ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 166

หลี่ยวี่กระตุกยิ้มเย็นชา “พี่ใหญ่ ข้าไม่ได้พูดแบบนั้นนะ พี่เชื่อคำพูดของชาวบ้านธรรมดาแล้วไม่เชื่อคำพูดน้องชายตัวเองเหรอ? ใครๆก็รู้ว่า ภรรยาของข้าจะต้องเป็นแม่หญิงที่มาจากตระกูลชนชั้นสูงในเมืองหลวง จะเป็นแม่หญิงบ้านนอกคนนี้ได้ยังไง?”

เฉินหลิ่วเอ๋อสีหน้าซีดเซียว “หลี่ยวี่ เจ้ามันคนสารเลว!”

หลี่ยวี่กวาดตามองนางอย่างเย็นชา โน้มตัวลงไปมองเฉินหลิ่วเอ๋อ “แม่หญิงท่านนี้ ข้าไปล่วงเกินเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”

ลู่ม่านลิ้นจุกปากพูดไม่ออก การแสดงของหลี่ยวี่ดีจริงๆ ถ้านางไม่ได้เห็นเขากับเฉินหลิ่วเอ๋อสัญญากันกับตาตัวเอง นางคงจะเชื่อแล้วว่าเขาบริสุทธิ์จริง

เฉินหลิ่วเอ๋อแสยะยิ้มเย็นชา “หลี่ยวี่ ฟ้ามีตานะ เจ้าทำอะไร เจ้าคิดว่าจะไม่เหลือร่องรอยไว้เลยเหรอ?”

ว่าแล้ว นางก็เอาหยกออกมาจากแขนเสื้อ “ท่านอ๋องหนิง ท่านน่าจะรู้จักหยกนี้นะ?”

หลี่ยวี่เห็นแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที

หยกนี้เป็นหยกที่พ่อของพวกเขาให้พวกเขาตอนเด็กๆ พวกเขาสองพี่น้องมีคนละอัน อ๋องหนิงเห็นแล้วก็เอาหยกของตัวเองออกมาดู หน้าตาเหมือนกับหยกที่อยู่ในมือของเฉินหลิ่วเอ๋อเลย

อ๋องหนิงขมวดคิ้ว “น้องรอง เจ้าพูดมาสิ หยกของเจ้าไปอยู่ในมือของนางได้อย่างไร?”

“นางขโมยไปแน่ๆ……” หลี่ยวี่แก้ตัว

“น้องรอง!” อ๋องหนิงพูดเสียงแข็ง “หยกนี้เป็นของแนบกาย เจ้าไปไหนก็มีข้ารับใช้ติดตามตลอด เจ้าบอกข้ามาสิ ว่านางขโมยไปอย่างไร?”

“นางอาจจะขโมยไปตอนที่ข้าอาบน้ำอยู่……” หลี่ยวี่ยังแก้ตัวอยู่ อ๋องหนิงหมดความอดทนแล้ว “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้! ไสหัวไป!”

อ๋องหนิงพูดจบ ก็มีข้ารับใช้เชิญหลี่ยวี่ออกไป

“นำตัวนางออกไปด้วย!” อ๋องหนิงชี้หน้าเฉินหลิ่วเอ๋อ แล้วพูดกับข้ารับใช้ข้างๆ เฉินหลิ่วเอ๋อคิดว่าตัวเองพูดเยอะขนาดนี้ อ๋องหนิงจะช่วยนางเสียอีก พอเห็นเช่นนี้แล้ว นางก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที

“ท่านอ๋องหนิง……”

“ข้าจะจัดการเอง เจ้าออกไปก่อน!” อ๋องหนิงพูดอย่างเรียบเฉย

ไม่นาน ภายในห้องก็เหลือแค่ลู่ม่าน เฉินจื่ออานกับอ๋องหนิงสามคน เฉินจื่ออานกับลู่ม่านทำความเคารพอ๋องหนิงอีกครั้ง

ลู่ม่านไม่ชอบการทำความเคารพแบบโบราณมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อมาแล้วก็ต้องทำตามธรรมเนียมของเขา

เปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้ งั้นก็คงต้องเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามแล้วล่ะ

อ๋องหนิงรีบเดินเข้าไปข้างหน้า ประคองทั้งสองคนขึ้นมา แล้วพูดว่า “ลุกขึ้นมาก่อนเถอะ? โรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?”

ลู่ม่านเม้มริมฝีปาก เฉินจื่ออานพูดอย่างเจ็บปวดว่า “ไม่เหลือแล้ว”

ได้ยินดังนี้ อ๋องหนิงก็หลับตาลงอย่างผิดหวัง “เกินไปแล้ว นี่มันชักจะเกินไปแล้วจริงๆ!”

ลู่ม่านได้ยินแล้ว ก็มองอ๋องหนิงอย่างสงสัย ก่อนหน้านี้ จวงลี่จ้งมักจะสะสมเสบียงไว้แบบลับๆล่อๆ ลู่ม่านยังรู้สึกว่าแปลกมาก เพราะนางคิดไม่ออกจริงๆว่า จวงลี่จ้งจะสะสมสินค้าไว้เยอะขนาดนั้นทำไม เขาคิดจะทำอะไรกันแน่

แต่ตอนนี้ อ๋องหนิงเหมือนจะเป็นห่วงสถานการณ์ของโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาก หรือว่า เรื่องที่จวงลี่จ้งทำ จะเกี่ยวข้องกับอ๋องหนิง?

กำลังคิดอยู่นั้น อ๋องหนิงก็พูดว่า “เรื่องนี้ สองท่านคิดยังไง?”

เฉินจื่ออานได้ยินแล้ว ก็สบตากับลู่ม่าน ลู่ม่านโน้มตัวทำความเคารพอ๋องหนิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ทราบว่าท่านอ๋องมีอะไรจะแนะนำหรือไม่?”

อ๋องหนิงได้ยินแล้ว ก็มองลู่ม่านอย่างจริงจัง

“ท่านนี้เกรงว่าจะเป็นแม่นางลู่ที่อาจ้งพูดถึงบ่อยๆ!”

ลู่ม่านเลิกคิ้ว ทำไมเหรอ? จวงลี่จ้งพูดถึงนางบ่อยๆเหรอ? ทำไมถึงรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติกันนะ?

“เป็นสตรีผู้ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษจริงด้วย!” อ๋องหนิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่า ที่แม่นางลู่ถามเช่นนี้ คงจะรู้แล้วว่าข้าอยากจะถามอะไร ใช่หรือไม่?”

“อ๋องหนิง ท่านอยากทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเล็กใช่หรือไม่?” ลู่ม่านพูด

“ใช่แล้ว!” อ๋องหนิงพยักหน้า “พวกเจ้าไม่รู้ว่า ตอนนี้สถานการณ์ในราชสำนักตึงเครียดมาก มีอำนาจจากหลายฝ่ายต่างก็จ้องมองมาที่จวนอ๋องหนิงอยู่ ถ้าตอนนี้เกิดปัญหาอะไรขึ้นมา จะมีผลกระทบต่อจวนอ๋องหนิงอยากมาก”

เงียบไปสักพัก เขาก็พูดต่อว่า “ถึงแม้ว่า เกียรติยศของจวนอ๋องหนิงจะไม่สำคัญอะไร แต่หากจวนอ๋องหนิงล้มลง ข่าวของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็จะแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ถึงตอนนั้น ไม่เพียงแต่จวนอ๋องหนิงเท่านั้นที่จะถูกกระทบไปกว่า ยังมีพลทหารแนวหน้าอีกด้วย!”

ลู่ม่านอึ้ง เฉินจื่ออานก็เช่นกัน พวกเขาไม่คิดว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวโยงไปถึงพลทหารแนวหน้าด้วย?

ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวของลู่ม่านอย่างรวดเร็ว หรือว่า……

อ๋องหนิงพูดต่อไป “ครั้งนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อาจ้งเตรียมไว้ทั้งหมด ส่งไปที่แนวหน้าหมดแล้วล่ะ”

ที่แท้สงครามครั้งนี้ก็อยู่ตรงทางตอนเหนือ เป็นบ้านเกิดของเหอซานกับเหอเย่ว ทางนั้นหนาวมาก ทหารก็อยู่กันอย่างยากลำบากเช่นกัน

โดยเฉพาะหลังจากที่เปิดสงครามกันจริงๆ กองทัพทหารเดินทางอยู่ตลอดเวลา ทุกคนก็ได้แต่กินแผ่นแป้งแข็งๆประทังชีวิต แต่ว่า บางทีแผ่นแป้งที่เอามาก็แข็งเกินไป บวกกับที่มีน้ำแข็งเกาะอีก กินเข้าท้องแล้วนานมากก็ไม่รู้สึกอบอุ่นเลย

เมื่อก่อน ราชสำนักก็ส่งคนไปเหมือนกัน แต่ว่า เพราะที่นั่นเป็นพื้นที่ทุรกันดาร ทุกกองทัพที่ไปก็จะกลับมาอย่างพ่ายแพ้ตลอด

ทหารหนุ่มๆบางคน ก็แข็งตายหรือป่วยเพราะไม่ได้กินอาหารอุ่นๆอยู่ทางตอนเหนือ

แต่ตอนนี้มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของดีแบบนี้ ที่แค่ต้มน้ำร้อนก็สามารถกินอาหารอุ่นๆและอร่อยๆได้ในพื้นที่ทุรกันดารแล้ว

โดยเฉพาะ กลิ่นหอมที่โชยมา แค่ได้กลิ่นแล้ว ก็สามารถทำให้ทหารที่เหนื่อยๆ รู้สึกได้กลับคืนอยู่ไออุ่นของบ้านเกิด

ลู่ม่านกับเฉินจื่ออานอึ้ง ส่งไปแนวหน้านี่เอง ถึงว่า จวงลี่จ้งถึงทำท่าลับๆล่อๆ

อ๋องหนิงพูดอย่างหนักแน่นว่า “พวกเจ้าต่างก็เป็นคนที่รักชาติ ข้าคิดว่าพวกเจ้าคงไม่ปฏิเสธคำขอของข้าหรอกนะ?”

พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว เฉินจื่ออานจะพูดอะไรได้อีกล่ะ?

สุดท้าย ทั้งสองก็ต้องพยักหน้า “น้อมรับคำสั่งของท่านอ๋องหนิง”

“ดีๆๆ!” อ๋องหนิงพูดอย่างพึงพอใจ “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบ ข้าจะไม่เท้าความอีก ข้ายังได้ยินมาว่า น้องชายเจ้าตายเพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่?”

เฉินจื่ออานจุกจนพูดไม่ออก อ๋องหนิงยื่นมือไปตบบ่าของเขาเบาๆ

“น้องชายของเจ้าได้รับบทลงโทษจากเรื่องนี้แล้ว น้องสาวของเจ้า ข้าจะปล่อยนางกลับไปนะ”

ได้ยินดังนี้ เฉินจื่ออานก็รีบมองไปยังลู่ม่าน ลู่ม่านพยักหน้าให้กับเขา ยังไงเฉินหลิ่วเอ๋อก็ได้รับบทลงโทษแล้ว นางน่าจะไม่กล้าทำอะไรอีกต่อจากนี้ ปล่อยหรือไม่ปล่อยก็ไม่เป็นไรมากหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ในเมื่ออ๋องหนิงต้องการปกป้องหลี่ยวี่ ก็คงจะไม่ทำอะไรเฉินหลิ่วเอ๋อเหมือนกัน

“ขอบพระคุณท่านอ๋องหนิง!” เฉินจื่ออานพูด

หลังจากที่คุยกันเสร็จแล้ว เฉินจื่ออานกับลู่ม่านก็เดินออกมา ไม่นาน เฉินหลิ่วเอ๋อก็ถูกข้ารับใช้ของอ๋องหนิงส่งตัวกลับมา

“เรื่องนี้ตรวจสอบแน่ชัดแล้ว เรื่องที่เกิดไฟไหม้เป็นฝีมือของเฉินจื่อคังเพียงผู้เดียว เฉินหลิ่วเอ๋อไม่รู้เห็นกับเรื่องนี้ ตอนนี้ปล่อยตัวนางกลับไปได้”

เฉินหลี่ซื่อได้ยินแล้ว ก็เข้าไปโอบกอดเฉินหลิ่วเอ๋อแล้วร้องไห้ แต่พอได้ยินว่าเป็นฝีมือของเฉินจื่อคังเพียงผู้เดียว นางก็เข้าไปแก้ต่างว่า “จื่อคังของข้าไม่ทำแบบนั้นแน่นอน เขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้น”

ไม่มีใครสนใจนาง เฉินหลี่ซื่อตะโกนสุดเสียง ลูกน้องของอ๋องหนิงก็ปรากฏตัวขึ้น นำตัวเฉินหลี่ซื่อกับเฉินหลิ่วเอ๋อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน