“เพียงเท่านี้” เสี่ยวเย่พูดยืนยัน
ผู้ดูแลพูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ตอนที่เข้ามาเรามีสัญญา เจ้ารู้หรือไม่รู้ สถานการณ์แบบนี้พวกเราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับเจ้าสิบเท่า?”
“ขอร้อง ครอบครัวเราไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น.....”
ครั้งนี้เสี่ยวเย่ ดูเหมือนจะกลัวมากจริงๆ ดวงตาแดงก่ำ
ลู่ม่านจ้องมองดูหนังหลายวิ แล้วค่อยพูดขึ้นว่า “ในเมื่อครั้งนี้ทุกคนยอมรับผิด ครั้งนี้ถือว่าแล้วกันไป แต่ลงโทษโดยการหักค่าแรงเดือนละหนึ่งร้อยเหวิน อีกอย่าง สวัสดิการอีกครึ่งปียกเลิกทั้งหมด”
การลงโทษนี้หนักหนาอย่างมาก แต่ทุกคนก็ยังคงขอบคุณอย่างซาบซึ้ง
หลังจากเรื่องราวจบสิ้นแล้ว ผู้ดูแลคอยพูดขึ้นว่า “ต่างไปทำงานกันเถอะ”
เสี่ยวเย่มองดูลู่ม่านอย่างหวาดกลัว แล้วก็ลุกขึ้นไปทำงาน
ลู่ม่านค่อยเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับผู้ดูแล ตอนที่ไม่มีใครแล้ว ผู้ดูแลค่อยถามลู่ม่านอย่างสงสัยว่า “ทำไมถึงไม่ไล่พวกเขาออกไป? กฎของตระกูลจวง การทรยศเพียงครั้งเดียวจะไม่ใช้อีกต่อไป”
“ข้าสงสัยว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง” ลู่ม่านพูดขึ้น
“หา?” ผู้ดูแลค่อยเข้าใจความตั้งใจของลู่ม่าน พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าอยาก.....”
“วางแผนระยะยาวโดยไม่รีบหวังผล เพื่อให้ได้รับประโยชน์ที่มากยิ่งขึ้น” ลู่ม่านยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “พอดีที่ยอดสั่งสินค้าก่อนหน้านี้ก็ทำได้พอประมาณแล้วขจ ช่วงนี้เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องสั่งทำสินค้าเยอะ จากนั้นเจ้าเอาเวลาทั้งหมดที่มี คอยจับตาดูเสี่ยวเย่คนนั้น เข้าใจไหม? หากเจออะไร ให้รีบมาบอกข้า”
“ได้” ผู้ดูแลพูดขึ้นอย่างจริงจัง มาที่หมู่บ้านไป่ฮัวตั้งนานขนาดนี้ ใช้ชีวิตอย่างไม่มีอะไรตื่นเต้นมาตลอด กลับคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้
หลังจากมอบหมายงานเสร็จแล้ว ลู่ม่านค่อยกลับบ้าน
ตอนช่วงบ่าย นางทำขนมเค้กกับเหอเย่วอยู่ที่บ้าน เพราะอยู่ที่นี่ไม่เคยทำ เครื่องมือก็ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ลู่ม่านก็ถือว่าเป็นการลองมือ
ตีไข่ก่อน แยกไข่แดงกับไขาขาวหภ จากนั้นก็เอาน้ำตาลน้ำมันกับนม แป้ง ใส่ลงไปในไข่แดง นวดให้เข้ากัน
จากนั้นก็ลงมือตีไข่ ตีจนไข่ขาวกลายเป็นฟอง
ลู่ม่านตีอยู่สักพัก มือก็ปวดเมื่อยจนขยับไม่ไหว เหอเย่วเห็นแล้ว จึงรับมา พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าพอมีฝีมือการต่อสู้บ้าง น่าจะดีหน่อย”
ลู่ม่านคิดในใจ ข้าก็เป็นเทควันโด แต่นางแค่คิด ไม่ได้พูดออกมา
หลังจากเหอเย่วตีได้สักพัก คนทั้งคนก็ไม่ไหวแล้ว ลู่ม่านจึงต้องเอากลับมา ทั้งสองคนตีอยู่ตั้งนาน ในที่สุดไข่ขาวก็กลายเป็นฟอง
หลังจากนั้นก็เอาฟองแบ่งเป็นสามชั้น ใส่เข้าไปในแป้งไข่เหลืองก่อนหน้านี้ หลังจากคนจนเข้ากันแล้ว ลู่ม่าน จึงเอาจานมาหนึ่งใบแล้วใส่ลงไป ปิดฝาไว้
ใส่น้ำลงในหม้อเหล็ก แล้วเริ่มนึ่ง
ตอนนี้ลู่ม่านค่อนข้างเป็นห่วงที่สุด หากอยู่ในยุคปัจจุบัน ล้วนใช้เตาอบ ต่อให้ขาดแคลนแค่ไหนก็มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าสามารถใช้แทนได้
แต่อยู่ที่นี่ ทำได้เพียงใช้หม้อนึ่ง นางกำลังคิดว่า คงจะดีมากถ้าคุณสามารถใช้เหล็กทำเป็นเตาอบที่มีไฟฟืนอยู่ข้างใต้ได้ หากสำเร็จ บางทีอาจจะสามารถลองทำได้
แบบนี้หากต่อไปนางมีลูก ก็สามารถทำให้ลูกทานได้
ทางด้านขนมเค้กเมื่อนับดูเวลาก็ได้ที่พอสมควรแล้ว ลู่ม่านรีบหยุดความคิดแล้วก็เปิดฝาหม้อ
ในควันฟุ้งมีกลิ่นที่คุ้นเคยของเค้กแผ่ออกมา ลู่ม่านดีใจ หยิบผ้ามารองจับเปิดฝาออก
“ว้าว.....” เหอเย่วพูดอย่างตกตะลึงว่า “ทำไมถึงได้กลายเป็นใหญ่ขนาดนี้?”
ลู่ม่านก็เอาตะเกียบคีบชิ้นเล็กขึ้นมาใส่ปากอย่างรอคอยญฌ เป็นรสชาติที่คุ้นเคยนั้น แต่ปริมาณน้ำค่อนข้างเยอะไปหน่อย แย่กว่าที่นางคาดหวังไว้นิดนึง
เอาสิ่งของในจานออกวางบนโต๊ะแล้วใช้มีดตัด หลังจากลู่ม่านชิมชิ้นเล็กชิ้นหนึ่งแล้ว ในใจก็พอรู้แล้ว
เก็บไว้ชิ้นหนึ่งเตรียมให้กับเฉินจื่ออาน ส่วนที่เหลือลู่ม่านล้วนเอาวางในจานแล้วยกให้เหอเย่ว พร้อมพูดขึ้นว่า “อันนี้อ่อนนุ่มมาก ปู่ของเจ้าต้องชอบถามแน่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...