ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 125

จวงลี่จ้งเหมือนจะรู้อยู่แล้วว่าลู่ม่านจะต้องโกรธ พอเห็นนางจึงเริ่มพูดก่อน

“เห็นของที่ข้าสั่งมาส่งแล้วใช่ไหม”

“แล้วยังไง คุณชายจวงคิดจะทำอะไร” ลู่ม่านเอ่ยถาม

“มียอดสั่งจำนวนมาก จำเป็นต้องตุนสินค้าไว้ ดังนั้นข้าจึงขอให้คนนำวัตถุดิบมา และคิดว่าเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในเจ้าของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้ ข้าจึงมาอธิบายให้เจ้าเข้าใจด้วยตนเอง”

“ที่แท้คุณชายจวงก็รู้ ว่าข้าเป็นหนึ่งในเจ้าของที่นี่ด้วย” ลู่ม่านพูดถากถาง การตัดสินใจทำก่อนแล้วบอกทีหลังของจวงลี่จ้งทำให้คนไม่น่าพอใจมากจริงๆ

“แน่นอนข้ารู้! โรงงานนี้เป็นกำลังทั้งหมดของแม่นาง ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนี้คงจะไม่เกิดขึ้น” นี่เป็นคำพูดที่ดีมาก ทำให้ความโกรธของลู่ม่านลดลงในที่สุด

แต่นางยังคงทำหน้าบูดบึ้ง มองดูวัตถุดิบที่กองจนเหมือนภูเขาตรงหน้านาง “คุณชายจวงจะไม่บอกข้าบ้างหรือว่าท่านนำวัตถุดิบมากมายเหล่านี้มา ท่านวางแผนที่จะเตรียมสินค้าให้ใคร หรือท่านตั้งใจจะแจกจ่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้กับพวกเราทุกคนในยุคก่อนราชวงศ์ถัง คิดจะทำการกุศล?”

ลู่ม่านพูดกัดเก่งมาก และจวงลี่จ้งส่ายหน้าอย่างจนใจ “เรื่องนี้ ท่านไม่รู้จะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งที่เป็นของท่าน จะไม่ลดน้อยลงแน่นอน”

ลู่ม่านรู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่เขาพูด ทำไมฟังแล้วเหมือนเขาจะทำสิ่งไม่ดี?

นางจ้องมาไปที่เขาเล็กน้อย “คิดจะทำเรื่องไม่ดีหรือไง?”

“ไม่ใช่แน่นอน!” จวงลี่จ้งกัดฟันกรอด “เพียงแค่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้”

“ขอแค่ไม่ใช่เรื่องไม่ดี ข้าก็ไม่เคยคิดว่าเงินจะร้อนมือ” หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก ลู่ม่านจึงกล่าวเสริมว่า “ถึงแม้จะเป็นเรื่องไม่ดี ท่านก็เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า”

นางปัดความรับผิดชอบได้สะอาดมาก จวงลี่จ้งจนใจ จึงได้แต่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ได้!” เขารับปากอย่างเต็มใจ

ลู่ม่านเหลือบมองเขาด้วยความสงสัย แต่ไม่ได้พูดอะไรอีก

ทั้งสองคนทำการปรับเปลี่ยนปัญหาด้านการผลิตในปัจจุบัน สำหรับส่วนนี้ ลู่ม่านมีประสบการณ์มากกว่า ในยุคปัจจุบัน นางเริ่มธุรกิจมาจากศูนย์ จนประสบความสำเร็จ

ดังนั้นจึงจัดการทุกอย่างได้ง่าย และจวงลี่จ้งก็พอใจมากเช่นกัน

หลังจากสั่งงานทุกอย่างเสร็จ ลู่ม่านก็ลุกขึ้นยืน และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ใกล้ค่ำแล้ว ได้เวลาทำอาหารเย็นแล้ว

จวงลี่จ้งเห็นแบบนี้จึงรีบตามไป ในตอนแรกลู่ม่านนึกว่าเขากำลังจะกลับไปแล้วเช่นกัน แต่หลังจากออกจากประตู แล้วเดินไปหลายก้าว นางพบว่าจวงลี่จ้งไม่ได้กลับไป แต่กลับเดินตามนางไปที่บ้านของนางด้วย

ชู่ม่านตกตะลึง “ท่านจะไปกินข้าวที่บ้านข้า? ”

นางคิดว่าประโยคนี้ไม่มีปัญหา ถ้าเขาอยากจะไป นางก็เตรียมอาหารเย็นเพิ่ม แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจวงลี่จ้งจะหยุดชะงักไปเล็กน้อย แล้วรีบพูดอีกครั้ง “ไม่ใช่ ข้าจะไปรับท่านอู๋”

ลู่ม่าน “...”

คิดว่านางไม่รู้จักท่านอู๋หรือไง? ท่านอู๋จะกลับไปโดยไม่ได้กินข้าวก่อนเมื่อไหร่กัน? แต่คนตรงหน้ากลับดูเป็นธรรมชาติมาก ราวกับว่าลู่ม่านจะไม่ให้เขากินได้จริงๆ

นางขี้เกียจเกินกว่าจะบ่นถึงเขาแล้ว จู่ๆ ลู่ม่านก็นึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางเอาเมล็ดพริกออกมาหว่านก่อนหน้านี้ ยังมีพริกเหลืออยู่บ้าง ซึ่งเธอทำดารตากแห้งไว้แล้ว

ดีมาก คุณชายจวงเก่งมากไม่ใช่หรือไง? หม้อไฟคืนนี้ทำแบบเผ็ดแซ่บไปเลยก็แล้วกัน!!!

ท่านอู๋ดีใจมากพอเห็นลู่ม่านเตรียมหม้อไฟ จวงลี่จ้งมองไปที่ท่านอู๋อย่างสงสัย แค่มองแวบแรกก็รู้ว่าเขาสนใจมาก แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังนิ่งเงียบ ไม่ยอมถามออกมา

พอเห็นแบบนี้ ลู่ม่านก็ยกยิ้ม แล้วทำหม้อไฟของนางต่อไป มีเพียงเฉินจื่ออานเท่านั้นที่มองความขี้แกล้งของลู่ม่านออก แต่ก็ยังเอ็นดูไม่ต่อว่านาง “ถึงแม้คุณชายจวงจะเย็นชามาก แต่เขาก็เป็นเพื่อนร่วมงานของเรา”

“ข้ารู้ ไม่ทำรุนแรงเกินไปหรอก” หลังจากพูดจบ ลู่ม่านก็คว้าพริกอีกมาอีกสองเม็ด

เฉินจื่ออาน “...”

คืนนั้น ทั้งกลุ่มล้อมวงกันกินหม้อไฟ บรรยากาศครึกครื้นมาก ทั้งห้องเต็มไปด้วยกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของพริก

ท่านอู๋รีบลงมือก่อนเหมือนเดิม เขาหยิบชิ้นเนื้อให้เซวียนเหนียงก่อน จากนั้นก็เริ่มกินเอง เฉินจื่ออานช่วยลู่ม่านตักเนื้อเสร็จ ก่อนจะกินเองบ้าง

จวงลี่จ้งมองดูพวกเขากินเงียบๆ ก่อนจะเริ่มลงมือกินบ้าง และพอคีบเนื้อเข้าปากเหมือนท่านอู๋ และเขาก็ชะงักไปทันที

วินาทีถัดมา ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำ แต่ยังคงรักษาหน้านิ่งแล้วเอ่ยถามอย่างใจเย็น “น้ำอยู่ที่ใด”

ครั้งนี้ลู่ม่านไม่ได้กลั่นแกล้งเขา นางรีบเทน้ำใส่แก้วให้เขา หลังจากที่เขาดื่มหมด เขาถึงได้รู้สึกดีขึ้น

แต่เขาเป็นคนผิวขาว ตอนนี้จึงเห็นได้ชัดว่าหน้าของเขาแดงมาก เดิมทีลู่ม่านคิดว่าเขาเป็นแบบนี้แล้วน่าจะหยุดกิน แต่ใครจะคิดว่าเขาจะหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง แล้วตักชิ้นที่ใหญ่กว่าใส่ชามตัวเอง

ทุกคน “...”

หลังจากกินข้าวเสร็จ จวงลี่จ้งก็พาท่านอู๋กลับไปด้วย

วันรุ่งขึ้น เฉินสือซ่วนไปทำงานในโรงงานจริงๆ ลู่ม่านสอบถามสถานการณ์ของเขาจากผู้ดูแล ซึ่งผู้ดูแลชื่นชมเขามาก

“เด็กคนนี้ขยัน และฉลาดมาก ข้าคิดว่า ไม่มีปัญหา”

ไม่มีปัญหา ลู่ม่านเองก็โล่งอกมาก

แค่ชั่วพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วครึ่งเดือน ผู้ดูแลร้านช่ายมาที่หมู่บ้านไป่ฮัว เดิมทีลู่ม่านนึกว่าเขามาที่นี่เพื่อมาขอผงเครื่องเทศสิบสามชนิด แต่ใครจะคิดว่าพอเขามาถึงที่นี่ เขาก็รีบเรียกลู่ม่านกับเฉินจื่ออานขึ้นรถอย่างรีบร้อน

บอกว่ามีเรื่องสำคัญมาก ที่พวกเขาต้องไปจัดการ

พอเห็นว่าสีหน้าของผู้ดูแลร้านช่ายนั้นดูจริงจังมาก ลู่ม่านจึงเริ่มสงสัยทันที “เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

ผู้ดูแลร้านช่ายส่ายหัว “ข้าเองก็ไม่ทราบ! ข้ามาเพื่อช่วยคุณชายรองส่งข่าวเท่านั้น!”

“แล้วคุณชายรองของท่านล่ะ?” ลู่ม่านเอ่ยถาม คงไม่ใช่แค่เรื่องเล็กนิดเดียวก็จะเรียกนางกับเฉินจื่ออานไปหาหรอกใช่ไหม? และพวกนางก็ไม่ใช่คนรับใช้ของเขาด้วย

“คุณชายรองไปที่เมืองหย่งอานเมื่อสองสามวันก่อน เขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่ต้องไปหารือ วันนี้ข้าได้รับจดหมายด่วนจากผู้ดูแลของคุณชายรองขอให้ข้าพาท่านทั้งสองคนไปที่เมืองหย่งอาน อีกทั้ง คุณชายรองยังกล่าวอีกว่า …”

ผู้ดูแลร้านช่ายหยุดนิ่งไปสักพัก ลู่ม่านจึงรีบถามอย่างร้อนใจ “พูดว่าอะไร?”

“คุณชายรองยังบอกด้วยว่าถ้าพวกท่านไม่ไป จะต้องเสียใจทีหลังอย่างแน่นอน!” ด้วยคำพูดที่จริงจังเช่นนี้ ลู่ม่านจึงยิ่งสับสน นางเหลือบมองเฉินจื่ออานด้วยท่าทางที่ซับซ้อน

เฉินจื่ออานขมวดคิ้ว “เสี่ยวม่าน ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่ประโยคเดียวที่ว่าข้าจะไปกับเจ้าด้วย ก็มีค่ากว่าคำไหนแล้ว ลู่ม่านพยักหน้า “ตกลง เราจะไปด้วยกัน!”

หลังจากตกลงกันได้ ผู้ดูแลร้านช่ายให้ก็บอกให้ทั้งสองคนขึ้นรถ ลู่ม่านไม่มีเวลากลับไปเก็บเสื้อผ้า แต่ผู้ดูแลร้านช่ายบอกเพียงว่าคุณชายจวงจะจัดการเตรียมให้

ตำบลชางผิงอยู่ห่างจากเมืองหย่งอาน ต้องใช้เวลาเดินทางสามถึงสี่วัน หลังจากมาถึงตำบลแล้ว ผู้ดูแลร้านช่ายก็จัดรถม้าอีกคัน แล้วบอกว่าเขาต้องไปรายงานที่เมืองหย่งอานเช่นกัน ดังนั้นเขาจะไปกับพวกเขาด้วย

ตรงจุดนี้ทำให้ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย อย่างน้อย พวกเขาก็รู้จักผู้ดูแลร้านช่าย จึงไม่น่าจะมีปัญหามาก

ระหว่างทาง รถม้าวิ่งเร็วมาก ไม่รู้ว่าจวงลี่จ้งพูดอะไรกับผู้ดูแลร้านช่ายกันแน่ เขาถึงได้รีบร้อนมากถึงขนาดนี้ นอกจากพักกินข้าวแล้ว เขาก็ไม่หยุดพักเลย และในที่สุด เช้าของวันที่สาม เขาก็เห็นป้อมประตูของเมืองหย่งอาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน