ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 171

เหอเย่วส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วไม่พูดอะไรอีก

การเคลื่อนไหวของคนคนนั้นเร็วมาก ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็ทำการประทับตราทั้งหมดเสร็จแล้ว สุดท้าย ก่อนจะจากไป เขายังไม่ลืมที่จะยื่นเงินคืนให้นายหน้าหวัง

“ค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือแม่นางลู่ ข้าขอไม่รับเงินดีกว่า”

นายหน้าหวังอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะแอบกระซิบถาม “มีคนมาสั่งไว้หรือ”

ชายผู้นั้นพยักหน้า “ใช่ มีคำสั่งมาจากเบื้องบน บอกว่าถ้าเป็นการขอร้องของแม่นางลู่จากหมู่บ้านไป่ฮัวไม่ว่าจะเรื่องอะไรให้รีบจัดการให้นางโดยเร็ว ก็นี่ไง... ข้าไม่เคยเจอแม่นางลู่มาก่อน จนเกือบจะเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเสียแล้ว”

นายหน้าหวังเม้มปากยกยิ้ม “คือใครหรือ?”

“เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้!” ชายผู้นั้นพูด “เรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่คนตำแหน่งเล็กอย่างข้าจะรู้ได้”

นายหน้าหวังพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะขอตัวจากไป

หลังจากออกไปแล้ว เขาบอกกับลู่ม่านถึงสิ่งที่เขาถามมาได้ ลู่ม่านกล่าวขอบคุณเขาและยื่นเงินค่าตอบแทนให้เขา

“ที่ดินที่ท่านซื้อให้ข้าครั้งนี้ ข้าพอใจมาก ถ้าครั้งหน้าข้าจะซื้อที่ดินข้าจะไปหาท่านอีก”

นายหน้าหวังรีบปฏิเสธ “แม่นางลู่ ไม่ต้องหรอก ข้ารับไว้ไม่ได้ แล้วอีกอย่าง เถ้าแก่จางเป็นคนแนะนำมา และเจ้าหน้าที่ทางการในหยาเหมินที่มักจะแอบรับเงินเข้ากระเป๋ายังไม่กล้ารับเงินจากท่าน ข้าจะกล้ารับได้ยังไง…”

“มันต่างกัน!” ลู่ม่านหัวเราะ “ท่านทำงานได้ดี ข้าพอใจกับประสบการณ์การซื้อขายกับท่าน ท่านจึงสมควรรับมันไว้!”

นายหน้าหวังได้ยินแบบนี้ถึงยอมรับเงินมา ในถุงเงินหนักพอตัว น่าจะมีหลายร้อยเหวินอยู่ข้างใน เขาจึงยิ้มจนหน้าบานทันที “แม่นางลู่ ท่านวางใจได้ คราวหน้าถ้าท่านต้องการมาหาข้าได้เลย”

หลังจากบอกลานายหน้าหวังแล้ว ลู่ม่านกับเหอเย่วก็ตรงกลับบ้านเลย

ตอนนี้ทักษะการคุมรถม้าของเหอเย่วเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ถึงแม้จะเป็นเส้นทางบนภูเขา นางก็คุมรถม้าได้มั่นคงมาก ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ระหว่างทางเริ่มไม่มีคน ดังนั้นลู่ม่านกับ เหอเย่ว จึงนั่งด้วยกัน และเริ่มคุมรถม้าไปด้วยคุยกันไปด้วย

เหอเย่วกล่าวว่า “พี่เสี่ยวม่าน พี่คิดว่าคนที่เจ้าหน้าที่ทางการในหยาเหมินบอกว่าให้คอยช่วยพี่ จะเป็นท่านอ๋องหนิงหรือเปล่า?”

ลู่ม่านรีบส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้หรอก!” บุคคลยศสูงศักดิ์อย่างอ๋องหนิง จะมาทำเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร แล้วอีกอย่าง อ๋องหนิงกับพวกนางก็เจอกันแค่สองครั้ง ไม่น่าจะทำเรื่องนี้

“งั้นก็คุณชายจวง?” เหอเย่วถามด้วยความประหลาดใจ “คิดไม่ถึงเลยว่าคุณชายจวงที่ปกติดูเย็นชา จะเป็นคนดีแบบนี้!”

ลู่ม่านไม่ปฏิเสธ “ที่จริงแล้วคุณชายจวงเป็นคนดีมากคนหนึ่ง”

“ข้าก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน!” เหอเย่วยกยิัม

เมื่อจัดการเรื่องที่นาเสร็จ พอลู่ม่านนอนอยู่บนเตียงในตอนกลางคืน นางมองกระดาษโฉนดที่ดินสีแดงในมือไปมา และมองที่ว่างด้านข้างที่ว่างเปล่ามากว่าสิบวันแล้ว

ไม่รู้ว่าเฉินจื่ออานและคนอื่นๆ อยู่ในเมืองหย่งอานจะเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าจื่ออานรู้ว่านางซื้อที่ดินมาห้าสิบไร่ เขาจะต้องดีใจมากแน่ๆ

ที่ดินมาห้าสิบไร่นี้ ลู่ม่านคิดว่าจะใช้ปลูกพริกก่อน ส่วนที่เหลือค่อยเก็บไว้ปลูกถั่วเหลือง

อย่างไรซะฤดูกาลนี้ จะปลูกอะไรก็ไม่มีปัญหา จะปล่อยให้ที่ดินว่างเปล่าไร้ประโยชน์ไม่ได้

แต่ที่ดินเยอะขนาดนี้ เฉินจื่ออานไม่อยู่ นางทำทุกอย่างคนเดียวแรงกดดันมีเยอะมาก ลู่ม่านถอนหายใจและบ่นกับตัวเองในใจเงียบๆ

สมัยก่อนตอนอยู่ในยุคปัจจุบัน ตนเองก็อยู่คนเดียวไม่ใช่หรือไง? ไม่ว่าจะเป็นตอนเริ่มต้นธุรกิจหรือตอนที่ธุรกิจคงที่แล้ว

ในตอนนั้น มีหลายครั้งที่แรงกดดันหนักหนากว่านี้ก็มี นางไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลย แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น? หรือจะเป็นเพราะมีคนที่พึ่งพาได้ ถึงทำให้คนเรากลายเป็นคนขี้ขลาดไปได้?

แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องดีเลย!ลู่ม่านสูดหายใจเข้าลึก ๆ และให้กำลังใจตัวเอง

จากนั้นเขาก็วางโฉนดที่ดินไว้ใต้หมอนอย่างเบามือ และผล็อยหลับไป

วันรุ่งขึ้น วันนี้ก็เป็นอีกวันที่วุ่นวาย ลู่ม่านมาตรวจงานในโรงงานตั้งแต่เช้าตรู่ ตอนนี้สถานการณ์ในโรงงานแห่งใหม่นี้ค่อนข้างคงที่แล้ว สินค้าบะหมี่แห้งชุดแรกก็ออกมาแล้วเช่นกัน เช้าวันนี้ต้องจัดส่งไปที่ตำบลพอดี

ลู่ม่านพูดกับผู้ดูแล ถึงกลยุทธ์ทางการตลาดสมัยใหม่ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หลังจากที่ผู้ดูแลได้ยิน เขาก็มองไปที่ลู่ม่านด้วยความนับถือ

“คำแนะนำของแม่นางลู่ ข้าจะนำไปบอกแน่นอน ถ้าคุณชายจวงรับรู้ จะต้องรู้สึกขอบคุณอย่างแน่นอน”

ลู่ม่านส่ายหน้า “ข้าต่างหากที่ควรจะขอบคุณ คุณชายจวงช่วยข้ามามากเช่นกัน ไม่ใช่หรือ?”

ผู้ดูแลพยักหน้า ก่อนจะมองส่งลู่ม่านจากไป

หลังจากที่ลู่ม่านออกมา นางก็ไปที่โรงงานผลไม้กวน นางอยากหาคนงานชั่วคราวดูเหมือนว่าจะต้องพึ่งเหยาซื่อเสียแล้ว พอเหยาซื่อได้ยินเรื่องนี้ นางก็ตบหน้าอกทันที “คนหมู่บ้านอื่นได้หรือไม่?”

ลู่ม่านพยักหน้า “ได้แน่นอน” ในหมู่บ้านขอแค่เป็นพวกไม่คดโกง ส่วนใหญ่ก็ได้ทำงานในโรงงานแล้ว ที่เหลือก็เป็นพวกอายุมากแล้วหรือพวกพฤติกรรมไม่ดี ในหมู่บ้านนี้คงหาไม่ได้แล้ว

เหยาซื่อพูดแบบนี้ “เสี่ยวม่าน ข้าพอจะมีคนที่แนะนำ แต่ไม่รู้ว่าเจ้า...”

“แนะนำมาได้เลย พี่เหยา ระหว่างพวกเรายังมีอะไรพูดไม่ได้อีก” ลู่ม่านกล่าว

เหยาซื่อถึงจะพูดขึ้นว่า “คืออย่างนี้ ในหมู่บ้านพ่อแม่ของข้า ช่วงนี้ไม่ใช่ฤดูทำนา พวกเขาไม่มีอะไรทำ แต่เจ้าวางใจได้ เรื่องความประพฤติเจ้าไม่ต้องกังวล”

“ตกลง!” ลู่ม่านไม่ลังเลเลย “คนที่พี่เหยาแนะนำ ข้าวางใจ เจ้าไปเรียกพวกเขามาได้เลย! ตอนบ่ายนี้ทันไหม?”

“ได้แน่นอน!” เหยาซื่อดีใจมาก ข้าจะไปเรียกคนมาเดี๋ยวนี้เลย

ลู่ม่านพยักหน้า ยืนมองเหยาซื่อเดินออกไป ก่อนจะเดินเข้าไปภายใน จากนั้น นางก็เข้าไปเดินดูสถานการณ์ปัจจุบันในโรงงานผลไม้กวนด้วย

ในช่วงที่เดินดู เฉินเหมยเซียงก็แอบเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองมาที่ลู่ม่าน

และสบตากับลู่ม่านพอดี ลู่ม่านจึงพยักหน้าให้นาง เฉินเหมยเซียงเปิดปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรด้วย ก่อนจะเดินเข้ามาหา

ลู่ม่านรีบหยุดหยุดเดินและมองมาที่นาง “มีอะไรหรือเปล่า?”

“ข้า…” เฉินเหมยเซียงยังคงเหมือนเดิม ทั้งพูดน้อยและเขินอาย ลู่ม่านไม่ได้เร่งเร้านาง รอให้นางปรับตัวได้ “แม่นางลู่ เมื่อครู่ข้าได้ยินท่านกับพี่เหยาคุยกันว่าท่านกำลังหาคนงานชั่วคราวจากนอกหมู่บ้านใช่หรือไม่?”

“ใช่แล้ว!” ลู่ม่านพยักหน้า

“ท่านหาคนพอหรือยัง” เฉินเหมยเซียงถามอย่างกระตือรือร้น

หาได้ยากมากที่เฉินเหมยเซียงจะเริ่มพูดคุยกับลู่ม่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่ม่านจึงส่ายหน้า “ทำไมหรือ เจ้ามีคนที่จะแนะนำ? ”

“เป็น… เป็นน้องชายของข้า” เฉินเหมยเซียงกล่าว “เขาใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านคนเดียวลำบากมาก ที่บ้านมีทุ่งนาไม่มาก ในอดีตเขาอาศัยการล่าสัตว์เลี้ยงชีพ แต่ตอนนี้ บนภูเขามีสัตว์ป่าน้อยลง บ้านก็เริ่มผุพังแล้ว...”

เฉินเหมยเซียงพูดอย่างระมัดระวัง “ถ้า ถ้าคนครบแล้วก็ไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไร ให้เขามาเถอะ!” ลู่ม่านกล่าว

สีหน้าของเฉินเหมยเซียงสว่างขึ้นมาทันที เพิ่มความงดงามขึ้นมาเล็กน้อย “ขอบคุณมาก แม่นางลู่”

ลู่ม่านโบกมือ “ไม่ต้องเกรงใจ เดิมทีข้าก็กำลังหาคนงานอยู่ ถ้าน้องชายของเจ้สทำงานดี ในอนาคตเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านไป่ฮัวได้ แบบนี้ ะวกเจ้าพี่น้องจะได้อยู่ใกล้ชิดกัน และคอยดูแลซึ่งกันและกันได้”

เฉินเหมยเซียงโบกมืออย่างเร่งรีบ “ข้าไม่กล้าคิดแบบนั้นหรอก ข้าแค่หวังว่าเขาจะทำมาหากินได้”

“คิดได้!” ลู่ม่านยกยิัม “ถึงแม้ตอนนี้จะไม่มีบ้าน แต่บ้านของข้าก็มีบ้านที่สร้างขึ้นสำหรับให้คนงานพักอาศัย ให้เขาอยู่ก่อน ที่เหลือค่อยคิดในภายหลัง ถ้าจะมา พี่เหยากำลังจะไปเรียกคนพอดี เจ้าไปบอกนางด้วย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน