ช่วงบ่าย ในช่วงที่กำลังยุ่ง กลับแบ่งเวลาออกมาได้
ลู่ม่านกำลังนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้โยกและพูดคุยกับเหอเย่วอยู่ เหอเย่วนั่งอยู่อีกฝั่งของเก้าอี้ ในมือกำลังปักผ้าอยู่
ลู่ม่านเหลือบมองไปก็เห็นว่าลายปักเป็นรูปนกแมนดารินคู่ที่เหมือนจริงมาก ดวงตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมา
“เสี่ยวเย่ว ทำไมเจ้าถึงเก่งเช่นนี้” สำหรับคนที่มีความสามารถ ลู่ม่านไม่เคยปกปิดการชื่นชมของตนเอง
เหอเย่วรู้สึกเขินทันทีที่ได้รับคำชม “พี่เสี่ยวม่าน ถ้าพี่อยากเรียน ข้าสามารถสอนท่านได้”
“อย่านะ ไม่เอาล่ะ” ลู่ม่านโบกมือปฏิเสธอย่างรวดเร็ว นางยังคงจำความหวาดกลัวตอนที่เหยาซื่อสอนนางทำเสื้อผ้าได้ เงินหาไม่ง่ายกว่า หรือว่าอาหารไม่อร่อยหรือไง?
ทำไมจะต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อเรียนรู้ในสิ่งนี้ด้วย?
เหอเย่วหมดคำพูด “แต่พี่ก็น่าจะเรียนไว้สักหน่อย ถ้าพี่อยากจะปักถุงเงินให้พี่จื่ออาน พี่ต้องเรียนไว้บ้าง”
“ทำไมถึงต้องปักถุงเงินด้วย ซื้อไม่ได้หรือไง” ในยุคปัจจุบัน อยากจะได้อะไรขอแค่มีเงินก็ซื้อได้แล้ว ลู่ม่านคิดว่า มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลย
แต่ใบหน้าของเหอเย่วก็เปลี่ยนไป “แม่นางคนดีของข้า ถุงเงินจะซื้อไปเรื่อยไม่ได้ การให้ถุงเงินกับคนที่รัก การปักให้เองจะเป็นเรื่องที่มีความสุขมาก”
“ชิ!” ลู่ม่านเหลือบมองไปที่นาง “สาวน้อยเจ้ากำลังจะมีความรักแล้วหรือไง?”
ใบหน้าของเหอเย่วแดงก่ำอย่างฉับพลัน “ไม่ใช่สักหน่อย”
“ไม่ใช่ แล้วนกแมนดารินคู่นี้...” ลู่ม่านยกยิ้มอย่างกลั่นแกล้งเหอเย่วรีบดึงผ้าปักกลับมาซ่อนไว้ในฝ่ามือของนาง “ข้าไม่พูดกับพี่แล้ว!”
นางไล่สาวน้อยออกไปได้สำเร็จ ในที่สุดลู่ม่านก็สามารถนอนหลับได้อย่างเต็มอิ่มสักที
พอนางหลับตาลง เหอเย่วก็วิ่งกลับมา “พี่เสี่ยวม่าน...”
“ปล่อยข้าไปเถอะ!” ลู่ม่านร้องขอความเมตตา แต่เหอเย่วกลับส่ายหน้า “ไม่ใช่นะจ๊ะ ข้างนอกมีคนกลุ่มหนึ่งมาหาพี่”
“ใคร” ลู่ม่านเอ่ยถาม
“ดูเหมือนจะเป็นคนของทางการ…” ก่อนที่คำพูดของเหอเย่วจะพูดจบ ลู่ม่านก็ลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย สักพัก ทั้งสองก็เดินออกมา
เหอซานได้เชิญแขกไปที่ห้องโถงแรกแล้ว ลู่ม่านเหลือบไปมอง มีคนมาไม่เยอะ ดูเหมือนจะมาที่นี่เพื่อจับกุมคน ในใจจึงรู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย
พอยกชายกระโปรงเดินเข้าประตู ลู่ม่านก็หันไปสั่งเหอเย่ว “ไปชงชามาต้อนรับแขกเร็ว”
จากนั้นนางก็ก้าวไปข้างหน้าและคำนับ “ผู้ว่าการอำเภอ”
“นี่คงเป็นแม่นางลู่สินะ!” ผู้ว่าการอำเภอต่างจากที่ลู่ม่านคิดไว้มาก ไม่มีความน่าเกรงขามเหมือนคนของทางการ แต่กลับมีรอยยิ้มที่พยายามประจบสอพลอออกมาแทน
คงใช้ชีวิตสะดวกสบายมาตลอด ถึงได้ทั้งขาวทั้งอวบแบบนี้
ลู่ม่านนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ไปทำเรื่องโอนย้ายโฉนดที่ดินก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ดูท่า คงเป็นพวกไม่ได้เรื่องสินะ?
แต่ว่า นางไม่ใช่พวกหนุ่มสาวหัวร้อน บางครั้ง คนที่มีความโลภ กลับไม่ยุ่งยากอะไรเท่าไหร่
อีกทั้งอีกฝ่ายมาดีจะให้นางปฏิเสธออกไปได้อย่างไร!
ลู่ม่านพยักหน้า “เป็นข้าเองเจ้าค่ะ”
“เป็นข่าวดี แม่นางลู่!” ผู้ว่าการอำเภอกล่าว พอเห็นแบบนี้ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ ก็หยิบเอกสารออกมายื่นให้อย่างสุภาพ เขากล่าวกับลู่ม่าน “นี่เป็นเอกสารฉบับล่าสุดที่ออกโดยซือหนงซื่อ*(กรมเกษตร)ในเมืองหลวง เราจะดำเนินการตั้งตำบลชางผิงเป็นจุดทดลองในการปลูกพริก หมู่บ้านไป่ฮัวแห่งนี้ได้รับการยืนยันว่าเป็นที่แรก ถ้าทำได้ ในอนาคต อำเภอเฟิงหนานของเราจะได้รับชื่อเสียงตามไปด้วย”
สำหรับผู้ที่ทำงานราชการ ผลงานเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก ถึงแม้ผู้ว่าการอำเภอจะมีท่าทางโลภมาก เขาเองก็ต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งเช่นกัน ถึงจะมีอำนาจและร่ำรวยมากขึ้น
ลู่ม่านหยิบเอกสารขึ้นมาดู และเป็นไปตามที่ผู้ว่าการอำเภอบอกมา ในใจจึงมั่นใจมากขึ้น
พอคิดดูแล้ว นางก็ถามออกมาอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...