ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 121

หลังจากฟังจบ สีหน้าของทุกคนต่างก็เคร่งเครียดไปตามกัน

ตาแก่เฉินเหมือนถูกดูดพลังงานทั้งหมดไป และไม่มีท่าทางเย่อหยิ่งอย่างที่เคยเป็นอีกเลย

หลังจากนิ่งเงียบไปนาน เฉินจื่ออานก็พูดขึ้นว่า “ท่านพ่อนเคยอ่านบทความของจื่อคังในตอนนั้นหรือไม่? คนพวกนั้นบอกว่าเขาลอกเลียนแบบผลงานของผู้ใด?”

พอได้ยินเช่นนี้ ตาแก่เฉินก็ลุกขึ้นยืนและจ้องไปที่เฉินจื่ออานทันที “จื่อคังไม่ได้ลอกเลียนแบบผลงานของผู้ใดทั้งนั้น จื่อคังจะลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่นได้อย่างไร”

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “ท่านพ่อ ไม่มีใครบอกว่าจื่อคังลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่นเลย ข้าแค่อยากรู้ความเป็นมาเป็นไป รู้เขารู้เรา ถึงจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

จู่ๆ เฉินจื่ออานก็พูดคำพูดนักปราชญ์เช่นนี้ออกมา ตาแก่เฉินถึงได้รู้ว่าเฉินจื่ออานเองก็มีการศึกษาเช่นกัน ในตอนแรก เขานึกว่าเฉินจื่ออานจะแค่เล่นๆ อายุมากถึงขนาดนี้ ยังจะร่ำเรียนอะไรได้

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า มันจะเกินความคาดหมายของเขาไปแล้ว

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนมีคนมาตบหน้าเขาอย่างแรง เด็กที่เขาทอดทิ้งไปแล้ว แต่กลับทำได้ดีกว่าเด็กที่เขาพยายามเลี้ยงดูอย่างให้ความสำคัญมาตลอด

ใบหน้าของตาแก่เฉินร้อนผ่าว ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะหันหลังแล้วเดินจากไปเลย

แต่ตอนนี้ เขาทำเช่นนั้นไม่ได้ จื่อคังยังอยู่ในคุก ถ้าเขาจากไป อนาคตของจื่อคังคงจะจบลงแน่ๆ

ตาแก่เฉินสงบสติอารมณ์ลง ก่อนจะพูด “จื่ออาน! พ่อจะโกหกเจ้าไปทำไม พ่อบอกว่าจื่อคังไม่ได้ลอกเลียนแบบ เขาก็ต้องไม่ลอกเลียนแบบแน่นอน ขอแค่เจ้าเชิญอาจารย์โจวออกมา เขาจะต้องอธิบายได้อย่างแน่นอน”

“อาจารย์โจว?” เฉินจื่ออานชะงักงัน “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาจารย์โจวได้อย่างไร?”

ตาแก่เฉินพยักหน้า “คนพวกนั้นบอกว่าจื่อคังลอกเลียนบทความของอาจารย์โจว”

จู่ๆ เฉินจื่ออานก็นึกถึงวันที่เฉินจื่อคังมาที่นี่ และบอกว่าเขาอยากจะขอคำแนะนำจากอาจารย์โจวขึ้นมาได้ ในตอนนั้นอาจารย์โจวได้คุยกับเขาถึงบทความหนึ่ง “หรือว่าเป็นบทความที่อาจารย์โจวสอบติดบัณฑิตในตอนนั้น? ”

ตาแก่เฉินก็ร้อนใจขึ้นมาทันที “จื่ออาน เจ้าหมายความว่าอย่างไร จื่อคังไม่ได้ลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่นนะ”

เฉินจื่ออานเองก็ไม่อยากจะคิดว่าเฉินจื่อคังลอกเลียนแบบผลงานของผู้อื่นเช่นกัน แต่เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“อาจารย์โจวไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ช่วงที่พวกข้าเริ่มสร้างบ้านใหม่ เขาก็กลับบ้านเกิดไปแล้ว” เฉินจื่ออานพูดตามความจริง ตาแก่เฉินรีบลุกขึ้นยืนทันที “บ้านเกิดของอาจารย์โจวอยู่ที่ใด เรารีบไปหาเขาเดี๋ยวนี้เลย”

เฉินจื่ออานเองก็ร้อนใจเช่นกัน เขาเหลือบมองไปทางลู่ม่าน และสุดท้ายเขาก็ไม่ปฏิเสธ “ข้ากับพี่ใหญ่ไปดีกว่า ท่านพ่อรอเราอยู่ที่บ้าน”

แต่ตาแก่เฉินไม่ยอม “พ่อจะไปกับพวกเจ้าด้วย”

เฉินจื่อฉายเองก็พยายามเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงเลิกเกลี้ยกล่อม แล้วออกไปเพื่อเตรียมเตรียมรถเกวียน เฉินยื่ออานใช้โอกาสจากเวลานี้เพื่อกำชับกับลู่ม่าน “เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ข้าจำเป็นต้องไปดู”

ลู่ม่านพยักหน้า “ได้ ท่านไปเถอะ ส่วนทางนี้ข้าจะคุยกับเซวียนเหนียงอีกที” หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว ลู่ม่านก็เตือนเฉินจื่ออานอีกครั้ง “ข้าคิดว่าระหว่างอาจารย์โจวกับเซวียนเหนียงจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ทางที่ดีเจ้าควรจะบอกเขาไว้ เรื่องที่เซวียนเหนียงยังพักอยู่ที่บ้านของเรา ข้าเกรงว่าถ้าเจ้าเชิญเขากลับมา จะทำให้เขาไม่พอใจได้”

เฉินจื่ออานพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว เจ้าอยู่ที่บ้านดูแลตัวเองด้วย”

ทั้งสามคนพูด ก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่พวกเขาเดินออกมาจากห้องโถง ผู้ใหญ่บ้านกับท่านอู๋ก็ยังไม่จากไป ตอนที่พวกเขาได้ยินตาแก่เฉินพูดเช่นนั้น พวกเขาต่างก็คิดว่าต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่จากไป

พอเห็นพวกเขาออกมา ผู้ใหญ่บ้านก็รีบถามออกมา “พี่ชาย นี่มันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรที่ข้าพอจะช่วยได้หรือเปล่า”

ตาแก่เฉินยิ้มแหยและส่ายหน้า “ไม่มีหรอก แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ข้ากับพวกจื่ออานจัดการกันเองได้”

ถึงแม้ผู้ใหญ่บ้านจะอายุน้อยกว่าตาแก่เฉิน แต่เขาคุ้นเคยกับการเป็รผู้ใหญ่บ้านแล้ว จึงสามารถสังเกตคำพูดและท่าทางผิดปกติออกมาได้ พอเห็นตาแก่เฉินพูดเช่นนี้ เขารู้ว่าตาแก่เฉินไม่เต็มใจที่จะพูดออกมา ดังนั้นเขาจึงไม่ถามต่อ

เขาแค่พูดว่า “ถ้าข้าสามารถช่วยอะไรได้ ก็ให้จื่ออานมาบอกข้าได้”

ตาแก่เฉินพยักหน้า

ฝ่ายท่านอู๋ก็ยิ่งไม่เกรงใจ เขาไม่ได้คิดจะจากไปในทันที เซวียนเหนียงอุตส่าห์ออกมาสู่ภายนอกทั้งที ก่อนหน้านี้นางเอาแต่ยุ่งอยู่กับการสร้างบ้าน และไม่มีเวลาคุยกับเขา

ตอนนี้บ้านถูกสร้างเสร็จแล้ว ท่านอู๋จึงหาเวลาว่างออกมา และพักในหมู่บ้านไป่ฮัวแห่งนี้สักพัก

พอเห็นตาแก่เฉินแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ เขาเพียงแค่ยกยิ้มอยู่เงียบๆ แล้วไปหาเซวียนเหนียง

ลู่ม่านยืนส่งพวกเขาไป แล้วเดินกลับไปหาเซวียนเหนียง

เซวียนเหนียงกำลังวาดภาพอยู่ โดยมีท่านอู๋คอยชวนคุยอยู่ด้านข้าง “ช่วงนี้เจ้าซูบผอมลงไปมาก เดี๋ยวข้าบอกให้เสี่ยวม่านทำของอร่อยๆ ให้เจ้ากินเพิ่ม”

เซวียนเหนียงไม่ตอบกลับ นางยังคงยุ่งก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป

ท่านอู๋พูดเสริม “ฝีมือการทำอาหารของเสี่ยวม่านดีมาก หม้อไฟที่นางทำเมื่อไม่กี่วันก่อนก็ไม่เลว...”

ลู่ม่าน “...”

มีเสียงหัวเราะดังออกมาจากด้านข้าง “เป็นท่านที่อยากกินเองมากกว่า”

ลู่ม่านพยักหน้า และผลักประตูเข้าไป “เซวียนเหนียงพูดถูก ข้าคิดว่าเป็นท่านอู๋ที่อยากกินเองมากกว่า”

ท่านอู๋ถูกจับได้ สีหน้าที่สงบตามปกติของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

“เด็กคนนี้ มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่”

ลู่ม่านเลิกคิ้วขึ้น “ข้ามาถึงได้สักพักแล้ว เป็นท่านเองที่คิดแต่จะหลอกล่อของกิน จึงไม่ได้ยินเสียงของข้า”

ท่านอู๋จ้องมองนางอย่างโกรธเคือง “เพิ่งย้ายเข้ามา ไม่มีอะไรต้องไปจัดการหรือไง รีบไปจัดการต่อได้แล้ว!”

ลู่ม่าน “...”

ในเวลานี้เองเซวียนเหนียงถึงได้วางปากกาลง ก่อนจะเหลือบมองท่านอู๋ด้วยความโมโห “ดูท่านสิ ยังคงหุนหันพลันแล่นเหมือนตอนยังหนุ่มอีก ในเมื่อเสี่ยวม่านมาหาข้า แน่นอนว่าต้องมีบางอย่างจะคุยกับข้า ท่านกลับไปก่อนเถอะ”

ท่านอู๋จ้องไปที่ลู่ม่านด้วยความขุ่นเคือง ในที่สุด เขาก็อุตส่าห์หาโอกาสได้คุยกับเซวียนเหนียง เลยนะ ลู่ม่านรู้สึกได้ถึงความไม่พอใจจึงพูดว่า “คืนนี้กินหม้อไฟ!”

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ต้นพริกได้เติบโตขึ้นมากแล้ว และต้นอ่อนก็เยอะพอ น่าจะมีผลิตดี ดังนั้นลู่ม่านจึงคิดว่า เอาออกมากินบ้างคงไม่เป็นไร

สีหน้าของท่านอู๋อ่อนลง และยอมหันหลังเดินออกไป

“เสี่ยวม่าน มาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า” เซวียนเหนียงพูดด้วยรอยยิ้ม

ลู่ม่านนิ่งคิดอยู่สักพัก ก่อนจะพูดว่า “มีบางอย่างเกิดขึ้น จื่ออานจึงต้องไปเชิญอาจารย์โจวกลับมา ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกลางทาง อาจารย์โจวจะมาถึงที่นี่ในอีกสองนี้”

ลู่ม่านไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขามีความคับข้องใจอะไรต่อกัน แต่พอคิดว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งในใจ นางที่เป็นเจ้าบ้านจึงจำเป็นต้องแจ้งให้พวกเขาทราบไว้ก่อน เซวียนเหนียงไม่มีท่าทางต่อต้านเหมือนอาจารย์โจว

พอได้ยินเช่นนั้น นางก็ยกยิ้มเล็กน้อย “ทำไม ก่อนที่ข้าจะมา ตาแก่นั่นพยายามหลบเลี่ยงข้ามากเลยหรือไง”

“หะ?” ลู่ม่านคิดไม่ถึงว่าเซวียนเหนียงจะถามออกมาแบบนี้ หลังจากนิ่งเงียบไปเล็กน้อย นางก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ใช่”

“เอาล่ะ ไม่ต้องโกหกข้าหรอก ตาแก่นั่นนิสัยยังไงข้าจะไม่รู้ได้ยังไง เขาจะมาก็ให้เขามา ข้าไม่กลัว!” เซวียนเหนียงกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน