บทที่ 175 ถูกโบยสิบไม้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
ตอนนี้ของ ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน โดย ฝูเชิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 175 ถูกโบยสิบไม้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“แล้วยังไง บ้านที่ต้องทะเลาะกันแบบนี้ทุกวัน แบบนี้คือดีแล้วหรือไง” นี่คือเสียงของเฉินหลิ่วเอ๋อ แน่นอนว่านางสนับสนุนการแยกบ้าน
เฉินหลิ่วเอ๋อใส่ใจมากที่สุดก็คือแม่ของนาง ตอนนี้เฉินหลี่ซื่อถูกรังแก นางจะต้องสนับสนุนเฉินหลี่ซื่ออยู่แล้ว ถ้าแยกบ้านกันจริงๆ ในบ้านก็จะมีเพียงเฉินหลี่ซื่อ ตาแก่เฉิน และเฉินหลิ่วเอ๋อเพียงเท่านั้น
พวกนางทั้งสามคน ทุกปีจะได้รับเงินค่าเลี้ยงดูถึงเงินหกพวง พวกนางยังสามารถซื้อสาวใช้ และใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายได้
“หลิวเอ๋อ เจ้าพูดแบบนั้นได้ยังไง” เฉินจื่อฟู่ผู้ซึ่งเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ ในที่สุดก็พูดขึ้นมา “ข้าไม่เห็นด้วยกับการแยกบ้าน!”
เฉินหลิ่วเอ๋อเหลือบมองไปทางเฉินจื่อฟู่อย่างรังเกียจ สำหรับพี่ชายคนรองที่เจ้าเล่ห์คนนี้ บอกตามตรงแทบจะไม่มีใครในบ้านเฉินที่ชอบเขาเลย เขาเห็นแก่ตัวมาก และไม่ว่าเวลาไหนก็ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของตนเองก่อนเสมอ
เมื่อกี้ตอนที่พวกนางทะเลาะกันอย่างดุเดือด ไม่เห็นเขาออกมาห้ามปราม ตอนนี้พอได้ยินว่าต้องเสียเงิน เขาก็รีบก้าวออกมาขัดแย้งทันที
“ท่านพ่อพูดถูก ครอบครัวของเราถ้ายังทะเลาะกันต่อจะต้องแตกแยกกันแล้วจริงๆ ข้าเป็นคนที่ให้สำคัญกับความสัมพันธ์ของครอบครัวที่สุด ไม่ว่ายังไงข้าก็จะอยู่กับท่านพ่อท่านแม้ไม่จากไปไหนเด็ดขาด”
ในเวลานี้ ตาแก่เฉินต้องการใครสักคนที่เข้าข้างตนเอง ดังนั้นเขาจึงพอใจกับคำพูดของเฉินจื่อฟู่มาก
“จื่อฟู่พูดถูก...”
“ถ้าอย่างนั้นครอบครัวน้องรองก็ไม่ต้องแยกบ้าน!” เฉินจื่อฉายตั้งใจแน่วแน่แล้ว “ข้าจะแยกออกไปเอง ข้ายินดีให้เงินสามพวงต่อปี ส่วนท่านพ่อท่านแม่ก็ให้น้องรองดูแลก็แล้วกัน!”
ดวงตาของเฉินจื่อฟู่เป็นประกายทันทีที่ได้ยินแบบนั้น แล้วมองไปทางเฉินจื่ออาน “จื่ออาน แล้วเจ้าล่ะ? พี่ใหญ่ที่ยังไม่มีเงินเก็บเลย เขายังยินดีให้เงินค่าเลี้ยงดูปีละสามพวง ตอนนี้คุณเป็นคนที่รวยที่สุดในครอบครัวของเราแล้ว จะไม่แสดงความกตัญญูหน่อยเหรอ ข้าคิดว่า เจ้าให้ค่าเลี้ยงดูสักห้าพวงก็แล้วกัน!”
เฉินจื่ออานขมวดคิ้วแน่น ในใจของเขารู้สึกดูถูกและรังเกียจต่อความโลภที่ไม่รู้จักพอของเฉินจื่อฟู่มาก
ลู่ม่านพูดขึ้นมา “พี่รองพูดมาก็ถูก เราควรให้เงินค่าเลี้ยงดูจริงๆ แต่ว่า อย่างไรพวกเราก็อายุน้อยกว่า ดังนั้นจึงไม่กล้าออกหน้ามากเกินไป ได้เพียงให้เท่ากับพี่ใหญ่เท่านั้น”
อย่างไรก็ตามเงินทั้งหมด ก็ให้กับตาแก่เฉิน ช่วงนี้ลู่ม่านมีความประทับใจที่ดีต่อตาแก่เฉินบ้างแล้ว ดังนั้นการจะแสดงความกตัญญูบ้างก็ไม่เป็นไร
นางไม่มีญาติผู้ใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ถ้ามีญาติผู้ใหญ่ที่มีความจริงใจต่อกัน ก็จะดีมากเช่นกัน
เฉินจื่อฟู่อยากจะพูดอะไรอีก แต่เฉินจื่อฉายก็ลุกขึ้นมาแล้ว “ตกลงตามนี้ ข้าจะไปเรียกผู้อาวุโสในหมู่บ้านมาที่นี่”
เขาพูด หลังจากนั้นก็หันหลังกลับและเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว ตาแก่เฉินรีบเดินออกไป แล้วเรียกชื่อเฉินจื่อฉายไว้ “จื่อฉาย เจ้าไม่คิดจะทบทวนใหม่อีกสักครั้งเหรอ?”
เฉินจื่อฉายยิ้มเศร้า “ความทุกข์ที่เถาฮัวได้รับไม่มีทางหายไป ความเจ็บปวดเสียใจในหัวใจของลูก ก็เรียกคืนกลับมาไม่ได้แล้วจริงๆ”
“อืม!” ตาแก่เฉินลดมือลงด้วยความสิ้นหวัง ก่อนจะหยิบบ้องบุหรี่ในมือขึ้นขึ้นมาสูบ แต่ไฟในบ้องบุหรี่ดับไปนานแล้ว เขาสูบไปสักพัก แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
…...
ไม่นานผู้ใหญ่บ้านและผู้อาวุโสในตระกูลก็มาถึง ที่จริงแล้วเรื่องการแยกบ้าน ทุกคนต่างก็พอยอมรับได้
การที่ครอบครัวอยู่ร่วมกัน จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดปัญหาขัดแย้งกันได้ แต่ว่า เรื่องที่ลูกคนโตขอแยกบ้านออกไป นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในหมู่บ้านไป่ฮัว
ผู้อาวุโสในตระกูลต่อต้านเรื่องนี้มาก และพยายามถามคาดคั้นเฉินจื่อฉายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่บ้าน ถึงแม้เขาจะหมดหวังกับบ้านเฉินมานานแล้ว ความหวังเดียวของเขาในตอนนี้ คือหวังว่าพวกเขาจะไม่สร้างเรื่องอะไรขึ้นมาอีก
แต่เขายังคงมีความคาดหวังต่อเฉินจื่อฉายอยู่บ้าง ใครบอกว่าเฉินจื่อฉายจะกตัญญูมากจนดูโง่เขลา แต่ว่าบางครั้งความกตัญญูมากจนดูโง่เขลานี้ก็เป็นส่วนดี แต่ว่า ตอนนี้การกตัญญูมากจนดูโง่เขลานี้กลับไม่มีแล้ว
การถูกโบยสิบไม้ เฉินจื่อฉายไม่โต้เถียงอะไรสักคำ เฉินเถาฮัวที่อยู่ข้างๆ ในตอนแรกมีความแค้นเคืองเฉินจื่อฉาย จึงไม่สนใจเขา ต่อมาพอเห็นสีหน้าของเฉินจื่อฉายเริ่มซีดเผือด เธอก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา
ถึงแม้เฉินจื่อฉายจะกตัญญูจนดูโง่เขลา เมื่อก่อนก็เคยทำร้ายจ้าวซื่อบ่อยครั้ง แต่เขาดีกับพวกนางมาก ไม่ว่าอย่างไร เขาก็คือพ่อของนางอยู่ดี
เฉินเถาฮัวรีบพุ่งตัวเข้าไปแล้วตะโกนว่า “ท่านพ่อ ทำไมท่านพ่อจะต้องถูกโบยด้วย ทั้งที่เป็นเพราะท่านย่า...”
นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่เฉินเถาฮัวถูกขายไป จนมาถึงตอนนี้เรียกเขาว่าพ่อ หัวใจของเฉินจื่อฉายรู้สึกอบอุ่นใจและยกยิ้มให้นาง “ไม่ต้องพูดแล้วลูก พ่อไม่เป็นไร”
พอเห็นเช่นนี้ คนที่ลงมือโบยจึงผ่อนแรงลงเล็กน้อย บ้านใครจะไม่มีลูก หรือมีพ่อแม่ล่ะ?
ถ้าไม่ใช่ว่าเสียใจจริง ๆ ใครจะอยากแยกตัวออกไป?
ไม่นานการลงโทษจบลงอย่างรวดเร็ว และผู้ใหญ่บ้านกับผู้อาวุโสในตระกูลก็จากไป
เฉินหลี่ซื่อที่ไม่ถูกเปิดเผยเรื่องออกไป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณเฉินจื่อฉายเลย แค่ส่งเสียงฮึ แล้วให้เฉินหลิ่วเอ๋อช่วยพยุงนางกลับไปพักในห้อง
เฉินจื่อฉายทำให้เรื่องราวมาจนถึงตอนนี้ จึงไม่อยากอยู่ที่บ้านเฉินต่ออีก หลังจากออกจากบ้านมา เฉินจื่ออานจึงพูดเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ พี่ไปพักที่เรือนของข้าก่อนเถอะ...”
เฉินจื่อฉายส่ายหน้า และเหลือบมองไปทางเฉินเถาฮัว
“ไม่ล่ะ ที่บ้านเจ้าไม่ค่อยสะดวก ในเมื่อพวกพี่ออกมาแล้ว จะต้องสร้างครอบครัวของตัวเอง เจ้าวางใจได้ พี่ใหญ่ของเจ้าถึงแม้จะอ่อนแอไปบ้าง แต่ก็รู้วิธีปกป้องลูกของตัวเอง”
เฉินจื่ออานนิ่งเงียบ เฉินจื่อฉายจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง “แต่ว่า บ้านหลังเก่าที่พวกเจ้าได้ตอนที่แยกบ้านออกมา พี่เกรงว่าคงต้องขอยืมให้เราพักอาศัยก่อนชั่วคราว รอพี่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ พี่จะคืนให้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เป็นพอ.ที่กลับกรอก เป็นที่พึ่งไม่ได้เลย ยอกจะออกจากครอบครัวเลวๆนี่ไม่จริงอีก ภาระของนางเอก ถ่วงแข้งถ่วงขาจริงๆ...
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...