฉายได้ยินเรื่องนี้ เขาก็มาช่วยด้วย เขาช่วยทำความสะอาดบ้านใหม่พร้อมกับเฉินจื่ออาน พอมองไปที่บ้านใหม่ของเฉินจื่ออานแล้ว เฉินจื่อฉายก็รู้สึกอิจฉามาก

“เมื่อไหร่ข้าจะมีบ้านแบบนี้บ้างนะ”

ลู่ม่านได้ยินแล้ว ก็ยกยิ้มแล้วพูด “พี่ใหญ่ ถ้าพี่ต้องการ พี่สามารถนำผลไม้กวนของเราไปขายได้ จะต้องขายดีมากแน่ๆ”

เฉินจื่อฉายลังเลเล็กน้อย แล้วพยักหน้า “ได้ ข้าจะจำเรื่องนี้ไว้ รอจื่อคังสอบเข้ารับราชการในวังได้ก่อน ข้าจะคุยกับท่านพ่อดู”

เฉินจื่ออานตกตะลึง “พี่ใหญ่ พี่ไม่คิดจะตามไปอยู่เมืองหย่งอานหรือ?”

เฉินจื่อฉายลูบศีรษะตัวเอง และยกยิ้ม “ข้าไม่ไป ข้าไม่รู้อะไรสักเรื่อง ไปแล้วทำอะไรก็ไม่ได้ ยังไม่เท่ากับช่วยดูแลไร่นาที่บ้าน”

ต้องยอมรับว่าเฉินจื่อฉายผู้นี้เป็นคนซื่อสัตย์และซื่อบื้อมากจริงๆ ลู่ม่านยกยิ้มแล้วพูดว่า “งั้นก็ตกลงตามนั้น ถ้าพี่ใหญ่ยังอยู่ที่นี่ต่อ จากนี้ไปถ้าต้องการความช่วยเหลือก็บอกกันได้เลย”

เฉินจื่อฉายพยักหน้า และเริ่มทำงานยุ่งต่อ

สิบกว่าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่จะย้ายเข้าบ้านใหม่ใกล้จะมาถึงแล้ว พวกลู่ม่านจึงลุกขึ้นมาเก็บของตั้งแต่เช้า วันนี้ พวกเขาจะต้องเก็บของทั้งหมดไปไว้ที่บ้านใหม่

ที่นี่ไม่มีอะไรต้องเก็บเท่าไหร่ ลู่ม่านจึงเอาไปแค่เสื้อผ้าที่เขาใส่กับผ้าห่มที่เพิ่งซื้อมาใหม่เมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเครื่องใช้ในครัว และของที่มีค่าที่สุดคือต้นพริกทั้งสามต้นของนาง ซึ่งจะลืมไม่ได้

เฉินจื่อฉาย หลิวซื่อ เหอฮัว และเหยาซื่อ พวกเขาเองก็มาช่วย ทุกคนใช้เวลาไม่มากก็เก็บของเสร็จแล้ว

ก่อนจะนำของไปจัดวางในบ้านหลังใหม่ ตอนที่ลู่ม่านกำลังจะหยิบผ้าห่ม เฉินจื่ออานก็คว้ามือของลู่ม่านมาจับไว้ “เสี่ยวม่าน อย่าใช้ผ้านั้นปูเตียง”

ลู่ม่านตะลึงงัน “มีอะไรหรือเปล่า?”

“เจ้าเปิดตู้ดู!” เฉินจื่ออานกล่าวด้วยท่าทางลึกลับ

ลู่ม่านเปิดออกดูอย่างสงสัย และสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก็คือผ้าห่มผืนใหม่เอี่ยม แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่ผ้าผ้าทอธรรมดา และไม่ใช่ผ้าฝ้ายด้วย ก่อนจะรู้สึกดีใจ ลู่ม่านเอื้อมมือไปสัมผัสมัน มันลื่นมือ เห็นได้ชัดว่าเป็นเนื้อผ้าไหม?

“ผ้าไหม?” ลู่ม่านอุทานอย่างตกใจ

เฉินจื่ออานพยักหน้า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะชอบหรือเปล่า”

“ชอบแน่นอน!” ลู่ม่านรีบหยิบมันออกมา ด้านในมีชุดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนสองใบอยู่ในนั้น

“เจ้ารู้จักชุดเครื่องนอนสี่ชิ้นได้ยังไง” ลู่ม่านยกยิ้มและพูด

เฉินจื่ออานลูบศีรษะของนาง “ข้าคิดมั่วซั่วไปเอง ของบนเตียง ถ้ามีสี่อย่างก็ต้องเป็นสี่อย่างนี้ไม่ใช่หรือ?”

“ฮิ!” ลู่ม่านหลุดยิ้มออกมา “อย่างที่คาดไว้ไม่ผิดขอแค่มีการศึกษา ก็สามารถได้ครอบครองทั้งทรัพย์สินและสาวงาม แม้แต่เรื่องนี้เจ้ายังรู้อีก”

“ลองเอาไปปูเตียงดูสิ” เฉินจื่ออานรีบเตือนสติ

ลู่ม่านหยิบทั้งหมดออกมา แล้วเปลี่ยนผ้าปูที่นอนที่เขาเตรียมไว้ สายตาการเลือกของเฉินจื่ออานนั้นดีมาก อาจเป็นเพราะช่วงนี้เขาได้รับอิทธิพลมาจากลู่ม่าน ดังนั้นสีและลวดลายที่เขาเลือกจึงไม่หยาบจนเกินไป และดูหรูหรามาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน