ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 165

เฉินหลิ่วเอ๋อยังจะคิดเพ้อเจ้ออีก ใบหน้าอันหล่อเหลาของหลี่ยวี่บึ้งตึงลง เขาจ้องมองเฉินหลิ่วเอ๋อนิ่ง เหมือนจะเฉืยดเฉินหลิ่วเอ๋อด้วยสายตา

แต่เฉินหลิ่วเอ๋อกลับไม่รู้สึกตัวเลย นางดิ้นรนออกจากการจับกุมตัวของทหาร รีบวิ่งเข้าไปกอดแขนของหลี่ยวี่เอาไว้

ข้ารับใช้ที่อยู่ด้านหลังหลี่ยวี่ก็กระชากดาบออกมาจากไม่ลังเล

เฉินจื่ออานตกใจรีบพุ่งเข้าไป ถึงเฉินหลิ่วเอ๋อสมควรตาย แต่ก็ไม่ควรตายด้วยวิธีนี้

แต่ว่า เฉินจื่ออานอยู่ไกลเกินไป เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว

ได้ยินเสียง ‘ฟิ้ว’ ดังขึ้นอย่างหวุดหวิด ธนูที่ไม่รู้ว่ายิงมาจากไหน ยิงไปที่ดาบของข้ารับใช้คนนั้น

ต่อด้วยเสียง ‘เพี้ยง’ ด้านหลังมีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น “ช้าก่อน!”

ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน เห็นชายหนุ่มที่หน้าตาคล้ายคลึงกับหลี่ยวี่เดินมา แต่ผู้ชายคนนั้นเมื่อเทียบกับหลี่ยวี่แล้ว ดูมีความซื่อตรงและยุติธรรมกว่า

ถึงแม้จะสวมชุดธรรมดา แต่คนคนนั้นกลับดูมีอำนาจมาก

ลู่ม่านหันไปมองหลี่ยวี่ เห็นได้ชัดว่าความเย่อหยิ่งของเขาในตอนนี้ดูจางหายลงไปเยอะมาก ลู่ม่านแทบจะนึกออกได้ในแวบแรกว่าคนที่มาคือ อ๋องหนิง นอกจากท่านนี้แล้ว ยังจะมีใครที่กดหลี่ยวี่ได้อีกล่ะ?

แต่ว่า อ๋องหนิงมาได้ยังไง? หรือว่าจะเป็นจวงลี่จ้ง?

ลู่ม่านกำลังคิดอยู่นั้น อ๋องหนิงเดินเข้ามาใกล้ช้าๆ กวาดตามองข้ารับใช้คนนั้นที่จับตัวเฉินหลิ่วเอ๋อไว้ ใบหน้าที่มีอำนาจนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ

“ยังไม่ปล่อยอีก?”

น้ำเสียงนั้นหนักแน่นมาก ข้ารับใช้คนนั้นตกใจจนรีบปล่อยตัวเฉินหลิ่วเอ๋อ

“กลางวันแสกๆ เจ้าคิดจะทำอะไร?”

ข้ารับใช้คุกเข่าลง เงยหน้ามองอ๋องหนิง “อ๋อง……” ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นอ๋องหนิงมองค้อนเขาแรงๆ ข้ารับใช้ก็รีบเปลี่ยนคำว่า “คุณชาย ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอท่านโปรดอภัยให้ข้าน้อยด้วยเถิด? ข้าน้อยไม่กล้าแล้ว”

“เหอะ กลับไปค่อยคิดบัญชีกับเขา!” อ๋องหนิงว่าแล้ว ก็มองไปยังหลี่ยวี่ “น้องรอง นี่มันเรื่องอะไรกัน?”

คำว่าน้องรองของอ๋องหนิง ทำเอาเฉินหลิ่วเอ๋อและเฉินหลี่ซื่อตื่นทันที หลี่ยวี่เป็นคุณชายรองของจวนอ๋องหนิง คนที่เรียกเขาว่าน้องรองได้ นอกจากอ๋องหนิงแล้ว จะมีใครอีกล่ะ?

เฉินหลี่ซื่อรีบเดินไปข้างหน้า แต่ไม่คิดว่าหลี่ยวี่จะมองค้อนเขา จากนั้นก็ถึงบอกกับอ๋องหนิงว่า “พี่ใหญ่ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่เจอชาวบ้านอาละวาดน่ะ……”

ว่าแล้ว เขาก็ถึงมองไปยังทหารสองคนนั้นที่เพิ่งถูกเขาด่าไปแล้วพูดว่า “พวกเจ้าว่าใช่หรือไม่?”

ทหารสองคนนั้นอยากจะสนิทกับหลี่ยวี่อยู่แล้ว จึงพยักหน้าพูดว่า “ขอรับ แม่หญิงคนนี้เผาโรงงานในหมู่บ้านไป่ฮัวเมื่อคืนขอรับ”

หมู่บ้านไป่ฮัว โรงงาน?

สองคำนี้ทำเอาอ๋องหนิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “เป็นโรงงานยังไงกันแน่?”

“เป็น……โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขอรับ!” หัวหน้าผู้จับนักโทษพูด

“ว่าไงนะ?” อ๋องหนิงได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลี่ยวี่เห็นแล้วก็รีบพูดว่า “หญิงผู้นี้โหดร้ายเกินไปแล้ว พี่ใหญ่ ให้ทหารจับตัวนางไปเถอะ!”

สีหน้าอ๋องหนิงคลายลงช้าๆ แล้วมองไปยังเฉินหลิ่วเอ๋อ

เห็นเฉินหลิ่วเอ๋อมองหลี่ยวี่ตลอด ตอนที่ได้ยินหลี่ยวี่พูดแบบนั้นกับนาง สายตาของนางก็มืดมนลงไปมาก อ๋องหนิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้าจะอธิบายยังไง?”

เฉินหลิ่วเอ๋อกัดริมฝีปาก นานมากถึงจะพูดอย่างเย็นชาว่า “ท่านอ๋องหนิง ช่วยข้าน้อยด้วย ข้าน้อยถูกคุณชายรองหลอก!”

คำพูดของเฉินหลิ่วเอ๋อ ทำให้สายตาของหลี่ยวี่โหดเหี้ยมขึ้นมาทันที แต่เพราะอ๋องหนิงอยู่ด้วย เขาเลยไม่ได้แสดงออกมา

อ๋องหนิงก็ถึงมองไปยังผู้จับนักโทษสองคนนั้น “ให้ข้าสอบสวนคนผู้นี้เถอะ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!”

ผู้จับนักโทษสองคนได้ยินว่าเขาเป็นอ๋องหนิง ก็ตกใจมาก ตอนนี้ อ๋องหนิงออกคำสั่งกับพวกเขาแล้ว ทั้งสองรีบคุกเข่าทำความเคารพ

“ขอรับ ท่านอ๋องหนิง”

สุดท้ายพอผู้คนรอบข้างได้ยินแล้ว ต่างก็รีบคุกเข่ากันทันที “ขอคารวะท่านอ๋องหนิง”

อ๋องหนิงก็กุมขมับอย่างเหนื่อยใจ “พวกเจ้าลุกขึ้นมาเถอะ” จากนั้น เขาก็มองค้อนหลี่ยวี่ “ตามข้ามา”

หลังจากที่ทั้งสองเข้าไปแล้ว เฉินหลี่ซื่อก็รีบโผล่เข้ากอดเฉินหลิ่วเอ๋ออย่างไหว ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานสบตากัน ลู่ม่านพูดเสียงเบาว่า

“ดูท่าแล้ว อ๋องหนิงคงจะมาช่วยพวกเรา”

“อืม!” เฉินจื่ออานพยักหน้า

ไม่รู้ว่าสองพี่น้องพูดอะไรกัน หลังจากผ่านไปชั่วโมงกว่าแล้ว พวกเขาก็ออกมาจากด้านใน ข้ารับใช้สองคนของหลี่ยวี่ถูกคนของอ๋องหนิงนำตัวไปแล้ว เหลือแค่หลี่ยวี่ที่เผชิญหน้ากับเรื่องทุกอย่างคนเดียว

“นำตัวพวกเขาเข้ามาทั้งหมด!” อ๋องหนิงพูดกับเฉินหลิ่วเอ๋อ

อ๋องหนิงพูดจบ ก็มีข้ารับใช้เดินเข้ามาลากตัวของเฉินหลี่ซื่อออกไป จากนั้นก็นำตัวเฉินหลิ่วเอ๋อเข้าไป เฉินหลี่ซื่อก็อยากเข้าไปด้วย แต่ถูกข้ารับใช้ของอ๋องหนิงขวางไว้ก่อน

“เจ้าเข้าไปไม่ได้”

“ข้าเป็นแม่ของนางนะ!” เฉินหลี่ซื่อพูด

“นางเป็นนักโทษ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไป” ข้ารับใช้ของอ๋องหนิง เวลาที่พูดนั้นดูเย็นชามา แต่คนที่ได้ยินแล้วกลับรู้สึกได้ถึงความยุติธรรม

เฉินหลี่ซื่อไม่กล้าอาละวาด จึงต้องยืนรออยู่ข้างๆ

แต่อ๋องหนิง ก่อนที่เขาจะเข้าไปอีกครั้ง เขาก็กวาดตามองทุกคน สุดท้าย สายตาก็ไปหยุดอยู่ที่ลู่ม่านกับเฉินจื่ออาน แล้วพูดว่า

“สองท่าน เป็นเจ้านายของโรงงานหมู่บ้านไป่ฮัวใช่หรือไม่?”

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานรีบสบตากัน แล้วพยักหน้าพูดว่า “ขอรับ/เจ้าค่ะ!”

“ในเมื่อพวกเจ้าเป็นเหยื่อ พวกเจ้าก็เข้ามาฟังด้วยกันเถอะ!” ว่าแล้ว เขาก็เดินเข้าไปด้านใน

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานรีบตามเข้าไป ข้ารับใช้สองคนนั้นปล่อยพวกเขาเข้าไปเสร็จ ก็ปิดประตูทันที

ภายในห้อง เหลือแค่ลู่ม่าน เฉินจื่ออาน เฉินหลิ่วเอ๋อและหลี่ยวี่ รวมไปถึงอ๋องหนิงกับพวกข้ารับใช้ไม่กี่คน ลู่ม่านพวกเขาเพิ่งยืนอยู่กับที่เสร็จ ก็ได้ยินอ๋องหนิงมองเฉินหลิ่วเอ๋อแล้วพูดว่า

“เมื่อครู่เจ้าบอกว่า เจ้าถูกหลี่ยวี่หลอกงั้นเรอะ? เรื่องเป็นยังไง?”

เรื่องมาจนถึงตอนนี้แล้ว เฉินหลิ่วเอ๋อผิดหวังต่อหลี่ยวี่อย่างมาก ระหว่างความเป็นความตาย นางคิดว่าหลี่ยวี่จะช่วยนางเสียอีก แต่ไม่คิดว่าคนที่อยากให้นางตายมากที่สุดก็คือหลี่ยวี่

ความรู้สึกนี้ คนที่ไม่เคยเจอ จะเข้าใจได้ยังไง?

ตอนนี้นางใกล้จะตายอยู่แล้ว แต่การจะคว้าฟางเส้นสุดท้ายได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ฟางเส้นสุดท้ายนั้นกลับอยากให้นางตาย หลอกใช้นางเพื่อแลกกับความเจริญก้าวหน้าในชีวิตของตัวเอง

พี่สี่ผู้น่าสงสารของนาง ต้องเสียชีวิตเพื่อการนี้!

เฉินหลิ่วเอ๋อเดินออกมาจากความเศร้าโศก มองค้อนหลี่ยวี่ด้วยดวงตาที่บวมแดง บอกเรื่องที่หลี่ยวี่มาหมู่บ้านไป่ฮัว มาหานางให้ช่วยขโมยสูตรของการทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาทั้งหมด

ไม่เพียงเท่านี้ นางยังบอกคำสัญญาที่หลี่ยวี่เคยให้ไว้กับนางว่าจะขอนางแต่งงานออกมาด้วย

เฉินจื่ออานได้ยินแล้วก็เบิกตาโพลง เขาไม่คิดเลยว่า น้องสาวที่ปกติเอาแต่ใจแต่ก็ยังมีความไร้เดียงสาอยู่บ้าง ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้หญิงที่ทำทุกอย่างเพื่อแลกกับเงินทอง

อ๋องหนิงฟังจบแล้วก็พยักหน้าแล้วมองไปยังหลี่ยวี่ “เจ้าจะอธิบายยังไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน