ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 122

หลังจากที่ลู่ม่านได้คำตอบนี้ ถึงได้รู้สึกโล่งใจลงบ้าง และคิดว่าที่บ้านยังมีหลายสิ่งที่ต้องไปจัดการ ดังนั้นจึงออกไปจัดการต่อ

ช่วงเย็น ลู่ม่านเชิญเหยาซื่อ หวังเอ้อร์หนิว หลิวซื่อและเหอฮัวมาทานอาหารเย็นด้วยกัน

ตามที่สัญญาไว้ หม้อไฟถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อย และยังย้ายเตาย่างออกมาด้วย ทุกคนรับประทานอาหารกันอย่างครึกครื้น ตรงบริเวณศาลาริมสระน้ำในส่วนกลางของบ้าน

ตั้งแต่นางมาถึงที่นี่ นี่เป็นอาหารมื้อแรกที่ลู่ม่านกินอย่างสบายใจ

ไม่ต้องกังวลว่าบ้านที่เก่าทรุดโทรมจะฝนตกแล้วน้ำรั่ว และไม่ต้องกังวลว่าเงินในกระเป๋าจะไม่พอใช้ หัวใจของลู่ม่าน ในที่สุดก็สบายใจขึ้นสักที

ความรู้สึกนี้ ลู่ม่านหวงแหนมาก

เพราะความหวงแหน ลู่ม่านถึงได้รู้ว่าความร่ำรวยของตนเองในตอนนี้ ไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยซ้ำ นางยังต้องอาศัยอำนาจของตระกูลจวง ดังนั้น จากนี้ไปนางจะต้องทำงานหนักขึ้น และสักวันหนึ่งนางจะต้องพัฒนาได้โดยไม่ต้องพึ่งตระกูลจวงอีก

ในคืนนี้ ลู่ม่านนอนกอดผ้าห่มผ้าไหม และนอนหลับฝันหวาน

ในตอนบ่ายของวันต่อมา ในที่สุดเฉินจื่ออานและตาแก่เฉินก็กลับมาถึง ยังคงกลับมาสามคนเช่นเดิม อาจารย์โจวไม่ได้กลับมาด้วย

หลังจากลงจากรถ ตาแก่เฉินขาอ่อนจะทรุดตัวลง เฉินจื่อฉายรีบเข้าไปประคองตัวไว้ ก่อนจะเดินเข้าไป

“จื่ออาน เป็นยังไงบ้าง” ลู่ม่านถามออกมา

สีหน้าของเฉินจื่ออานดูแย่มาก เพราะคนที่ถามเป็นลู่ม่านจึงยอมตอบ “คราวนี้จื่อคังก่อเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ หลังจากที่อาจารย์โจวได้ยินเรื่องนี้ เขาก็ไปหาคนสอบถามเกี่ยวกับบทความของจื่อคังทันที หลังจากเปรียบเทียบทั้งสองบทความแล้ว ผลที่ได้คือจื่อคังลอกเลียนแบบบทความของอาจารย์โจวจริง”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว แทบไม่อยากจะเชื่อ แต่นางรู้สึกว่าเฉินจื่อคังสามารถทำเรื่องนี้ออกมาได้จริงๆ

มิน่าล่ะ หลังจากผลสอบถูกปล่อยออกมา เขาถึงได้มั่นใจ ว่าเขาจะต้องสอบติดอย่างแน่นอน นั่นไม่ใช่เพราะเฉินจื่อคังมั่นใจในบทความของตนเอง แต่เพราะเขามีความมั่นใจในบทความของอาจารย์โจวที่เคยได้อันดับหนึ่งมาก่อน

พูดไปพูดมา เพราะเฉินจื่อคังถูกครอบครัวของเขาเอาใจจนนิสัยเสีย ตั้งแต่เด็ก พี่ชายทุกคนต่สงก็ยอมให้เขา ทำให้เขารู้สึกว่าเขาสมควรได้ทุกอย่าง ลู่ม่านแทบจะจินตนาการได้เลยว่า ในตอนนี้เฉินจื่อคังกำลังคิดอะไรอยู่

เขาคงคิดว่าเขาแค่ยืมบทความของอาจารย์โจวมาใช้ จะบอกว่าเขาลอกเลียนแบบได้ยังไง?

หรือบางทีเขาอาจจะคิดว่า บรรดาพี่ชายของเขา จะสามารถช่วยเขาออกไปได้ เหมือนที่เคยเป็นมาก่อน!

ลู่ม่านกัดฟัน “จื่ออาน เจ้าคิดว่าอย่างไร”

เฉินจื่ออานส่ายหน้า ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกขัดแย้งมากเช่นกัน คำพูดที่อาจารย์โจวกระซิบข้างหูยังดังก้องอยู่ “ถ้าครั้งนี้น้องชายคนเล็กของเจ้าไม่ผ่าน อย่างมากที่สุดเขาก็จะถูกตัดสินให้ไม่สามารถเข้าร่วมการสอบตลอดชีวิต แล้วกลับไปใช้ชีวิตเป็นชาวนาในชนบทอย่างสงบ มันอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาแล้ว แต่ถ้าเจ้าใจอ่อนช่วยเขาอีก ไม่แน่ว่าครั้งหน้าเขาอาจจะทำเรื่องที่ร้ายแรงกว่าขึ้นมาอีก ถึงตอนนั้น เจ้าคิดว่าด้วยฐานะของครอบครัวเจ้าจะช่วยเขาได้ไหม?”

ในขณะที่กำลังครุ่นคิด ตาแก่เฉินก็รีบปล่อยมือที่เฉินจื่อฉายประคองรีบเดินมา “จื่ออาน หรือเจ้าจะยืนมองชีวิตของจื่อคังถูกทำลายไปเช่นนี้”

คำพูดของตาแก่เฉินเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ราวกับว่าเฉินจื่ออานสามารถช่วยเฉินจื่อคังได้ แต่เขาไม่ยอมทำ ทำให้ลู่ม่านไม่พอใจมาก เธอขมวดคิ้ว “ท่านพ่อพูดแบบนี้ได้ยังไง ท่านพ่อคิดว่าการลอกเลียนแบบผลงานของคนอื่นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือไงกัน?”

ตาแก่เฉินเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบ้านเฉิน ในอดีต ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ส่งเฉินจื่อคังไปเรียนทั้งที่ครอบครัวยังยากจนเช่นนี้ ที่จริงแล้วในใจเขารู้ดีว่าทางเลือกไหนที่ดีต่อเฉินจื่อคัง แต่พอต้องเผชิญหน้ากับเฉินจื่ออาน เขายังหวังว่าเฉินจื่ออานจะสามารถช่วยเฉินจื่อคังได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน