ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 162

มองดูเฉินจื่ออานพุ่งเข้ากองไฟกับตา ลู่ม่านรู้สึกเหมือนหัวใจแทบจะแตกสลาย

ครั้งก่อนเพื่อช่วยเฉินจื่อคัง เฉินจื่ออานก็เกือบตายแล้ว และยังขาหักกลับมาอีก ครั้งนี้ก็ทำเพื่อเฉินจื่อคังอีกแล้ว!

ลู่ม่านโกรธมาก อารมณ์ที่มีต่อผู้ดูแลก็ไม่ดีเหมือนกัน

“ปล่อยข้า!”

ผู้ดูแลเห็นว่าเฉินจื่ออานเข้าไปแล้ว จึงไม่ได้ห้ามอะไรอีก ปัดมือให้คนปล่อยตัวลู่ม่านออก

ลู่ม่านกัดฟันกรอดมองดูเฉินหลิ่วเอ๋อที่ร้องไห้จนตาบวมแดงไปหมด สมเป็นพี่น้องฝาแฝดจริงๆ นางคงจะเป็นห่วงเฉินจื่อคังจริงๆ ถ้าเปลี่ยนเป็นเฉินจื่อฟู่หรือเฉินจื่ออาน เฉินหลิ่วเอ๋อคงไม่มาดูด้วยซ้ำ

แต่ว่า ตอนนี้ลู่ม่านเกลียดนางมาก ดังนั้น นางจึงไม่ไว้หน้าใครอีกแล้ว กลับหลังหันไปพูดกับผู้ดูแลด้านหลังว่า “แจ้งความ!”

ผู้ดูแลได้ยินแล้วก็รีบหันไปเรียกคน เฉินหลิ่วเอ๋อได้ยินแล้วยังอยากวิ่งหนี แต่ก็ถูกพวกผู้คุ้มกันจับตัวไว้ได้ก่อน

เฉินหลิ่วเอ๋อไม่ยอมให้ถูกจับ จึงกรีดร้องออกมา

“พวกเจ้าจับข้าไม่ได้นะ คุณชายหลี่ไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไปแน่!”

แต่พวกผู้คุ้มกันฟังแค่คำสั่งของเจ้านายเท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อจะร้องดังแค่ไหน ก็ไม่มีใครสนใจนางเลย

เฉินหลิ่วเอ๋อจึงต้องคาดหวังไปที่ตัวลู่ม่าน “พี่สะใภ้สาม ช่วยข้าด้วย!”

ลู่ม่านไม่อยากสนใจนางหรอกนะ ตอนนี้เฉินจื่ออานไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง เหตุเกิดเพราะพวกเขาอยากเข้ามาขโมยของก่อน นึกถึงผลที่เฉินจื่ออานไปช่วยเฉินจื่อคังครั้งก่อน ลู่ม่านก็รู้สึกหวั่นใจมาก

ถ้าครั้งนี้เฉินจื่ออานเป็นอะไรไปอีก นางคงจะเข้าไปบีบคอเฉินหลิ่วเอ๋อให้ตายๆไปซะเดี๋ยวนี้เลย

สุดท้าย เฉินหลิ่วเอ๋อก็ถูกล็อกมือเอาไว้

ไฟไหม้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลู่ม่านรู้สึกถึงไอร้อนที่แผ่ซ่านมาถึงตัวเอง ในใจของนางก็รู้สึกหวาดผวากับไฟตรงหน้าไปด้วย

เสียง ‘โครม’ ดังขึ้น สิ่งก่อสร้างตรงหน้าพังทลายลงมา

ลู่ม่านตัวแข็งทื่อไปหมด พุ่งเข้าไปพร้อมกับกรีดร้องออกมาเสียงแหลม “จื่ออาน……”

ผู้ดูแลตกใจมาก สองคนที่เหลือยังถือว่ามีสติก็รีบพุ่งเข้าไป

วินาทีต่อมา ด้านหลังของสิ่งก่อสร้างที่ล้มลงมา พวกผู้คุ้มกับเฉินจื่ออานรีบวิ่งออกมาข้างนอก

ลู่ม่านร้องไห้น้ำตาทะลักออกมา วิ่งเข้าไปกอดเฉินจื่ออานไว้แน่น “ดีจังเลย เจ้าไม่เป็นอะไร”

เฉินจื่ออานกอดลู่ม่านเอาไว้ พูดอย่างเจ็บปวดว่า “จื่อคังตายแล้ว!”

เฉินหลิ่วเอ๋อที่อยู่ข้างๆได้ยินแล้วก็เป็นลมทันที แต่ว่า สถานการณ์ตรงหน้าวุ่นวายไปหมด ไม่มีใครสังเกตเห็นนางเลย

ลู่ม่านอึ้ง ก้มหน้าลงไปมองรองเท้าที่อยู่ในมือของเฉินจื่ออาน รองเท้าถูกเผาไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่รองเท้านั้นเป็นรองเท้าที่เฉินหลี่ซื่อทำเองกับมือ ยังพอดูออกว่าเป็นของของเฉินจื่อคัง

ลู่ม่านรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องนี้ ถึงแม้นางจะไม่ค่อยชอบเฉินจื่อคังเท่าไหร่ แต่ก็ไม่คิดว่า เฉินจื่อคังผู้หยิ่งผยองสุดท้ายจะถูกไฟคลอกตาย

“จื่ออาน……” ลู่ม่านว่าจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก

“ข้าไม่เป็นไร……” เฉินจื่ออานปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่น้ำเสียงกลับมีความสะอื้นเล็กน้อย นั่นเป็นน้องชายแท้ๆที่โตมาพร้อมกับเขา ตอนนี้กลับไม่มีแล้ว

“หวังว่าชาติหน้า เขาจะใช้ชีวิตอย่างมั่นคงนะ……”

ลู่ม่านพยักหน้า เห็นว่าแขนของเฉินจื่ออานมีเลือดไหล ผู้คุ้มกันที่เข้าไปพร้อมกับเฉินจื่ออานก็มีบาดเจ็บออกมาบ้าง นางรีบเรียกผู้ดูแลไปเชิญหมอมา

คนในหมู่บ้านได้ยินเสียงทางนี้ ต่างก็รีบแห่กันมา แต่ว่าก็สายไปเสียแล้ว

โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถูกเผ่าจนราบเป็นหน้ากลอง ยังดีที่โรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิดกับโรงงานแยมผลไม้ไม่ถูกไฟไหม้ไปด้วย

ทุกคนแห่กันมาที่นี่ มองดูโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ยังเปิดผลิตเมื่อวาน วันนี้กลับถล่มทลายจนหมด ช่างน่าหดหู่ยิ่งนัก

ยังมีคนเริ่มกังวลว่า ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ตระกูลจวงยังจะมาลงทุนที่หมู่บ้านไป่ฮัวอยู่ไหม?

กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น หมอก็มาถึงพอดี คนที่ตามหมอมาด้วย ยังมีผู้ใหญ่บ้านกับพวกผู้อาวุโสในหมู่บ้าน

ผู้ใหญ่บ้านตกใจจนหน้าซีดเซียวไปหมด รีบมาจนรองเท้าใส่สลับด้านกัน บ้านของเขาอยู่ท้ายหมู่บ้าน ดังนั้นตอนที่ได้ข่าว ที่นี่ก็ไฟไหม้จนหมดแล้ว

พอมาถึง เขาก็โอดครวญทันทีว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้?”

แล้วมองไปยังเฉินจื่ออานที่กำลังทำแผลอยู่ เขารีบเดินเข้าไปถามไถ่อาการ “จื่ออาน ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

เฉินจื่ออานส่ายหน้าช้าๆ จากนั้นก็รีบชักมือออกจากหมอ “ข้ากลับไปบ้านพ่อแม่ก่อน”

“ไม่ต้องแล้ว……” ลู่ม่านเห็นตาแก่เฉินกับเฉินหลี่ซื่อพวกเขามาทางนี้กันแล้ว

เฉินจื่ออานกำลังสงสัยอยู่นั้น ตาแก่เฉินก็เดินเข้ามาแล้ว เห็นบาดแผลของเฉินจื่ออาน เขาก็รีบถามหมอว่า “ไม่เจ็บถึงกระดูกใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร แค่แผลภายนอกน่ะ……” หมอพูด

เฉินหลี่ซื่อกวาดตามองรอบๆ ถึงเข้ามาถามอย่างใจลอยว่า “จื่ออาน พรุ่งนี้แม่ทำซุปกระดูกมาให้นะ”

“ท่านพ่อ……” เฉินจื่ออานกำลังจะบอกเรื่องของเฉินจื่อคัง ทันใดนั้นเฉินหลี่ซื่อก็กรีดร้องออกมา รีบวิ่งไปหาเฉินหลิ่วเอ๋อที่สลบอยู่ตรงพื้น

เฉินหลิ่วเอ๋อถูกพวกผู้คุ้มกันมัดไว้ด้วยเชือก ตอนนี้กำลังนอนอยู่ตรงนั้นไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

“หลิ่วเอ๋อ หลิ่วเอ๋อของข้า ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้ล่ะ?” เฉินหลี่ซื่อร้องโอดครวญ

ตาแก่เฉินก็อึ้ง “ทำไมหลิ่วเอ๋อถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

“ให้ตายสิ ใครมัดหลิ่วเอ๋อของข้าไว้ที่นี่กัน?” เฉินหลี่ซื่อพูดแล้วจะแก้มัดให้เฉินหลิ่วเอ๋อ ผู้ดูแลกับผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างๆรีบยื่นมือไปห้ามนางไว้

“อย่าขยับ!”

เฉินหลี่ซื่อชี้หน้าด่าผู้ดูแลทันที “เหอะ พวกเจ้าคิดไม่ซื่อกับหลิ่วเอ๋อของข้าใช่หรือไม่? หลิ่วเอ๋อที่น่าสงสารของข้า……”

ผู้ดูแลแทบจะหัวเราะเพราะคำพูดของนาง ท่ามกลางคนที่เข้ามามุงดูกัน ผู้ดูแลก็พูดไปอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “แม่นางหลิ่วเอ๋อมาอยู่ที่หน้าประตูโรงงานของเราดึกดื่น จากนั้นโรงงานก็เกิดไฟไหม้ทันที เจ้าว่าพวกเราควรมัดนางไว้ไหม?”

เฉินหลิ่วเอ๋องั้นเหรอ? ผู้ใหญ่บ้านขมวดคิ้ว เดินเข้าไปดูเฉินหลิ่วเอ๋อ

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ไม่จริง!” เฉินหลี่ซื่อยังอยากตอบโต้ ขนตาของเฉินหลิ่วเอ๋อกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็ตื่นขึ้นมาช้าๆ

“หลิ่วเอ๋อ? หลิ่วเอ๋อของข้า ไหนลูกบอกแม่มาสิ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” เฉินหลี่ซื่อถาม

เห็นเฉินหลี่ซื่อมา เฉินหลิ่วเอ๋อก็ถึงละลายความหวาดกลัวทั้งหมดเป็นน้ำตา นางกอดเฉินหลี่ซื่อแล้วร้องไห้สุดเสียง “แม่ พี่สี่เขา พี่สี่……”

เฉินหลี่ซื่ออึ้ง รีบกวาดตามองรอบด้าน เฉินจื่ออานอยู่ เฉินจื่อฉายได้ยินข่าวก็มาแล้วเหมือนกัน เฉินจื่อฟู่ก็อยู่ มีเพียงเฉินจื่อคังที่ไม่อยู่

เฉินหลี่ซื่อใจเต้นตึกตัก แล้วพูดเสียงแหลมว่า “จื่อคังคงจะยังนอนอยู่ที่บ้าน?”

เฉินหลิ่วเอ๋อส่ายหน้า น้ำตาไหลออกมาจากหางตา นางหันไปมองยังโรงงานที่ถูกเผาจนไม่เหลือซากข้างหน้า

วินาทีต่อ ผู้คนรอบด้านต่างก็ขนลุกซู่ไปหมด

เฉินหลี่ซื่อรีบลุกขึ้นยืน “จื่อคังคงจะยังไม่รู้แน่เลย ข้ากลับบ้านไปดูก่อน”

“ท่านแม่……” เฉินหลิ่วเอ๋อน้ำตาไหลเป็นสายฝน เฉินจื่ออานเห็นแล้วก็เอารองเท้าในมือยื่นออกไปช้าๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน