ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 127

เดิมทีคิดว่าสถานที่ที่ทรุดโทรมเช่นนี้คงจะมีแขกพักอยู่ไม่น้อยเลย? พอเดินเข้ามา ก็พบว่าข้างในมีคนเยอะจริงๆ ด้วย

มีทั้งเสียงเด็กร้องไห้และผู้ใหญ่เถียงกันดังไปทั่ว ปะปนกันไปหมด

พอลู่ม่านกับเฉินจื่ออานเดินเข้ามา เสื้อผ้าที่พวกเขาสวมใส่ตระกูลจวงเป็นคนจัดเตรียมไว้ให้ ก่อนหน้านี้พวกเขามัวแต่ยุ่งอยู่กับการพูดคุยกันจึงไม่ได้สังเกตเสื้อผ้าที่สวมใส่เลย

ตอนนี้ พอถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คน ลู่ม่านถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าพวกเขากำลังสวมชุดที่ทำมาจากผ้าไหมอยู่

แม้ว่าจะไม่ได้เนื้ิผ้าดีเหมือนที่จวงลี่จ้งสวมใส่ แต่ในสายตาของคนจน มันก็เป็นเสื้อผ้าของคนรวยแล้ว

เฉินจื่ออานดึงลู่ม่านมาปกป้องไว้ข้างหลังเขา จากนั้นค่อย ๆ เดินฝ่าฝูงชนไปยังห้องพักที่บ้านเฉินพักอยู่ หลังจากเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนเรียก “พี่สาม!”

เฉินจื่ออานชะงักงัน ก่อนจะเห็นร่างซูบผอมที่วิ่งมาหาอย่างรวดเร็ว แล้วกล่าวทักทายอย่างกระตือรือร้น “พี่สาม ในที่สุดพี่ก็มาสักที ท่านพ่อบอกว่าพี่ไม่อยากมาช่วยพวกเรา ข้าไม่เชื่อ ข้ารู้ว่าพี่สามจะต้องไม่ทอดทิ้งพวกเราไว้ตามลำพังแน่นอน”

เฉินจื่ออานตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นเขาถึงได้เห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้าคือเฉินหลิ่วเอ๋อ

ดูสภาพมอมแมมมาก ไม่สะอาดสะอ้านเหมือนตอนอยู่ในหมู่บ้าน โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่นางสวมที่บ้าน ตอนที่พวกเขาออกเดินทางมาที่นี่ เฉินจื่ออานจำได้ว่ามีเสื้อผ้าใหม่ๆ หลายชุดที่พวกเขานำมาด้วย

แต่ตอนนี้เฉินหลิ่วเอ๋อกลับสวมผ้าเนื้อหยาบ

“พี่สาม ตอนนี้พี่รวยมากแล้วเหรอ?” เฉินหลิ่วเอ๋อถามขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่กระโปรงผ้าไหมที่ลู่ม่านสวมใส่

เฉินจื่ออานขมวดคิ้วและพูดด้วยเสียงต่ำ “เข้าไปค่อยคุยเถอะ!”

เฉินหลิ่วเอ๋อหันหลังกลับและพาพวกเขาเดินเข้าไป นางตะโกนเสียงดังทันทีที่ไปถึงประตู “ท่านพ่อ พี่สามมาแล้ว”

ประตูถูกเปิดออก เฉินจื่อฟู่ก็รีบเดินออกมาต้อนรับด้วยความกระตือรือร้นเช่นเดียวกับเฉินหลิ่วเอ๋อ เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “น้องสาม เจ้ามาถึงแล้วหรือ”

เฉินจื่อฟู่ยังคงเหมือนตอนที่เขาอยู่ที่บ้าน แต่ใบหน้ามอมแมมเช่นกัน นอกจากนี้ ทุกคนดูซูบผอมมาก

เสียงแผ่วเบาดังออกมาจากในห้อง “เจ้าสามมาแล้วเหรอ?”

เฉินจื่ออานชะงักงันและรีบเดินเข้าไป พอมองเข้าไปภายในห้อง จึงเห็นตาแก่เฉินนอนอยู่บนเตียงในห้องแคบๆ โดยนั่งพิงหัวเตียง เพิ่งผ่านไปเพียงยี่สิบวันเท่านั้น เขากลับซูบผอมลงไปมาก

ปกติตาแก่เฉินก็ไม่อ้วน ตอนนี้น้ำหนักลดลง จึงยิ่งซูบผอมมากขึ้น

เฉินหลี่ซื่อกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างตาแก่เฉิน และจ้องมองไปที่เฉินจื่ออานด้วยสายตาเคียดแค้น “จนถึงตอนนี้แล้ว เจ้ามาทำอะไรอีก มาดูว่าพวกเราตายแล้วหรือยังใช่ไหม”

เฉินจื่ออานนิ่งเงียบ ส่วนเฉินหลี่ซื่อยังคงด่าว่าไม่หยุด

“เจ้าใจร้ายมาก จื่อคังเป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้า ถึงทำอะไรผิดพลาดไป เจ้ากลับไม่ไปช่วยเขา ออกไปนะ ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ถึงข้าจะตาย ข้าก็ไม่อยากให้เจ้ามาเก็บศพ!”

หลังจากพูดจบ นางก็ผลักเฉินจื่ออานออกไป ทันใดนั้นเองตาแก่เฉินก็ตะโกนเสียงดัง “พอได้แล้ว ลูกอุตส่าห์เดินทางมาหาแต่ไกล จะเอะอะอะไรอีก” หลังจากนั้นเขาก็ไอออกมาอย่างแรง

เดิมทีเฉินหลี่ซื่อก็ออกความคิดเห็นอะไรที่มีประโยชน์ไม่เป็น โดยเฉพาะหลังจากที่เฉินจื่อคังถูกจับตัวไป ตาแก่เฉินเป็นเสาหลักของนางแล้ว เสาหลักของนางป่วยหนักถึงเพียงนี้ แน่นอนว่านางต้องเป็นห่วงมาก

นางรีบกลับมาและเรียกเฉินหลิ่วเอ๋อ “เอาน้ำมาให้พ่อเจ้าเร็ว”

เฉินหลิ่วเอ๋อบ่นพึมพำ “ยังมีน้ำที่ไหนกัน น้ำครึ่งถังที่ซื้อมาเมื่อเช้านี้ใช้หมดไปแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน