โดยเฉพาะหลังจากปูลงบนเตียงแล้ว พอผสมเข้าในห้อง ก็ดูเข้ากันได้อย่างลงตัว
ลู่ม่านอดที่จะก้มหน้าลงไปหอมแก้มของเฉินจื่ออานไม่ได้ เฉินจื่ออานคุ้นเคยกับการแสดงความรู้สึกของลู่ม่านแบบนี้แล้ว คราวนี้ หลังจากที่ลู่ม่านแตะจุ๊บลงไปเบาๆ แล้วเตรียมจะผละออกไป เฉินจื่ออานก็คว้าเอวของลู่ม่านไว้
วินาทีต่อมา ใบหน้าที่หล่อเหลาขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้าลู่ม่าน เฉินจื่ออานยิ่งจูบลึกซึ้งขึ้น
จนกระทั่งเสียงแสดงความยินดีกับเขาดังขึ้นนอกประตู ทั้งสองก็แยกจากกันอย่างรวดเร็ว
ริมฝีปากสีเชอร์รี่ของลู่ม่านทั้งแดงและบวม ก่อนจะถลึงตาใส่เฉินจื่ออานด้วยความโกรธ “สภาพแบบนี้จะออกไปเจอผู้คนได้ยังไง”
เฉินจื่ออานหัวเราะชอบใจ แล้วรีบออกไปขวางทางเหยาซื่อไว้
ลู่ม่านใช้ประโยชน์จากเวลานี้รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำล้างหน้า น้ำเย็นจากบ่อน้ำลดอาการบวมลงไปเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังเดินออกไป
เหยาซื่อกลับมาจากการซื้อของ วันนี้ตอนเช้าลู่ม่านเขียนรายการวัตถุดิบให้หวังเอ้อร์หนิว ให้เขาช่วยซื้อกลับมาให้ด้วย ไม่ได้มีแค่เนื้อหมู แล้วยังมีซี่โครงหมู เนื้อแกะ และหลากหลายประเภท
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ลู่ม่านยังเตรียมผักและผลไม้ด้วย ทุกคนที่มาร่วมงานขึ้นบ้านใหม่ ก็จะได้รับชุดของขวัญผลไม้กวนสองขวด
ในตอนที่กำลังเตรียมตัว หวังเอ้อร์หนิวก็เดินเข้ามาจากด้านนอก ตามด้วยเถ้าแก่จางที่รีบเดินเข้ามา
“เถ้าแก่จาง ทำไมวันนี้ท่านถึงมาเร็วเช่นนี้” ลู่ม่านยกยิ้ม
เถ้าแก่จางยกยิ้มเบา ๆ “วันนี้พวกท่านจะย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่ ข้าจะไม่มาได้ยังไง”
แม้ว่าเขาจะยังยิ้มอยู่ แต่ท่าทางของเถ้าแก่จางไม่ดีเท่าช่วงก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าเฉินจื่ออานเองก็สังเกตเห็นเช่นกัน จึงเหลือบมองไปที่ลู่ม่านอย่างรวดเร็ว
เฉินจื่ออานรีบพูด “เถ้าแก่จาง เข้าไปเดินเล่นหน่อยไหม”
เถ้าแก่จางพยักหน้า ก่อนจะเดินตามหลังเฉินจื่ออานไป หลังจากนั้นไม่นาน เฉินจื่ออานก็กลับมา แล้วกระซิบข้างหูของลู่ม่าน “ข้าคิดว่าคงจะเป็นเพราะเรื่องผงเครื่องเทศสิบสามชนิด”
“ทำไม?” ลู่ม่านเอ่ยถาม
“หรือจะเป็นเพราะครั้งที่แล้วที่ท่านแม่กับพี่เอ้อร์หนิวทะเลาะกัน เจ้ายังจำได้ไหม ตอนนั้นมีบรรดาป้าๆ หลายคนในหมู่บ้านของเราอยู่ด้วย ได้ยินมาว่า ป้าๆ พวกนั้นไปบอกคนอื่นว่าผงเครื่องเทศสิบสามชนิดของเรารสชาติแย่มาก ทำออกมาเป็นผงไม่รู้ว่าทำมาจากอะไร กินแล้วท้องเสีย แต่เพราะช่วงนี้พี่เอ้อร์หนิวไม่ได้ไปขายของในตำบล ไม่อย่างนั้นผงเครื่องเทศสิบสามชนิดของเขาก็คงขายไม่ออกเหมือนกัน”
ยังเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาด้วย? ลู่ม่านขมวดคิ้ว “คนพวกนั้นไม่ซื้อเพราะคำพูดใส่ร้ายของป้าๆ พวกนั้น?”
เฉินจื่ออานถอนหายใจ “เพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่เคยลิ้มรส พอได้ยินแบบนี้ใครจะกล้ากินอีก? เพราะผลกระทบของฝั่ง ภัตตาคารเฟิ่งหลายที่มีต่อพวกคนรวยดีมาก และตอนนี้พวกคนรวยในเมืองก็ซื้อไปหมดแล้ว ดังนั้นก็เลยขายยาก”
ลู่ม่านขมวดคิ้ว “เถ้าแก่จางกังวลว่าสินค้าที่ซื้อจากเราไปก่อนหน้านี้จะขายไม่ออก?”
เฉินจื่ออานพยักหน้า เพราะสิ่งนี้เก็บไว้ได้ไม่นาน
ลู่ม่านเข้าใจเรื่องราวคร่าวๆ แล้ว สาเหตุหลักของเรื่องเป็นเพราะทุกคนยังไม่รู้จักผงเครื่องเทศสิบสามชนิด ทำให้พอถูกใส่ร้ายเล็กน้อยก็ไม่กล้าซื้อแล้ว โดยเฉพาะชาวบ้านธรรมดา เพราะพวกเขาก็ไม่คิดจะเสียเงินไปซื้อเครื่องปรุงอะไรพวกนี้ด้วย
“จื่ออาน ในโรงงานของเรา ช่วงนี้มีกล่องไม้ไผ่ที่บรรจุผงเครื่องเทศสิบสามชนิดที่เตรียมจะส่งออกไปหรือเปล่า?”
เฉินจื่ออานตกตะลึง “มีสิ เสี่ยวม่าน เจ้าคิดจะทำอย่างไร”
“ไปเอามา!” ลู่ม่านตัดสินใจอย่างเด็ดขาด “ของขวัญตอบแทนในวันนี้ เราจะเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง” ถือว่าเป็นการบอกปากต่อปากฟรีก็แล้วกัน!
“แล้วอีกอย่าง อย่าเพิ่งยกอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่เตรียมในวันนี้ออกไป! เก็บไว้ก่อน ยกอาหารประเภทผักออกไปก่อน”
วันนี้ลู่ม่านเตรียมผักกาดขาวไว้จำนวนมาก เดิมทีลู่ม่านคิดจะใช้เพื่อล้างท้องภายหลัง แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ คงต้องใช้เป็นของหวานก่อนอาหารแล้วล่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...