ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 164

“ถือว่าพ่อขอร้องเจ้านะ หลิ่วเอ๋อไม่ดีแค่ไหน ยังไงนั้นเป็นน้องสาวของเจ้า ตอนนี้จื่อคังไม่อยู่แล้ว หรือเจ้าอยากเห็นนางไปตายด้วยหรือไง?”

ลู่ม่านตอบว่า “จื่ออาน ข้าไปกับเจ้านะ”

เฉินจื่ออานอึ้ง ไม่รู้ว่าลู่ม่านคิดอะไรอยู่ ในความคิดของเฉินจื่ออาน ฆ่าคนต้องชดใช้ชีวิต ค้างหนี้ต้องคืนเงิน ครั้งนี้เฉินหลิ่วเอ๋อไม่เพียงแต่ทำผิด ยังทำให้เฉินจื่อคังต้องมาตายด้วย นางสมควรได้รับบทลงโทษ

ตามหลักแล้ว ลู่ม่านน่าจะคิดเหมือนกับเขานะ ทำไมนางถึงพูดแบบนี้กัน?

ความจริงแล้ว ลู่ม่านก็คิดเหมือนกับเฉินจื่ออานจริงๆ เฉินหลิ่วเอ๋อยืนยันว่าจะไปเจอหลี่ยวี่ ก็เพราะว่านางเชื่อมั่นมาตลอดว่าหลี่ยวี่จะแต่งงานกับนาง แต่ว่าถ้าหลี่ยวี่อยากแต่งงานกับนางจริงๆ เขาก็คงมาที่นี่ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว

เขาใช้ให้เฉินหลิ่วเอ๋อมาขโมยสูตร ไม่มีทางไม่ส่งสายมาคอยจับตาในหมู่บ้านไป่ฮัวหรอก เมื่อคืนเขาไม่มาที่นี่ งั้นก็แสดงว่าเขาไม่มีทางมาที่นี่อีกเลย

มีแต่เฉินหลิ่วเอ๋อที่โง่ ถึงได้เชื่อว่าเขาจะมาช่วยนางจริงๆ

คงต้องให้นางเห็นเองกับตา นางถึงจะได้ไม่ไร้เดียงสาอีก!

ตาแก่เฉินกับเฉินจื่อฉาย เฉินจื่อฟู่สามคนอยู่จัดการเรื่องของเฉินจื่อคังในหมู่บ้าน พวกเขาอยากจะรอไฟดับไปก่อน ค่อยเดินเข้าไปดู

สุดท้าย เฉินหลี่ซื่อไปเป็นเพื่อนกับเฉินหลิ่วเอ๋อ และเฉินจื่ออานกับลู่ม่านไปถึงตำบลพร้อมกัน และตาแก่เฉินสามคนก็อยู่ในหมู่บ้าน

เดิมที เฉินหลิ่วเอ๋อจะต้องถูกขังไว้บนรถขังนักโทษ แต่เฉินหลี่ซื่อโวยวายไม่ยอม หัวหน้าคนนั้นก็ยังกลัวๆหลี่ยวี่อยู่ จึงยอมปล่อยให้เฉินหลิ่วเอ๋อนั่งรถเกวียนกับเฉินจื่ออานพวกเขา

ตลอดทั้งทาง เฉินหลิ่วเอ๋อตัวสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเฉินหลี่ซื่อตลอดเวลา เฉินหลี่ซื่อก็สติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัว คงจะยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ผ่านไปแค่คืนเดียว ลูกชายสุดที่รักมาตายจากไป ลูกสาวสุดที่รักก็ยังถูกจับตัวอีก

การเป็นสาวชาวบ้านที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อน ถึงเฉินหลี่ซื่อจะกล้าหาญมากแค่ไหน ก็ยังรับไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เฉินหลี่ซื่อคงใกล้จะทรุดแล้ว ขนาดลู่ม่านนั่งอยู่ข้างๆ นางยังไม่มีใจจะทะเลาะกับลู่ม่านเลยด้วยซ้ำ

ตอนมาถึงหน้าประตูเมือง หัวหน้าก็ลงจากรถม้า

ให้คนส่วนหนึ่งเฝ้าอยู่หน้าประตูเมือง จากนั้นก็ถอดที่ล็อกของเฉินหลิ่วเอ๋อออก นำตัวเฉินหลิ่วเอ๋อไปกับลูกน้องที่ให้คำแนะนำเขามาตลอด ไปพร้อมกับลู่ม่านสามคนแล้วเดินไปยังโรงเตี๊ยมเทียนหรัน

ตอนที่มาถึงหน้าประตูโรงเตี๊ยมเทียนหรัน ก็เห็นลูกน้องของหลี่ยวี่เดินออกมาจากโรงเตี๊ยมเทียนหรัน เฉินหลิ่วเอ๋อรีบเอาตัวออกจากทหารสองคนนั้น แล้วรีบวิ่งเข้าไปถามว่า

“คุณชายหลี่ล่ะ?”

ลูกน้องสองคนนั้นเห็นแล้วก็สบตากัน จากนั้นก็พูดอย่างเรียบเฉยว่า “แม่นางหลิ่วเอ๋อมาได้อย่างไรกัน?”

“ข้าอยากเจอคุณชายหลี่!” เฉินหลิ่วเอ๋อพูดอย่างร้อนใจ

“คือ……” ลูกน้องทำท่าลำบากใจ “เรื่องนี้ ข้าคงจะต้องไปถามคุณชายก่อน”

“ข้ามีเรื่องที่สำคัญมากเลยนะ!” เฉินหลิ่วเอ๋อพูด “ปกติข้าก็เข้าไปได้ตลอดไม่ใช่เหรอ?”

ลูกน้องไม่ได้สนใจนาง แค่พูดเหมือนเดิมว่า “ข้าขอเข้าไปถามก่อน” จากนั้นก็กลับหลังหันเดินเข้าไป อีกคนก็ขวางเฉินหลิ่วเอ๋อไว้ด้านนอก

ลู่ม่านพวกเขาเห็นแล้วก็ไม่ได้ตามเข้าไปเหมือนรู้แก่ใจดี แค่ยืนมองอยู่ห่างๆ

สิบนาทีผ่านไป ด้านในก็ยังเงียบสนิทเหมือนเดิม เฉินหลิ่วเอ๋อหันกลับไปมอง จากนั้นก็เร่งลูกน้องคนนั้น “คุณชายหลี่ยังไม่ตื่นนอนเหรอ?”

“ข้าขอเข้าไปดูก่อน” ลูกน้องอีกคนพูด

จากนั้นก็ผ่านไปอีกสิบนาที ลูกน้องอีกคนก็หายไปเหมือนกัน

ทหารสองคนเห็นแล้วก็รู้สถานการณ์ทันที พวกเขาฉลาดพอสมควร จะดูไม่ออกได้ยังไงว่าคุณชายหลี่คงจะเบื่อนางแล้ว ทิ้งแม่นางคนนี้ไปตั้งนานแล้ว

พวกเขาผลักเฉินหลี่ซื่อออกไป ทั้งสองเดินไปหาเฉินหลิ่วเอ๋อ

เฉินหลิ่วเอ๋อกลัวมากจริงๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปด้านใน ทหารสองคนนั้นรีบตามเข้าไป เฉินหลี่ซื่อเห็นแล้วก็ตามเข้าไปเหมือนกัน

เฉินจื่ออานกับลู่ม่านจะไม่ตามไปได้ยังไง?

สุดท้าย พวกเขาก็มาเจอกันข้างใน

ตอนที่ลู่ม่านพวกเขาไปถึง ก็เห็นเฉินหลิ่วเอ๋อกำลังชี้หน้าผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้างกายหลี่ยวี่ “คุณชายหลี่ นางเป็นใคร?”

หลี่ยวี่ขมวดคิ้ว พูดด้วยใบหน้าไม่สนใจว่า “นางเป็นใคร เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”

“ข้า……” เฉินหลิ่วเอ๋อไม่อยากจะเชื่อว่า หลี่ยวี่ที่พูดจาไพเราะกับนางมาตลอดจะพูดแบบนี้ได้ “คุณชายหลี่ ข้าไง ข้าหลิ่วเอ๋อไง!”

หลี่ยวี่พูดอย่างเย็นชาว่า “หลิ่วเอ๋อ? ข้าจำไม่ได้แล้ว!”

พูดจบ เขาก็โอบเอวของหญิงสาวข้างกายเข้ามา แล้วพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ที่รัก เจ้าชอบปิ่นปักผมทองอันหนึ่งไม่ใช่เหรอ? เดี๋ยวข้าจะไปซื้อมาให้นะ……”

คำพูดเดียวกัน เหมือนกันกับที่พูดกับเฉินหลิ่วเอ๋อเมื่อตอนนั้น

เฉินหลิ่วเอ๋อสีหน้าซีดเซียว ทันใดนั้นก็พุ่งเข้าไปกระชากตัวของผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างหลี่ยวี่ “ไสหัวไปซะ อีนังชั้นต่ำไร้ยางอาย”

ผู้หญิงคนนั้นก็ใช่ว่าจะหาเรื่องได้ง่ายๆ คิดแล้วก็ใช่ รู้ทั้งรู้ว่าหลี่ยวี่มีนิสัยเป็นยังไง ผู้หญิงที่ยังอยู่กับเขาได้ จะมีคนไหนที่ดีบ้างล่ะ? มีแต่เฉินหลิ่วเอ๋อเป็นยัยโง่ที่ไร้เดียงสาที่สุด

แต่ว่า นางก็ไม่ได้ไร้เดียงสาซะทีเดียว อย่างน้อย นางก็เข้าหาหลี่ยวี่เพราะเขาเป็นคุณชายรองจวนอ๋องหนิง

ผู้หญิงสองตบตีกัน ลู่ม่านคิดว่าหลี่ยวี่ตอนนี้จะอยู่ข้างผู้หญิงใหม่เสียอีก ไม่คิดว่า เขาจะเดินไปข้างๆ แล้วมองดูผู้หญิงอีกคนอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็พูดกับข้ารับใช้ข้างๆว่า “พวกเจ้ามาเดิมพันกันสิ ดูว่าใครจะชนะ!”

ไอ้ผู้ชายเลว! ลู่ม่านด่าในใจ

เห็นว่าเฉินหลิ่วเอ๋อจะแพ้อยู่แล้ว เฉินหลี่ซื่อจะทนได้ยังไง? นางรีบพุ่งเข้าไป ข่วนหน้าผู้หญิงคนนั้นแรงๆ หน้าของผู้หญิงคนนั้นบวมแดงและมีเลือดซึมออกมา

และทหารสองคนนั้นเห็นแล้วก็รีบพุ่งเข้าไปแนะนำตัวกับหลี่ยวี่ ตอนแรกหลี่ยวี่ยังเกรงใจพวกเขาอยู่ พอได้รู้ว่าพวกเขาสองคนทำหน้าที่จับนักโทษที่นี่ ก็พูดอย่างมีความสุขว่า

“ถ้ามีโอกาส ข้าจะเรียกข้ารับใช้ไปเชิญพวกเจ้ามาดื่มเหล้าด้วยกันนะ”

ทั้งสองขอบคุณอย่างดีใจ จากนั้นลูกน้องคนนั้นก็คิดว่าหลี่ยวี่จะต้องช่วยเฉินหลิ่วเอ๋อแน่ จึงเล่าเรื่องที่เฉินหลิ่วเอ๋อทำเมื่อวานจนหมด

ตอนแรกคิดว่าหลี่ยวี่จะบอกว่า เกรงว่านั่นคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ไม่คิดว่า หลี่ยวี่ที่ยังพูดดีๆด้วย พอได้ยินเรื่องนี้แล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

“ใครใช้ให้พวกเจ้ามาบอกเรื่องนี้กับข้ากัน?”

ลูกน้องไม่ตายใจ ยังพูดเตือนว่า “แต่แม่นางคนนั้นบอกว่าท่านกับนาง……”

“หุบปาก!” ข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังหลี่ยวี่กวาดตามองผู้คนที่เข้ามามุงดูผู้หญิงสองคนตบตีกัน ก็พูดขึ้นว่า “คนของจวนอ๋องหนิงเรา จะเกี่ยวข้องกับนักโทษได้อย่างไรกัน? ในเมื่อเป็นนักโทษ พวกเจ้าสองคนยังจะพานางมาที่นี่อีก เคยคิดหรือไม่ หากเกิดเรื่องขึ้นจะทำอย่างไร?”

หัวหน้าผู้จับนักโทษคนนั้นก็เหมือนตื่นจากฝัน รีบกดลูกน้องคนนั้นแล้วพูดว่า “ท่านพูดถูกแล้ว นักโทษคนนี้เจ้าเล่ห์เกินไป พวกเราถูกนางหลอกแล้วล่ะ!”

ว่าแล้ว เขาก็รีบไปกระชากตัวเฉินหลิ่วเอ๋อออกมา “นังคนชั้นต่ำ กล้าหลอกข้างั้นเรอะ? ตามข้าไปเดี๋ยวนี้!”

“ข้าไม่ได้โกหกนะ!” เฉินหลิ่วเอ๋อพูดทั้งน้ำตาว่า “คุณชายหลี่ เจ้าบอกว่าจะแต่งงานกับข้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน