ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 142

งานที่บ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว ภาระบนบ่าลู่ม่านกับเฉินจื่ออานก็ผ่อนเบาลงมาก

ในโรงงานสามแห่ง โรงงานผลไม้กวนเหยาซื่อเป็นคนดูแลจัดการ หลังจากผ่านการฝึกฝนจากนาง ตอนนี้งานมากมายไม่ต้องให้ลู่ม่านออกหน้าแล้ว นางสามารถจัดการได้เองอย่างราบรื่น

ทางด้านโรงงานบะหมี่สำเร็จรูป จวงลี่จ้งส่งคนมากำกับดูแล ปกติหากมีเรื่องใหญ่ ทางด้านนั้นจะมาแจ้งลู่ม่าน จากนั้นหากต้องหารือกัน จวงลี่จ้งก็จะมาหารือด้วยตนเอง

ส่วนทางด้านโรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิด ลู่ม่านก็จ้างคนในหมู่บ้านคนหนึ่งมาดูแลจัดการ เพียงแต่คนคนนั้นยังไม่ชำนาญ มักจะมีเรื่องมากมายต้องมาถามลู่ม่าน

ตอนนี้ความคิดของลู่ม่าน ก็ล้วนอยู่ที่โรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิด

……

ต้นกล้าโตเร็วมาก ตั้งแต่เริ่มงอกออกมาจากแม่พิมพ์ ก็กลายเป็นจุดสนใจของคนในหมู่บ้าน

ซึ่งคนส่วนใหญ่เห็นว่าเชื่อถือไม่ได้ แม้แต่ผู้ใหญ่บ้านที่สนับสนุนลู่ม่านมาตลอด ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน บอกว่าให้รอดูก่อน

มาถึงวันที่ลู่ม่านหว่านกล้าอย่างเป็นทางการ มีคนมากมายมาดูแล้วหัวเราะเยาะลู่ม่าน

ลู่ม่านไม่เป็นห่วงเลย นางเชื่อว่าตนเองสามารถทำได้ ดังนั้นจึงไม่กลัวพวกเขามาหัวเราะเยาะ

ก่อนอื่นคือเก็บแม่พิมพ์ทั้งหมดและนำไปที่ทุ่งนาของตนก่อน ลู่ม่านมีที่นาขนาดกลางเพียงหนึ่งไร่ จึงไม่ต้องใช้แรงอย่างมาก ไม่นาน ทุกอย่างเตรียมพร้อมหมดแล้ว

เฉินจื่ออานก็ไม่เคยทำ ตอนนี้ เขาก็กำลังมองดูลู่ม่าน

ลู่ม่านยืนอยู่บนขันนา จับต้นกล้าขึ้นมาหนึ่งต้น โยนลงไปในน้ำ คราวนี้ผู้คนรอบๆ ต่างพูดขึ้นมาว่า

“เมียจื่ออาน เจ้าปลูกกล้าแบบนี้ ต้นกล้าจะโตหรือ?”

ลู่ม่านหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “โตแน่นอน ไม่เห็นหรือว่าบนห่อนี้มีดินอยู่?”

“แต่ ต้นกล้าพวกนี้ล้วนไม่ตรง”

“นั่นไม่เป็นไร ไม่เชื่อ อีกสองวันเจ้าค่อยมาดู”

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่พวกคนสมัยก่อนก็ยังคงเต็มไปด้วยความสงสัย เฉินจื่ออานมองดูลู่ม่านทำ ไม่นานก็เริ่มโยนตามขึ้นมา

เฉินจื่ออานมีแรงเยอะ โยนได้ดีกว่าลู่ม่าน

เพียงแค่ชั่วโมงเดียว ที่หนึ่งไร่ของบ้านลู่ม่านก็ทำเสร็จหมดแล้ว

ประสิทธิภาพนั้นสูงจริงๆ แต่ผู้คนรอบๆ ที่มาดู ล้วนยังคงมีข้อสงสัย ไม่มีอะไรมากไปกว่ากลัวว่าต้นกล้าจะไม่โต ต่อให้เติบโตขึ้นมา ก็กลัวว่าช่องว่างไม่ดี ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโต

ลู่ม่านก็ไม่อธิบายแล้ว เพียงพูดขึ้นว่า “อีกสองวันทุกคนมาดูแล้วก็จะรู้เอง”

พูดเสร็จก็สะบัดมือแล้วกลับบ้านไปกับเฉินจื่ออาน

ตอนที่เดินผ่านผู้คนออกมา ตาแก่เฉินยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเคร่งขรึม เห็นพวกเขาออกมา เขาโบกมือเรียกเฉินจื่ออานไปหา พร้อมพูดขึ้นว่า

“จื่ออาน ถึงแม้ตอนนี้เจ้าจะมีผลงานดีแล้ว แต่เรื่องพืชผลเป็นเรื่องใหญ่ จะเลอะเลือนไม่ได้ หากสูญสิ้นไปหนึ่งฤดู งั้นปีหน้าก็จะไม่มีอาหารเพียงพอกิน”

ตาแก่เฉินพูดอย่างจริงใจ เห็นได้ชัดว่าเป็นห่วงทุ่งนานี้อย่างมาก

เฉินจื่ออานทำได้เพียงพูดขึ้นด้วยเสียงอ่อนว่า “เสี่ยวม่านบอกว่าได้ ก็จะต้องได้แน่นอน”

ตาแก่เฉินขมวดคิ้วขึ้นมาทันที สายตาที่มองดูลู่ม่านแฝงไปด้วยความไม่เต็มใจ ตาแก่เฉินมีความคิดแบบชาวนาดั้งเดิมมาก นั่นก็คือเห็นสามีเป็นดั่งฟ้า

เหมือนอย่างที่ลู่ม่านพูดตัดสินใจเรื่องภายในบ้าน ในสายตาตาแก่เฉินถือเป็นความผิดอย่างร้ายแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน