ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 130

พอทุกคนหัวเราะ เฉินหลี่ซื่อก็รู้สึกขายหน้าและกำลังจะต่อว่าอีกครั้ง

เฉินหลิ่วเอ๋อรีบห้ามนางไว้ และหันไปมองผู้คนรอบตัวด้วยน้ำตาคลอเบ้า “พวกเจ้าสาปแช่งผู้สูงอายุแบบนี้ได้อย่างไรกัน”

เดิมทีเฉินหลิ่วเอ๋อก็หน้าตาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่ทำท่าทางน่าสงสาร สิ่งที่พูดออกมาก็มีมารยาท ต่อหน้าจวงลี่จ้งนางแสร้งทำเป็นสภาพมาตลอด​

ดังนั้นผู้ที่เยาะเย้ยจึงเริ่มละอายใจ

หลังจากเสียงเหล่านั้นหยุดลง เฉินหลิ่วเอ๋อก็กัดฟันและมองไปที่จวงลี่จ้ง “คุณชาย​จวง ข้าเต็มใจที่จะยืมเงิน! ขอแค่สามารถรักษาท่านพ่อได้ ให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”

ท่าทางและคำพูดของลูกสาวกตัญญูก็ปรากฏขึ้น จวงลี่จ้งหรี่ตามอง

เฉินหลี่ซื่อรีบคว้าเฉินหลิ่วเอ๋อไว้ “หลิ่วเอ๋อ เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง!”

ถึงแม้​ในเมืองหย่งอานนี้ คนธรรมดาสามารถได้รับค่าจ้างสูงสุดเพียงห้าร้อยเหวินต่อเดือนเท่านั้น แต่ยืมเงินหนึ่งพวงต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยเหวินต่อวัน จะหาเงินที่ไหนจ่ายคืนได้หมด

“ท่านแม่...” เฉินหลิ่วเอ๋อรพูดอย่างอ่อนโยน

เฉินหลี่ซื่อกัดฟันและมองไปทางเฉินจื่ออาน“จื่ออาน เจ้าแค่ดูน้องสาวของเจ้ากระโดดลงไปในหลุมไฟหรือไง?”

ประโยคนี้ทำร้ายหัวใจของเฉินจื่ออานมาก พอเขาบอกว่าจะยืมเงินดอกเบี้ยสูงเอง ท่าทางของพวกเขาสงบลงอีกครั้ง พอเปี่ยนเป็นคนอื่น แม่ของเขาก็ร้อนรนทันที

สองมาตรฐานถึงขนาดนี้ เป็นสิ่งที่เฉินหลี่ซื่อแม่แท้ๆ ของเขาทำได้จริงๆ

เฉินจื่ออานอยากจะออกไปจริงๆ แต่พอมองไปที่ตาแก่เฉินที่นอนอยู่บนเตียง เขากำหมัดแน่น แล้วพูดว่า

“ท่านแม่ ครั้งนี้ข้ายืมเงินให้ได้ แต่นี่ก็จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเช่นกัน หลังจากกลับถึงหมู่บ้านไป่ฮัว ข้าจะขอผู้ใหญ่​บ้านย้านชื่อข้าออกจากบันทึกวงศ์บ้านเฉิน!”

ทันทีที่เฉินจื่ออานพูดคำเหล่านี้ ลู่ม่านก็ตกใจไปทันที

ไม่ใช่ว่านางไม่ต้องการให้เฉินจื่ออานออกจากบันทึก​วงศ์ตระกูล แต่นางแค่รู้สึกสงสารเฉินจื่ออาน คนโบราณเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ในตระกูลมาก เฉินจื่ออานจะสิ้นหวังมาแค่ไหนถึงได้ยื่นข้อเสนอเช่นนี้ออกมา?

เฉินจื่อฟู่กับเฉินหลิ่วเอ๋อก็ตกใจเช่นกัน สิ่งแรกที่เฉินจื่อฟู่คิดได้คือ เฉินจื่ออานมีชื่อเสียงในหมู่บ้าน ถ้าเฉินจื่อคังเป็นอะไรไป ก็ยังมีเฉินจื่ออานอยู่ บ้านเฉินของพวกเขาจะไม่เป็นไร ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าเพื่อห้ามทันทีอย่าง “จรังใจ” แล้ว​จับมือเฉินจื่ออานไว้ “จื่ออาน ทำไมเจ้าถึงคิดเช่นนี้”

เฉินจื่ออานถอนมืออแกอย่างสงบและมองไปที่อีกครั้ง “หวังว่าท่านแม่จะรับ​ปาก”

เฉินหลี่ซื่อเป็นคนที่ดื้อรั้นมาก ถึงเวลานี้ นางยังคิดว่าเฉินจื่อคังจะได้รับการช่วยเหลือ ดังนั้นนางจึงไม่สนใจว่าเฉินจื่ออานจะไปหรือไม่ ในทางกลับกัน ในหัวใจของเธอ เธอยังคงรู้สึกว่าถ้าเขาไปแล้ว จะปัดความโชคร้ายที่เขามีให้เฉินจื่อคังได้

ดังนั้น หลังจากลังเลอยู่สักพัก​ นางก็พยักหน้ายินยอม​

“ถ้าเจ้าสามารถเกลี้ยกล่อม​ผู้ใหญ่​บ้านและผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้ ข้าก็ไม่มีปัญหา”

จู่ๆ เฉินจื่อฟู่ก็ตะโกนออกมา “ท่านแม่ ข้าไม่เห็นด้วย!”

“ตะโกน​อะไรของเจ้า?” เฉินหลี่ซื่ออารมณ์​เสียมาก “ถ้าเจ้ายอมไปยืมเงินดอกเบี้ยสูงมารักษา​พ่อของเจ้า ข้าจะฟังที่เจ้าพูด!”

เฉินจื่อฟู่ปิดปากเงียบทันที จะเกาะเฉินจื่ออานได้หรือไม่ยังไม่รู้​ ถ้าต้องติดหนี้อีก เขาอยากจะปัดความรับผิดชอบ​ก็ไม่ได้แล้ว

ดังนั้นเขาจึงส่ายหน้าทันที และซ่อนตัวอยู่หลังเฉินหลี่ซื่อ

มีเพียงเฉินจื่ออานเท่านั้นที่เงยหน้าขึ้นมองเฉินหลี่ซื่อ เห็นเพียงสีหน้า​เย็นชาของนาง ราวกับว่าที่ต้องสูญเสียไปนั้นไม่ใช่ลูกชาย แต่เป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

คราวนี้ ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ เฉินจื่ออานสูดหายใจเข้าลึก และมองไปทางจวงลี่จ้ง “รบกวน​คุณ​ชายจวงพาข้าไปเซ็นสัญญา​ด้วย!”

สถานการณ์โดยรวมได้รับการจัดการเรียบร้อย​แล้ว แต่เฉินหลิรวเอ๋อยังคงพยายามเกลี้ยกล่อม​ “ท่านแม่ ตกลงไม่ได้นะ!”

ในครั้งนี้นางไม่ได้แสร้งทำ เธอกังวลมากจริงๆ จวงลี่จ้งกับเฉินจื่ออานทำธุรกิจ​ร่วมกัน ส่วนพวกนางกับเฉินจื่ออานเป็นครอบครัวเดียวกัน นางมีโอกาสได้คุยกับอีกฝ่ายมากกว่า

ถ้าเฉินหลี่ซื่อตกลงที่จะตัดสัมพันธ์​กันไปจริงๆ นางก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว

แน่นอนว่าเฉินหลี่ซื่อเข้าใจความคิดของลูกสาวตัวเองดี แต่ครั้งที่แล้ว​อีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจน​แล้ว​ ว่าไม่ได้ชอบเฉินหลิ่วเอ๋อเลย

เฉินหลี่ซื่อไม่ใช่คนประเภทที่รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ก็ยังจะพยายามให้เสียประโยชน์ นางจับมือเฉินหลิ่วเอ๋อไว้แล้วพูด “ฟังแม่นะ แม่จะช่วยหาสามีที่ดีกว่าให้ลูกเอง!”

“แต่ว่า…” เฉินหลิ่วเอ๋อยังคงไม่อยากยอมแพ้

สีหน้าของเฉินหลี่ซื่อเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “แม้แต่​เจ้าก็จะบังคับแม่ของเจ้าด้วยหรือ” เฉินหลี่ซื่อดุด้วยเสียงต่ำ

เฉินหลิ่วเอ๋อไม่เคยเห็นเฉินหลี่ซื่อมีสีหน้าผิดหวังแบบนี้มาก่อน แต่คุณ​ชายจวงรูปงามผู้นั้น…

จู่ๆ เฉินหลิ่วเอ๋อก็พูดขึ้นมา​ “คุณชาย​จวง ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากจ่ายดอกเบี้ย แค่ดอกเบี้ยมันสูงเกินไป คุณ​ชายช่วยลดให้หน่อยได้ไหม”

นางพูด ก่อนจะมองด้วยดวงตา​สีแดงก่ำ และ​ทำท่าทางน่าสงสาร

พอได้ยินเช่นนี้ จวงลี่จ้งจึงยิ้มเยาะออกมา “ไม่ทราบว่าแม่นางเฉินพูดเรื่องแบบนี้ในฐานะไหน”

สีหน้าของซีดเผือด ชายหนุ่ม​รูปงามตรงหน้า สีหน้า​บึ้งตึง​ มองนางด้วยแววตาเย็นชา ไม่มีความรู้สึก​สงสารและยังดูรังเกียจ​อีกด้วย

ไม่มีสายตา​อ่อนโยนเหมือนสายตาของคนมี่ยืนมุงดูรอบข้าง​เลย

“ข้า…” เฉินหลิ่วเอ๋ออ้าปากค้าง แต่รู้สึกว่าหัวใจเหมือนกำลังแตกสลาย​อย่างสิ้นหวัง

คนรอบข้างเห็นแบบนี้ เหมือนจะมองออกจึงหันไปคุยกัน “ไม่ดูซะก่อนว่าตัวเองเป็นใคร? คุณ​ชายรองของตระกูลจวงผู้สง่างาม จะชอบผู้หญิงชาวบ้าน​แบบนี้ได้อย่างไรกัน?”

“คิดว่าตัวเองสวยมากขนาดนั้นเลยหรือไง”

“ข้าว่าหน้าตาก็ธรรมดา ไม่ใช่เสี่ยวชุ่ยจากหอโคมเขียวหยีหงสักหน่อย​!”

เฉินหลี่ซื่อถลึงตาใส่อย่างโกรธเคืองพอได้ยิน​การสนทนาของพวกเขา “ถุย เจ้าพวกคนใจดำ พวกเจ้ามายุ่งอะไรด้วย”

“ทำไมมันถึงจะยุ่งไม่ได้? พวกเจ้าแสดง พวกข้าดู ปากก็ปากของข้า ข้าอยากจะพูดอะไรก็ตามใจข้า!”

“ไหนเจ้าพูดอีกครั้ง ข้าจะฉีกปากของเจ้าให้ขาดไปเลย!” เฉินหลี่ซื่อถกแขนเสื้อขึ้น และเตรียมจะก่อสงคราม

เฉินหลิ่วเอ๋ออยู่ที่ข้างหลังนาง จู่ๆ ก็ปิดหน้าและวิ่งหนีออกไป

เฉินหลี่ซื่อรีบตามไป ส่วนเฉินจื่อฟู่เห็นอย่างนั้นก็วิ่งตามหลังไป เฉินจื่ออานเองก็คิดจาตามไปเช่นกัน แต่พอเขาเดินไปถึงที่ประตู เขานึก​ขึ้น​ได้ว่าตาแก่เฉินยังนอนอยู่ข้างในนั้น

พอคิดได้ว่า เฉินหลี่ซื่อรักเฉินหลิ่วเอ๋อมากขนาดนั้น คงไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับนางแน่นอน ดังนั้นเขาจึงกลับมาด้วยความสบายใจและเดินตามคนใช้ของจวงลี่จ้งไปเอาเงิน

เฉินจื่ออานหยิบเหรียญมาสองพวง คิดที่จะอยู่ที่นี่ จำเป็นต้องพึ่งพาเจ้าบ้านอย่างจวงลี่จ้ง

จวงลี่จ้งมองมาที่เขานิ่งและพูดอย่างใจเย็นว่า “ขอแสดงความยินดีกับคุณชายเฉินด้วย บางทีการตัดสินใจในครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรก็ได้”

จวงลี่จ้งกล่าวอย่างตรงไปตรงมา สำหรับเขาที่เป็นถึงคุณ​ชายตระกูล​ใหญ่ บางครั้ง​ความรักและความผูกพัน​ในครอบครัวนั้นแทบจะบางเบามากสำหรับพวกเขา และ​อาจไม่สำคัญเท่ากับมีเงินและอำนาจที่อยู่ในมือ

ดังนั้น หลังจากที่เห็นเพียงตระกูล​เฉินไม่สนใจเฉินจื่ออานเลย เขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเฉินจื่ออาน ที่จะตัดขาด​ได้ง่าย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้เห็นเฉินจื่ออานมีการพัฒนาตัวเองที่ดีขึ้น ในอนาคตจะต้อง​เป็น​ไปได้ด้วยดีอย่างแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน