ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 153

ทันใดนั้นหลี่ยวี่ก็เปลี่ยนไป เฉินหลิ่วเอ๋อกลัวมาก ตระกูลเศรษฐีที่นางอยากจะแต่งเข้าไปอย่างสง่างาม ถ้าครั้งนี้พังอีก งั้นทุกอย่างก็จบแล้วน่ะสิ

“ข้าผิดไปแล้ว!” เฉินหลิ่วเอ๋อกอดขาของหลี่ยวี่เอาไว้ไม่ปล่อย “ข้าไม่ควรพูดจาแบบนั้นกับท่าน ข้าคิดน้อยไปเอง ท่านให้อภัยข้าได้หรือไม่?”

“ปล่อยมือ!” หลี่ยวี่ขมวดคิ้ว

เฉินหลิ่วเอ๋อก็ถึงยอมปล่อยมือออกช้าๆ แต่กลับมองดูร่างกายของหลี่ยวี่ไม่ยอมละสายตา “คุณชายหลี่ ขอโทษด้วย เมื่อครู่ข้าใจร้อนไปหน่อย แต่ข้ารักท่านจริงๆนะ ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดีกัน? นางก็แค่ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว หัวใจก็ไม่ได้อยู่ที่ท่านด้วย ไม่เหมือนกับข้า ข้าเป็นคนของท่านตั้งนานแล้ว มีเพียงท่านคนเดียว……”

ลู่ม่าน “……” นางไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี นางคิดมาตลอดว่าเฉินหลิ่วเอ๋อกับหลี่ยวี่จะเหมือนกันกับตอนที่นางทำลายพวกเขาครั้งล่าสุด เพียงแค่จู๋จี๋กันเท่านั้น

ไม่คิดว่า……

ลู่ม่านตื่นเต้น ไม่ทันระวังเหยียบโดนกิ่งไม้ เสียงดัง ‘แกร็บ’ ทำให้หลี่ยวี่กับเฉินหลิ่วเอ๋อตกใจ

ทั้งสองจึงรีบวิ่งหนีออกไป ลู่ม่านก็ถึงปีนออกมาจากหลุม แล้วเดินกลับบ้านไป

เพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าว ก็เจอกับเฉินจื่ออานพอดี

เห็นลู่ม่านเดินลงเขามาอย่างปลอดภัย เฉินจื่ออานก็ถึงโล่งใจ “เสี่ยวม่าน เกิดเรื่องอะไรขึ้น? เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร!” ลู่ม่านไม่อยากให้เฉินจื่ออานเป็นห่วง จึงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นง่ายๆ แต่เฉินจื่ออานก็ยังขอบตาแดงก่ำ “รังแกกันเกินไปแล้ว! ข้าจะไปแจ้งความ!”

เฉินจื่ออานพูด

“จื่ออาน!” ลู่ม่านรู้ว่าเขาต้องเสียใจ ถึงตั้งใจไม่บอกรายละเอียด “ข้าไม่เป็นไร และเมื่อครู่ข้าก็จัดการสั่งสอนเขาไปเรียบร้อย ต่อไปเขาคงไม่กล้าแน่นอน ตอนนี้พวกเราแค่หาวิธีป้องกันตัวเองก็ได้แล้ว รีบกลับไปบอกข่าวกับคุณชายจวงดีกว่า!”

เฉินจื่ออานก็เป็นคนที่รู้หนักเบา เขาพยักหน้าแล้วจับมือลู่ม่านเดินกลับบ้านไปช้าๆ

ระหว่างทางที่กลับไปมีความสุขมาก ทั้งสองพูดถึงเรื่องเมื่อก่อนที่ขึ้นมาล่าสัตว์บนเขา ถือเป็นเส้นทางที่ย้อนรอยความรักหวานๆอีกครั้ง

ตอนที่ถึงบ้าน ฟ้าก็มืดลงแล้ว

เหอเย่วยืนรออย่างตื่นเต้นอยู่หน้าประตู เห็นลู่ม่านไม่เป็นอะไร นางก็เกือบร้องไห้ออกมา

“ข้าผิดเอง ข้าไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นคนร้ายใช้มาเรียกเจ้าไป”

“หยุดร้องได้แล้วนะ!” ลู่ม่านลูบหลังให้นางอย่างเหนื่อยใจ “ถ้าร้องไห้อีก เดี๋ยวเจ้าก็ได้กลายเป็นยัยขี้แยหรอก อาหารเย็นทำหรือยัง?”

ลู่ม่านถามถึงอาหารเย็น เหอเย่วก็ถึงนึกขึ้นได้ “ขอโทษทีนะ ข้าจะรีบไปทำ”

ฝีมือการทำอาหารของเหอเย่วดีอยู่แล้ว แถมช่วงนี้ยังได้เรียนวิธีการทำอาหารกับลู่ม่านอีกก็เลยทำให้ดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้น อาหารเย็นมื้อนี้ถือว่าออกมาได้สวยมาก

ลู่ม่านเดินเข้าไปเรียกเหอเย่ว ยังไงฟ้าก็มืดแล้ว ปิดประตูแล้วฉลองกันดีกว่า มีคนเยอะเดี๋ยวก็คึกคักเอง

กินอาหารเย็นเสร็จ ลู่ม่านกับเหอเย่วก็สบตากัน แล้วแอบเดินออกไป

เหอเย่วได้รับสัญญาณ ตอนที่ลู่ม่านยกเค้กออกมา ให้ดับเทียน จากนั้นก็มีเสียงร้องเพลงอันไพเราะของลู่ม่านดังขึ้น

“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู……”

เฉินจื่ออานอึ้ง เห็นลู่ม่านร้องเพลงด้วยรอยยิ้มแจ่มใสพร้อมกับเดินเข้ามาเขา ภายใต้แสงเทียน ทั้งตัวของนางเหมือนเป็นนางฟ้าที่มีแสงมาห้อมล้อมเอาไว้

เหอเย่วก็ร้องตาม เพลงสุดท้ายจบลง ลู่ม่านก็เดินมาตรงหน้าเฉินจื่ออาน

“จื่ออาน สุขสันต์วันเกิดนะ”

เฉินจื่ออานก็ถึงตื่นจากฝันแล้วมองดูลู่ม่านอย่างตกตะลึงและเค้กที่มีหน้าตาแปลกแต่ก็สวย “นี่คือ……”

“เค้กวันเกิดไง!”

“เป็นเค้กที่พี่เสี่ยวม่านตั้งใจทำให้เลยนะ” เหอเย่วพูดเตือน

“รีบอธิษฐานเร็ว!” ลู่ม่านพูด

“อธิษฐานอะไรเหรอ?” เฉินจื่ออานไม่เข้าใจ ลู่ม่านจึงต้องอ้างไปว่า “วันนั้นข้าฝัน ฝันเห็นเค้กก้อนนี้ จากนั้นในฝันก็มีคนบอกว่าตอนวันเกิดให้อธิษฐานหน้าเค้กจะดีที่สุด ข้าก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ลองดูสิ”

เฉินจื่ออานก็ยังเชื่อคำพูดที่นางอีก แต่สุดท้ายเขาก็เขินแล้วยิ้มแห้งๆ “ข้าหวังว่า พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

เหอเย่วพูด ‘อ้อ’ ลากเสียงยาวเหมือนรู้ดี เหอซานที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนกัน

ลู่ม่านกลับเขินแทน ก็ถือว่าเขาอธิษฐานเสร็จแล้วละกัน นางยื่นเค้กให้เฉินจื่ออาน ช่วยเขาเป่าเทียนจนดับทั้งหมด จากนั้นก็ตัดเค้กแบ่งกัน

ครั้งก่อนกินแค่ฐานของเค้ก ครั้งนี้หลังจากที่เติมครีมเข้าไปด้วยแล้ว รสชาติก็หอมหวานละมุนมากขึ้นกว่าเดิม

ทุกคนต่างก็ชื่นชอบกันมาก ใบหน้ายิ้มแย้มขณะที่กินกัน หลังจากที่กินหมดแล้ว เหอเย่วกับเหอซานก็กลับไปอย่างรวดเร็ว ให้ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง

ภายในลานบ้าน ลู่ม่านถือเค้กแล้วนั่งพิงเฉินจื่ออาน มองดูท้องฟ้าข้างบน ดาวคืนนี้สว่างจังเลยนะ ลู่ม่านพูด

“เมื่อก่อนตอนที่อยู่บ้าน ไม่เห็นดวงดาวที่สวยงามพวกนี้เลย”

“ทำไมล่ะ?” เฉินจื่ออานถาม

“ไม่รู้สิ คงเป็นเพราะที่ที่ข้าอยู่ไฟคงจะสว่างมากเกินไปเลยทำให้ไม่เห็นดาว อาจเป็นเพราะมลพิษทางสิ่งแวดล้อม……”

เฉินจื่ออานยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ “เสี่ยวม่าน ข้าถามอะไรเจ้าหนึ่งอย่างได้ไหม?”

ลู่ม่านพยักหน้า “ได้สิ”

“เจ้าลืมทุกอย่างแล้วจริงๆเหรอ? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเจ้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยล่ะ?”

ลู่ม่านชะงัก นางพูดมากเกินไปอีกแล้ว? ไม่ได้กลับบ้านนานแล้วสินะ

“ถ้าเป็นเรื่องจริง เจ้าไม่กลัวเหรอ?” ลู่ม่านลองถาม ที่จริงนางไม่ควรแสดงให้ใครเห็น แต่ตอนนี้นางกลับอยากแสดงออกมา

ไม่คิดว่า เฉินจื่ออานจะปิดปากนางไว้ “ชวู่……”

“ข้าไม่กลัว ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร” เฉินจื่ออานคงจะคิดว่าลู่ม่านเข้ามาสิงร่างใหม่? ทำท่าลึกลับมาก

ลู่ม่านหัวเราะ ทันใดนั้นก็พูดหยอกเขาว่า “ถ้าเมื่อก่อนข้าเป็นผู้ชายจะทำยังไง?”

“เอ่อ?” เฉินจื่ออานอึ้งไปสักพัก ใบหน้ายับยู่ยี่ไปหมด “เสี่ยวม่าน เจ้าพูดจริงเหรอ?”

“ไม่จริงอยู่แล้ว อีตาซื่อบื้อ!” ลู่ม่านกลอกตามองบน ยังบอกว่าตัวเองฉลาดอีก แต่ทุกครั้งตอนที่โดนนางหลอก ก็ยังเชื่อหมดใจอีก

“ซนจริงๆเลยนะ!” เฉินจื่ออานตบก้นลู่ม่านไปหนึ่งที จากนั้นก็กอดลู่ม่านแน่นๆอีกครั้ง “เสี่ยวม่าน ข้าว่าแล้ว ว่าเจ้าจะต้องเป็นนางฟ้าลงมาเกิดแน่”

ลู่ม่าน “……”

หลับฝันดีตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมาทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เฉินจื่ออานก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี ไม่ยอมให้ลู่ม่านอยู่บ้านคนเดียว ตอนที่ออกไป จะต้องตามลู่ม่านออกไปด้วยตลอด

ทั้งสองจับมือกัน เพิ่งเดินถึงหน้าประตู ก็เห็นเฉินหลิ่วเอ๋อเดินเข้ามา ท่าทางนางดูจะมีความสุขกว่าเมื่อวานมาก หลี่ยวี่คืนดีกับนางแล้วเหรอ?

ลู่ม่านขมวดคิ้ว เห็นเฉินหลิ่วเอ๋อเดินตรงเข้ามา พูดกับเฉินจื่ออานว่า “พี่สาม พ่อกับแม่ให้มาเรียกพี่น่ะ”

เฉินจื่ออานกับลู่ม่านสบตากัน ต่างก็สงสัยขึ้นมา

บ้านใหญ่ตามหาเฉินจื่ออาน แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน