ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 163

น้ำตาของเฉินหลี่ซื่อระเบิดออกมาเมื่อเห็นรองเท้าข้างนี้ นางพุ่งเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง คว้ารองเท้ามากอดแล้วกรีดร้องออกมาเสียงดัง

“จื่อคัง? จื่อคังของแม่?”

ตาแก่เฉินก็ถอยหลังอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาจ้องมองรองเท้าข้างนั้น นั่นเป็นลูกชายที่เขาเคยรักมากที่สุด คู่ฝาแฝดที่เกิดมาดวงชะตาดีทั้งคู่

ตอนนี้ จื่อคังตายแล้ว?

ขนาดเฉินจื่อฟู่กับเฉินจื่อฉายยังอึ้งไปเลย พวกเขาถามเฉินจื่ออานอย่างไม่อยากจะเชื่อ “จื่ออาน จื่อคังตายแล้วจริงเหรอ?”

“ตอนที่พวกเราพุ่งเข้าไป ก็เจอแค่รองเท้าข้างนี้……” เฉินจื่ออานพูด

“ข้าไม่เชื่อ! จื่อคังของข้าจะอยู่ในนั้นได้ยังไง? เจ้า? เจ้าใช่ไหม? เจ้าเรียกเขาเข้าไปใช่ไหม?” เฉินหลี่ซื่อดึงแขนของเฉินจื่ออานแล้วส่ายไปมาอย่างบ้าคลั่ง

“ถ้าเจ้าไม่เรียกเขาเข้าไป เขาจะเข้าไปในนั้นทำไม?”

ลู่ม่านทนดูต่อไปไม่ไหว ถึงแม้เฉินจื่ออานจะบาดเจ็บแค่ภายนอก แต่ถูกนางดึงทึ่งแบบนี้ ก็เริ่มมีเลือดไหลอีกครั้ง ลู่ม่านผลักตัวนางออกไป แล้วพูดอย่างเย็นชา

“แม่ นี่มันเวลาไหนแล้ว ท่านยังจะกล่าวหาโดยไม่มีเหตุผลอีก? ดึกดื่นแบบนี้ ท่านคิดว่าพวกเราจะเรียกเฉินจื่อคังมาที่แบบนี้ทำไม! ความจริงก็คือเฉินจื่อคังกับเฉินหลิ่วเอ๋อเข้ามาขโมยสูตรทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่สำเร็จ เลยอยากเผาโรงงานของข้า!”

คำพูดของลู่ม่านเป็นเหมือนสายฟ้า ทำเอาคนทั้งหมู่บ้านฮือฮาอย่างมาก ทุกคนต่างก็ซุบซิบวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมา

ตาแก่เฉินไม่รู้เรื่องนี้ ได้ยินแล้วก็รีบถามว่า “เป็นไปได้ยังไง? เรื่องนี้ต้องเข้าใจผิดกันแน่!”

“ไม่มีทาง!” เฉินหลี่ซื่อเหมือนคนบ้า แล้วคิดจะลุกขึ้นมากระชากลู่ม่าน แต่ลู่ม่านไม่โง่เหมือนเฉินจื่ออานหรอกนะ ไม่ยอมให้นางอาละวาดแบบนี้หรอก

ไม่นาน นางก็จับแขนของเฉินหลี่ซื่อไว้ แล้วส่งตัวออกไป ดูท่าทางเหมือนกำลังพยุงนาง แต่ความจริงแล้วกำลังผลักออกไปต่างหาก

เฉินหลี่ซื่อยังอยากจะพุ่งเข้ามาอีก ผู้คุ้มกันคนหนึ่งพาทหารบุกเข้ามาในนี้

คนนำหน้าออกคำสั่ง จากนั้นก็ล้อมทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ไว้ทั้งหมด เฉินหลี่ซื่อก็ถูกผู้คุ้มกันคนหนึ่งขวางเอาไว้

“นำตัวนักโทษไป!”

พอพูดจบ ทหารก็วิ่งเข้าไปหาเฉินหลิ่วเอ๋อ เฉินหลี่ซื่อไม่มีเวลามาทะเลาะกับลู่ม่าน นางรีบพุ่งเข้าไปหาเฉินหลิ่วเอ๋อ

“หลิ่วเอ๋อ หลิ่วเอ๋อของแม่”

“แม่ ช่วยข้าด้วย!” เฉินหลิ่วเอ๋อตะโกนเสียงดัง

แต่ทหารไม่มีความสงสารหรอกนะ เตะเฉินหลี่ซื่อออกไปทันที จากนั้นก็คุมตัวของเฉินหลิ่วเอ๋อ และล็อกตัวนางไว้

เฉินหลี่ซื่อตะโกนสุดเสียง “พวกเจ้าจะจับลูกสาวข้าไปไม่ได้นะ นางกำลังจะแต่งงานกับจวนอ๋องหนิง ใช่แล้ว ถ้าวันนี้พวกเจ้ากล้าแตะต้องนาง คุณชายรองอ๋องหนิงไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!”

เฉินหลี่ซื่อพูดแบบนี้ หัวหน้าคนนั้นก็ลังเลขึ้นมา

เรื่องที่หลี่ยวี่มาหมู่บ้านไป่ฮัว ก่อนหน้านี้เขาก็เคยได้ยินคนพูดถึง ว่ากันว่าคุณชายรองอ๋องหนิงเจ้าชู้เสเพล เดินไปไหนก็มีผู้หญิงใหม่ๆตลอดเวลา

แล้วพอมองดูแม่หญิงตรงหน้า ถึงแม้จะร้องไห้จนใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่กลับมีใบหน้าที่อ่อนหวานและน่าสงสาร มีโอกาสที่หลี่ยวี่จะชอบนางสูงมาก!

ผู้ดูแลขมวดคิ้ว ยังอยากจะพูดอะไร เฉินหลิ่วเอ๋อเห็นหัวหน้าคนนั้นเริ่มลังเลแล้ว ก็รีบชี้ปิ่นปักผมทองบนหัว “นี่เป็นของที่คุณชายหลี่ให้ข้า!”

หัวหน้ารีบของมาจากลูกน้องแล้วใช่คบเพลิงส่องดู ปิ่นปักผมทองนี้เป็นของแท้

ลูกน้องที่อยู่ข้างๆก็กระซิบพูดเสียงเบาว่า “หัวหน้า ตอนนี้จะทำยังไงดี?”

หัวหน้าเห็นว่ามืดมากแล้ว จึงพูดว่า “วันนี้ก็มืดมาแล้ว ตอนนี้พักผ่อนอีกสักวัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันเถอะ”

พวกข้าราชการพวกนี้รู้ดีแก่ใจ ที่พวกเขามาถึงที่นี่อย่างรวดเร็ว ก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเบื้องหลังของโรงงานนี้เป็นคนตระกูลจวง

แต่ถ้าตระกูลจวงเทียบกับจวนอ๋องหนิงแล้ว เขาไม่กล้าล่วงเกินจวนอ๋องหนิงและตระกูลจวงด้วย งั้นก็คงต้องยื้อเวลาออกไปก่อน

ถ้าคุณชายรองอ๋องหนิงมีใจอยากช่วยแม่นางผู้นี้จริงๆ พรุ่งนี้จะต้องมาแน่นอน ถ้าเขาไม่มา ผลสรุปก็คงไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว

พวกเขาอยากจะค้างที่นี่หนึ่งคืน ผู้ดูแลไม่รู้จะทำยังไงดี ผู้ใหญ่บ้านเห็นแล้ว ก็รีบให้คนไปจัดห้องว่างในหมู่บ้าน แล้วส่งพวกเขาไปที่นั่น

เฉินหลิ่วเอ๋อถูกทหารลากตัวไปและร้องไห้เหมือนจะขาดใจ นางตะโกนเรียกให้เฉินหลี่ซื่อช่วยนาง เฉินหลี่ซื่ออยากช่วยเหมือนกัน แต่นางมองดูไฟที่ดับลงช้าๆ นางอยากจะตรวจให้แน่ใจว่า ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางยังมีชีวิตอยู่ไหม

สองแม่ลูกร้องไห้จนจะขาดใจ ทำลายความสงบของค่ำคืนนี้

สุดท้าย ผู้ใหญ่บ้านก็ต้องออกหน้าพูด พรุ่งนี้ค่อยส่งคนไป ทหารพวกนั้นไม่ค่อยสนใจอะไรมาก ถือว่าปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปก่อน

ความวุ่นวายครั้งนี้เงียบสงบลงช้าๆ ถึงแม้เฉินหลิ่วเอ๋อจะไม่โดนจับตัวไป แต่ก็ยังถูกมัดไว้ตรงเสาไม้ไผ่ ผู้ใหญ่บ้านสั่งให้ผู้หญิงในหมู่บ้านจับตาดูนางเอาไว้

และคนอื่นๆในบ้านเฉิน ต่างก็ไม่ยอมจากไปไหน

ไฟเผาตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมาก็ยังไม่หยุด ในหมู่บ้านมาล้อมวงเฝ้าอยู่ที่นี่ ไม่ยอมปล่อยให้ใครเข้าไป

ฟ้าสว่างแล้ว ทหารที่นอนในหมู่บ้านก็มากันแล้ว หลี่ยวี่ยังไม่มา หัวหน้าคนนั้นก็ไม่ใจดีเหมือนเมื่อคืนอีก

เขามาถึงก็สั่งลูกน้องให้ลากตัวเฉินหลิ่วเอ๋อไปทันที

เฉินหลิ่วเอ๋อกรีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านเรื่องความหวาดกลัวจากเมื่อคืน ตอนนี้นางกลัวกว่าเมื่อคืนนี้อีก “พ่อ แม่ พี่ใหญ่ ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าที”

เฉินหลี่ซื่อเห็นแล้ว ก็รีบเข้าไปกอดตัวเฉินหลิ่วเอ๋อเอาไว้ “รออีกนิดนะ เดี๋ยวคุณชายหลี่ก็มาแล้ว”

“ไม่มีเวลารอแล้ว!” หัวหน้าคนนั้นพูดอย่างเด็ดขาดว่า “รอพวกเจ้ามานานพอแล้ว”

ว่าแล้ว เขาก็ยกเท้าจะเตะเฉินหลี่ซื่ออีกครั้ง ทันใดนั้นเฉินหลิ่วเอ๋อก็พูดว่า “ข้ารู้ว่าท่านพี่พักอยู่ที่ไหน ข้าพาพวกเจ้าไปหาเขาได้”

หัวหน้าได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว ลูกน้องที่อยู่ข้างๆก็กระซิบเตือนเสียงเบา “หัวหน้า ตอนนี้ยังเช้าอยู่ พวกเราไปถามคุณชายหลี่ก่อนดีหรือไม่ขอรับ”

ลูกน้องคนนั้นเจ้าเล่ห์มาก เตือนหัวหน้าคนนั้นได้ เขาอยู่ตำบลชางผิงมานาน ได้ทำแค่งานที่จับตัวนักโทษ แต่ถ้าครั้งนี้มีโอกาสได้รับใช้คุณชายรองจวนอ๋องหนิงจริงๆ ไม่แน่อาจจะก้าวกระโดดทางหน้าที่การงานได้……

พอคิดได้เช่นนี้แล้ว เขาก็พยักหน้ากับลูกน้องคนนั้นอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ไอกระแอมแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าก็จะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เดี๋ยวพวกเจ้าจะคิดว่า ข้าไร้น้ำใจอีก นำตัวนางไป!”

หัวหน้าผู้จับนักโทษชี้หน้าพูดกับเฉินหลิ่วเอ๋อ

ลูกน้องพวกนั้นก็พาตัวเฉินหลิ่วเอ๋อไป “บอกมา คุณชายหลี่พักอยู่ที่ไหนกันแน่?”

เฉินหลิ่วเอ๋อพูดเสียงสั่นว่า “คุณชายหลี่พักอยู่ที่โรงเตี๊ยมเทียนหรัน”

มองดูเฉินหลิ่วเอ๋อถูกนำตัวไปต่อหน้าต่อตา เฉินหลี่ซื่อจะยอมได้อย่างไร? นางรีบตามไป ตาแก่เฉินก็รีบมองไปยังเฉินจื่ออาน สายตาเต็มไปด้วยคำขอร้อง “จื่ออาน เจ้าตามไปดูหน่อยเถอะ……”

เฉินจื่ออานเม้มริมฝีปาก ตอนที่เหลือบตาไปเห็นโรงงานที่เละไม่เป็นท่าข้างหลัง เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ท่านพ่อ ข้าไม่ไปจะดีกว่า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน