ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 158

“พี่ใหญ่ พี่พูดสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? ถ้าข้าช่วยได้ ข้าจะช่วยแน่นอน” เฉินจื่ออานพูด เฉินจื่อฉายดีกับพวกเขามาตลอด ดังนั้นเฉินจื่ออานจึงตกลงช่วยอย่างจริงใจ

เฉินจื่อฉายก็ถึงยืนตัวตรง ปรับอารมณ์ให้สงบแล้วพูดว่า “ช่วยข้าตามหาเถาฮัวหน่อย”

“เถาฮัวทำไมเหรอ?” เฉินจื่ออานถาม

เฉินจื่อฉายส่ายหน้า แต่ไม่นานก็มองไปยังลู่ม่าน “น้องเสี่ยวม่าน เมื่อครู่เจ้าเห็นเถาฮัวจริงเหรอ? ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นเถาฮัวก็……”

เฉินจื่อฉายว่าแล้ว ก็ทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง

ลู่ม่านรีบส่ายหน้าแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ไม่ใช่แบบนั้น เมื่อครู่ข้าแค่ตั้งใจแกล้งแม่เท่านั้น ส่วนพวกท่านกับเถาฮัวเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เรื่องนี้ข้าไม่รู้จริงๆ”

“จริงเหรอ?” เฉินจื่อฉายดีใจ

“จริงแท้แน่นอน!” ลู่ม่านพูด

เฉินจื่ออานพูดต่อว่า “ที่จริงข้าก็อยากถามพี่มานานแล้ว พวกพี่ไปเมืองหย่งอานแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? พี่สะใภ้กับเถาฮัวหายไปไหน?”

เฉินจื่ออานแสยะยิ้มอย่างขมขื่น นั่งยองลงไปดึงทึ่งเส้นผมของตัวเองแรงๆ นานมากกว่าจะพูดว่า “เถาฮัวถูกแม่ขายไปแล้ว!”

เหมือนฟ้าผ่าลงกลางกระหม่อม ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานได้ยินแล้ว ก็สบตากันอย่างรวดเร็ว เฉินจื่ออานพูดออกมาเสียงดังอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “พี่ใหญ่ เป็นเรื่องจริงเหรอ?”

“จริง!” เฉินจื่อฉายพูดอย่างปวดใจ “แม่กับเถาฮัวพวกเขาไปเมืองหย่งอานก่อน ต่อมาจื่อคังก็เกิดเรื่อง พ่อกลับมาหาขอความช่วยเหลือจากเจ้าแล้วไม่สำเร็จ ข้าเป็นห่วงพ่อกลับไปคนเดียวจะไม่ปลอดภัย ก็เลยไปกับเขาด้วย ไม่คิดว่า หลังจากที่ข้าไปแล้ว ก็ไม่เจอเถาฮัวกับจ้าวซื่อเลย ตอนนั้น แม่และคนอื่นๆก็อยู่ที่นั่น พวกเขาถูกคนหลอก บอกว่าขอแค่ยอมจ่ายเงินก็จะช่วยจื่อคังออกมาได้ ดังนั้น พวกเขาก็เลยขายของทุกอย่างที่ขายได้”

“ข้าถามแม่ว่า เถาฮัวไปไหนแล้ว แม่บอกว่า จ้าวซื่อพาเถาฮัวหนีไปกับผู้ชายคนอื่นแล้ว ตอนนั้นข้าโกรธมาก ก็เลยออกไปตามหาจ้าวซื่อกับเถาฮัว ข้าคิดในใจว่า ถ้าหาจ้าวซื่อเจอ ข้าจะตบนางให้ตายคามือเลย จากนั้นค่อยพาเถาฮัวกลับมา แต่ต่อมา ตอนที่ข้าเจอจ้าวซื่อ จ้าวซื่อบอกกับข้าว่า เถาฮัวถูกแม่ขายไปแล้ว จ้าวซื่อยังให้ข้าดูสัญญาทาสด้วย……”

ถึงแม้เรื่องนี้จะผ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ตอนที่เฉินจื่อฉายพูดถึงเรื่องนี้ เขาก็เจ็บปวดหัวใจมาก

เฉินจื่ออานจับไหล่ของเฉินจื่อฉายไว้อย่างปวดใจเหมือนกัน “พี่ใหญ่ เรื่องนี้พ่อรู้ไหม?”

เฉินจื่อฉายส่ายหน้า “พ่อคงจะยังไม่รู้ หลังจากที่กลับมา เขาก็ล้มป่วยแล้ว……”

ค่อยสบายใจหน่อย ถ้าตาแก่เฉินรู้แล้วยังอนุญาตให้ขายเถาฮัวอีก งั้นบ้านหลังนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อไปแล้วล่ะ

“แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ล่ะ?” เฉินจื่ออานถาม

เฉินจื่อฉายส่ายหน้า “หลังจากที่เจอนางครั้งนั้น นางก็แอบหนีไปตอนที่ข้าไม่ทันระวัง ข้าก็ไม่มีกะจิตกะใจวิ่งตามแล้ว ข้าแค่อยากจะตามเถาฮัวกลับมา……”

จ้าวซื่อทำตัวเอง แต่ยังไงเถาฮัวก็เป็นลูกสาวแท้ๆของเฉินจื่อฉาย

“หลายวันก่อน ทำไมเจ้าไม่หาต่อล่ะ?”

เฉินจื่อฉายหัวเราะอย่างขมขื่น “ข้าใช้เงินหมดแล้ว ก็ยังหานางไม่เจอ ข้าว่าจะกลับมาหาเงิน แล้วค่อยกลับไปหานางใหม่ แต่ว่า วันนี้คำพูดของน้องเสี่ยวม่าน ทำให้ข้ากลัวมาก เถาฮัวยังเด็กขนาดนั้น แถมยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอีก ถ้าเกิดเสียเวลา ไม่รู้ว่านางจะกลายเป็นยังไงบ้าง? ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทั้งชีวิตนี้ ข้าคงไม่มีวันยอมให้อภัยตัวเองแน่……”

เฉินจื่อฉายรักลูกตัวเองมาก เฉินจื่ออานเห็นแล้วก็รู้สึกซึ้งใจ เขาคิดมาตลอดว่าอยากมีลูกกับเสี่ยวม่าน เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้ามีคนขายลูกตัวเองไป เขาคงจะอยากฆ่าคนคนนั้นเหมือนกัน

แต่คนคนนั้นกลับเป็นแม่แท้ๆของพวกเขา ถึงว่า เฉินจื่อฉายที่เอาแต่กตัญญูจนเกินเหตุถึงได้แยกตัวออกมาจากบ้านเฉินกะทันหัน

“พี่ใหญ่ รีบลุกขึ้นมาถอะ!” เฉินจื่ออานพยุงตัวเฉินจื่อฉายลุกขึ้นมา “ยังไงเถาฮัวก็เป็นหลานสาวของข้า ตอนนี้นางเกิดเรื่องขึ้น ข้าเป็นอาของนาง ไม่มีทางนิ่งเฉยแน่”

“นั่นสิพี่ใหญ่!” ลู่ม่านก็เข้ามาปลอบ ก่อนหน้านี้เฉินจื่อฉายก็ช่วยพวกเขาไว้เยอะเหมือนกัน ลู่ม่านจำไว้ในใจตลอด และครั้งนี้หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น วิธีการจัดการของเฉินจื่อฉาย ก็ทำให้นางรู้สึกชื่นชมมาก

“ผู้ดูแลร้านของภัตตาคารเฟิ่งหลายเป็นคนของเมืองหย่งอาน ยังมีคุณชายจวงอีก ข้ากับจื่ออานจะไปบอกเรื่องเถาฮัวกับพวกเขาให้ พี่วางใจได้ ขอแค่เถาฮัวยังอยู่ในเมืองหย่งอานก็จะต้องตามหานางเจอแน่นอน”

“อืม!” เฉินจื่อฉายก็ค่อยสบายใจหน่อย “พวกเจ้าพูดแบบนี้ ข้าก็สบายใจมากขึ้นแล้วล่ะ”

ว่าแล้ว เขาก็ผลักเฉินจื่ออานออก “ข้ายังมีสินค้าที่ต้องไปส่ง ข้าไปก่อนนะ”

ลู่ม่านได้ยินแล้ว ก็สบตากับเฉินจื่ออาน แล้วรีบพูดว่า “จื่ออาน เจ้าไปตำบลกับพี่ใหญ่เร็ว ไปเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ดูแลร้านช่ายฟังด้วย” ว่าแล้ว ลู่ม่านก็เอาทองออกมาจากกระเป๋า

“เวลาที่จำเป็น ถ้าต้องใช้เงินก็ใช้เลยนะ”

เฉินจื่ออานพยักหน้า รับเงินมาแล้วเดินทางไปพร้อมกับเฉินจื่อฉาย ลู่ม่านมองดูทั้งสองขับเกวียนไกลออกไป ก็ถึงถอนหายใจออกมายาวๆ

เฉินหลี่ซื่อน่ากลัวจริงๆ คนคนหนึ่งจะลำเอียงได้ถึงขนาดนี้เชียวเหรอ เพื่อช่วยลูกชายตัวเอง ยอมขายหลานสาวแท้ๆของตัวเองไป

เฉินจื่ออานพวกเขากลับมาถึงบ้านก็ดึกมากแล้ว เฉินจื่อฉายจอดเกวียนเสร็จแล้วก็จะกลับบ้าน ลู่ม่านตะโกนเรียกเขาไว้ “พี่ใหญ่ กับข้าวเตรียมเสร็จแล้ว เข้ามากินก่อนกลับเถอะ!”

“นั่นสิ!” เฉินจื่ออานก็พูดว่า “ตอนนี้ที่บ้านคงไม่มีอะไรกินแล้วล่ะ”

เรื่องนี้ก็จริง เฉินหลี่ซื่อขี้งกขนาดนั้น ตอนนี้เฉินจื่อฉายไม่ได้หาเงินให้บ้านเฉินแล้วด้วย คงไม่มีอะไรให้กินหรอก ก็คงมีเพียงหลิวซื่อที่เห็นกับข้าวเหลือแล้วตั้งใจเก็บไว้ในเตาให้เฉินจื่อฉาย

แต่ทางบ้านเฉิน เวลาทำกับข้าวก็จะทำตามปริมาณที่ทุกคนกิน โอกาสที่จะเหลือมีน้อยมาก

เฉินจื่อฉายจึงต้องอยู่กินที่นี่ แล้วเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมกัน

ตอนกลางคืน ลู่ม่านเข้าครัวทำอาหารเอง เพราะนึกถึงเมื่อตอนกลางวัน เฉินจื่ออานคงกินไม่อิ่มแน่ ดังนั้นเลยทำค่อนข้างเยอะ

อาหารหกอย่าง พร้อมกับซุปหนึ่งถ้วย

เห็นเฉินจื่อฉายมาแล้ว ลู่ม่านก็เรียกให้เหอเย่วไปเตรียมเหล้ามา สองพี่น้องกินเหล้าเข้าไปสามแก้ว ทันใดนั้นเฉินจื่อฉายก็ร้องไห้ทันที

“จื่ออาน ตอนนี้พี่ใหญ่อิจฉาเจ้ามากเลย ที่จริงพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า ถึงแม้เมื่อก่อนจะขี้เกียจและเจ้าเล่ห์ แต่ทั้งครอบครัวก็ยังได้อยู่ด้วยกัน ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน ตอนนี้ ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว……”

เฉินจื่ออานมองดูท่าทางของเฉินจื่อฉาย ก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า “พี่ใหญ่ ถ้าไม่อยากอยู่บ้านนั้นแล้วก็ออกมาเถอะ ด้านหลังข้ายังมีบ้านอีกเยอะ ถึงจะเป็นข้างหน้าก็ยังมีห้องรับแขกอยู่ พอให้พี่กับสือซ่วนอยู่ด้วยกัน อีกสองปี รอพี่มีเงินเก็บแล้ว ค่อยสร้างบ้านตัวเองอยู่ก็ได้”

เฉินจื่อฉายถอนหายใจ “มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกนะ เจ้าลืมแล้วเหรอ ข้าเป็นพี่ใหญ่ ข้าต้องอยู่เลี้ยงดูพ่อแม่”

ถ้าเป็นเมื่อก่อน เฉินจื่ออานก็คิดแบบนี้ แต่ตอนนี้ เขาไม่คิดแบบนี้แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน