ตอน บทที่ 120 ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบผลงานผู้อื่น จาก ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 120 ถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบผลงานผู้อื่น คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน ที่เขียนโดย ฝูเชิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
หลังจากนั้นก็มีอาหารจานเนื้อทยอยกันยกออกมา ลู่ม่านเองก็ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว อาหารทุกจานอัดแน่นเต็มจาน ไม่มีใครในหมู่บ้านที่จัดงานแล้วเตรียมอาหารอัดแน่นเช่นนี้
ไม่เพียงเท่านั้น รสชาติของอาหารเหล่านี้ยังอร่อยมาก จนไม่สามารถหยุดกินได้ แทบอยากจะมีสองท้องสี่ปากงอกออกมา
หลังจากอาหารมื้อนี้สิ้นสุดลง ทุกคนในหมู่บ้านไป่ฮัวก็มีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับผงเครื่องเทศสิบสามชนิดมากขึ้น แม้แต่ผู้ใหญ่บ้านเองยังบอกอีกว่าหลังจากกลับไป เขาต้องให้เมียที่บ้านนำผงเครื่องเทศสิบสามชนิดก่อนหน้าออกมา
อาหารที่ปรุงด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะเป็นผักก็อร่อย
ลู่ม่านยกยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นของก่อนหน้านี้หาไม่เจอก็ไม่เป็นไร ของตอบแทนที่จะให้ทุกคนในวันนี้มีผงเครื่องเทศสิบสามอยู่ในนั้นหนึ่งขวด ทุกท่านลองเอากลับไปชิมดูก่อน”
พอทุกคนได้ยินและเปิดออกดู พบว่ามีผลไม้กวนสองขวด และผงเครื่องเทศสิบสามหนึ่งขวดอยู่ในนั้น
นับดูแล้ว ของตอบแทนก็มีประมาณสามถึงสี่เหวินแล้ว ใจกว้างมาก
ผู้ใหญ่บ้านมองไปทางเฉินจื่ออานอย่างปลื้มใจ ก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก “น่าเสียดายจริงๆ ที่พ่อของเจ้าไม่กลับมา ถ้าเขารู้ว่าขาของเจ้าหายดีแล้วและยังสร้างบ้านใหม่ได้สวยเช่นนี้ จะต้องมีความสุขมาก”
ลู่ม่านไม่ตอบกลับ ความลำเอียงของคนบ้านเฉินนางเห็นมามากแล้ว เกรงว่า พวกเขาคงไม่ดีใจอะไรหรอก บางทีพวกเขาอาจจะคิดว่าพวกตนทำการค้าขาย ทำให้พวกเขาเสียหน้าอีกด้วย
พอคิดถึงตรงนี้ เฉินจื่อฉายก็วิ่งเข้ามาแล้วพูดว่า “จื่ออาน ท่านพ่อกลับมาแล้ว”
เฉินจื่ออานตกตะลึงไปสักพัก แล้วเห็นตาแก่เฉินถูกผู้อื่นพยุงเข้ามา
เพราะต้องเร่งรีบเดินทาง เขาดูทุลักทุเลมาก เสื้อผ้าของเขาก็มีรอยยับย่น เฉินจื่ออานรีบไปหาเขาแล้วถามด้วยความกังวล “ท่านพ่อ ทำไมท่านถึงกลับมาในเวลานี้เล่า?”
ตาแก่เฉินมองชายตรงหน้าด้วยดวงตาพร่ามัว เพราะต้องเดินทางไม่หยุดตลอดทางทำให้เขาเบลอเล็กน้อย ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าสวมชุดผ้าไหมเนื้อดี และมองมาที่เขาด้วยสายตากังวล
ผมถูกรวบ และมัดด้วยผ้ามัดผม นี่คือเฉินจื่ออาน ลูกชายคนที่สามที่อยู่บ้านแล้วไม่มีตัวตนมาตั้งแต่ยังเด็กอย่างนั้นหรือ?
จู่ๆ ตาแก่เฉินก็ไม่กล้าก้าวไปข้างหน้า จนกระทั่งเฉินจื่อฉายข้างที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาถามด้วยความสงสัย “ท่านแม่กับคนอื่นๆ เล่า แล้วจื่อคังเป็นอย่างไรบ้าง?”
ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ ใช่ จื่อคัง
เขาอ้าปาก แล้วร้องไห้ออกมา “จื่ออาน เจ้าต้องหาวิธีช่วยจื่อคังให้ได้นะ!”
เฉินจื่ออานตะลึงงัน นี่เป็นครั้งแรกในความทรงจำของเขาที่เขาเห็นตาแก่เฉินร้องไห้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ตาแก่เฉินสภาพทรุดโทรม มันทิ่มแทงใจของเฉินจื่ออานมากยิ่งขึ้น
เขารีบจับมือตาแก่เฉินไว้ “ท่านพ่อ เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
ตาแก่เฉินมองไปทางคนรอบๆ ที่ได้ยินคำพูดพวกนั้น ทุกคนกำลังเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ ในที่สุดเขาก็ได้สติกลับมา ถึงจะอยู่ในสถานการณ์นี้ เขาก็ไม่อยากให้คนอื่นหัวเราะได้
ก่อนจะปรับอารมณ์ แล้วกล่าว “ไปคุยกันข้างใน”
งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นที่ลานประตูแรก โชคดีที่มีหลายคนรับของขวัญแล้วกลับไป เหลือคนอยู่ไม่เยอะแล้ว เฉินจื่ออานรีบตอบรับตาแก่เฉิน แล้วเดินตรงไปที่ประตูบานที่สอง
พอเดินผ่านประตูพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวโบราณ ลานที่สองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า ข้างหน้ามีบ่อน้ำเล็กๆ ลู่ม่านให้คนทำการขุดให้เป็นทะเลสาบเทียม ด้านข้างของบ่อน้ำมีก้อนหินขนาดเล็กประดับตกแต่ง ตั้งใจไว้ว่าช่วงฤดูร้อน จะปลูกดอกบัวลงไป แน่นอน พวกปลาก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
ตาแก่เฉินพูดด้วยท่าทางละล่ำละลัก เฉินจื่อฉายรีบลุกขึ้นยืน พร้อมกับกัดฟันพูด “ข้าจะไปเมืองหลวงถามให้มันรู้กันไปเลย ว่าใครเป็นคนใส่ร้ายว่าจื่อคังลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่น ... “
“พี่ใหญ่! ห้ามทำอะไรหุนหันพลันแล่น!” เฉินจื่ออานรีบพูดห้าม “เราควรถามเรื่องให้แน่ชัดก่อนดีกว่า ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เล่าให้พวกข้าฟังก่อน พวกข้าถึงจะช่วยได้”
ตาแก่เฉินเหลือบมองที่ลู่ม่านกับหลิวซื่อที่ตามเข้ามา ลู่ม่านหัวเราะเยาะในใจ ถึงเวลานี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าตาแก่เฉินไม่ได้คิดว่าพวกนางเป็นครอบครัวเดียวกัน? ดังนั้น นางจึงพูดออกมาว่า “ถึงเวลานี้แล้ว ท่านพ่อยังจะกังวลอะไรอีก”
หลิวซื่อไม่หนักแน่นเหมือนลู่ม่าน ปกติตอนอยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้านเฉิน ปกติแล้วนางก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้าร่วมอยู่แล้ว นางเดินตามเข้ามา เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเฉินจื่อฟู่ ดังนั้นนางจึงตามเข้ามาฟังด้วย
ในเวลานี้ นางไม่กล้าที่จะอยู่ที่นี่ต่อ จึงอ้างว่า “ในครัวยังมีงาน ข้าขอตัวออกไปก่อน”
แต่ลู่ม่านกลับไม่ยอมออกไป ตาแก่เฉินทำอะไรกับนางไม่ได้ แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้อาจจะต้องให้ลู่ม่านช่วยเหลือด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่บอกให้นางออกไปอีก
ที่แท้ หลังจากที่ตาแก่เฉินและคนอื่นๆ เดินทางกว่าสามสี่วันก็มาถึงเมืองหลวง จากนั้นก็หาโรงเตี๊ยมพักเพื่อรอสอบเข้ารับราชการในวัง ในระหว่างนั้น ในขณะที่รับประทานอาหารอยู่ ก็ได้เจอกับนักเรียนสองสามคนที่มาจากนอกเมืองเพื่อมาสอบเข้ารับราชการในวังเช่นกัน และเพราะกลอนบทหนึ่ง เฉินจื่อคังก็ทะเลาะกับพวกเขา
จากนั้น เจ้าของร้านก็ออกมาจัดการ ทำให้เรื่องนี้จบลง เดิมทีพวกเขาต่างก็คิดว่าเรื่องนี้จบลงแล้ว แต่ในวันสอบเข้ารับราชการในวัง ตอนที่พวกเขาส่งเฉินจื่อคังไปที่ทางเข้าห้องสอบ ก็มีคนเข้ามาจับเฉินจื่อคังไป
แล้วบอกว่า เฉินจื่อคังโกงการสอบใช้วิธีการไม่ชอบเพื่อให้ได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศ บทความที่เขียนลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่น และเพราะโทษความผิดในครั้งนี้ ศาลต้าหลี่(*ศาลสูงสุดของจีนโบราณ)จึงออกปฏิบัติการจับกุมในวันนั้น และตัดสินความผิด โดยบอกว่าหลักฐานรัดกุมแล้ว
ดังนั้นเฉินจื่อคังจึงถูกโยนเข้าคุกไปทั้งแบบนี้ บอกว่าหลังจากจบการสอบ แล้วให้กษัตริย์ตัดสินโทษ
แต่ว่า ทุกคนรู้ดี ถ้าความผิดครั้งนี้เป็นเรื่องจริง ชีวิตของเฉินจื่อคังก็คงจะจบแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...