ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 180

เฉินเซิง จะชั่วช้าแค่ไหน เขาก็ไม่กล้าต่อกรกับผู้ใหญ่บ้านตรงๆ ดังนั้นเขาจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อและเดินตรงไปทางที่นา

อีกครึ่งหนึ่งที่ยังไม่ถูกทำลาย เขาเริ่มดึงต้นกล้าทิ้งอีกครั้ง

เฉินจื่ออานรีบตามไปหยุดเขา “เฉินเซิง ข้าเห็นแก่หน้าพี่ของเจ้า ถึงไม่ทำอะไรเจ้า อย่าบีบบังคับให้ข้าต้องลงมือจัดการเจ้า”

“ทำไม เจ้าคิดจะทำร้ายข้าหรือไง? ถ้าอย่างนั้นก็เอาเลยสิ ใครๆขจ ก็รู้ว่าเจ้าฝห เฉินจื่ออาน ตอนนี้เป็นคนสำคัญในหมู่บ้าน ถึงเจ้าจะทำร้ายข้า ผู้ว่าการอำเภอก็ต้องข้างเจ้าอยู่แล้ว เจ้าฆ่าข้าให้ตายไปเลยสิ”

เฉินเซิงแสร้งทำเป็นฝ่ายที่อ่อนแอกว่า ทำท่าทางเหมือนข้าจนแต่ข้าเป็นฝ่ายถูก

เฉินจื่ออานโกรธมาก จนชกหน้าเขาไปเต็มแรง

เฉินเซิงคงจะคิดว่า เขาพูดแบบนั้นแล้ว เฉินจื่ออานจะไม่กล้าทำร้ายเขา แต่ใครจะไปรู้ เฉินจื่ออานไม่เพียงแต่จะต่อยหน้า แต่ยังต่อยหน้าอย่างแรงด้วย

หลังจากตกตะลึงไปสักพัก เฉินเซิงได้สติกลับมา และต่อสู้กับเฉินจื่ออานทันที

เฉินเหมยเซียงอยากจะไปเข้าไปห้าม แต่ถูกลู่ม่านดึงตัวกลับมาก่อน “ถ้าเจ้าเข้าไปห้ามตอนนี้ เจ้าอาจจะถูกลูกหลงเอาได้”

“แต่ว่า...” เฉินเหมยเซียงหันกลับมาด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษด้วย แม่นางลู่ เพราะข้าจัดการกับทางบ้านได้ไม่ดี ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนไปด้วย...”

“มันไม่ใช่ความผิดของเจ้า!” ลู่ม่านไม่ใช่เด็ก ใครถูกใครผิดนางแยกแยะเองได้

ยิ่งไปกว่านั้น นางไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเฉินจื่ออานเลย ผู้ชายร่างเล็กอย่างเฉินเซิง เฉินจื่ออานใช้แรงแค่เจ็ดส่วนก็จัดการเขาได้แล้ว

ผู้ใหญ่บ้านเองก็อยากให้มีคนสั่งสอนบทเรียนให้กับคนสารเลวอย่างเฉินเซิงได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ห้ามมาตั้งแต่แรก

และแน่นอนว่า เฉินจื่ออานจัดการจนเฉินเซิงหมดสภาพได้อย่างรวดเร็ว เฉินเซิงรู้ว่าเขาเอาชนะไม่ได้ สุดท้ายก็ตะโกนออกมา “เฉินจื่ออานจะฆ่าคนแล้ว!”

ลู่ม่านหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ แต่โชคดี ที่ห้ามไว้ได้ก่อน

เฉินเซิงนึกว่าพอเขาตะโกนออกไปแบบนี้ จะมีคนมาช่วยเขา แต่ดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้เขาด่าคนอื่นไปอย่างไรบ้าง หลังจากตะโกน แล้วกลับไม่มีใครมาช่วยเขา แต่ทุกคนกลับตะโกนส่งเสริม

“จื่ออาน ต่อยอีกจะได้ทำให้มันหลาบจำบ้าง!”

คนกลุ่มนี้ ให้ความสนับสนุนดีจริงๆ

สุดท้ายเฉินเซิงก็รู้ว่าเขาสู้ไม่ไหว เขาจึงร้องขอความเมตตา “พี่จื่ออาน ตอนที่พี่ชายของข้าเล่นกับพวกพี่ตอนข้ายังเด็ก ข้าคอยตามหลังพวกพี่มาตลอด สำหรับข้าแล้ว พี่เป็นพี่ชายอีกคนของข้าเลยนะ...”

เฉินจื่ออานส่งเสียงฮึออกมา ก่อนจะต่อยเขาไปอีกครั้ง “หมัดนี้ข้าต่อยแทนพี่ชายของเจ้า ตอนที่พี่ชายของเจ้ายังอยู่ เขาดีต่อพี่สะใภ้และพ่อแม่ของเจ้ามาก แต่ตอนนี้เจ้ากลับทำอย่างนี้กับพี่สะใภ้และพ่อแม่ของเจ้า”

“ข้าผิดไปแล้ว ข้ามันไม่ใช่คน!” เฉินเซิงด่าว่าตัวเอง

เฉินจื่ออานปล่อยเขา ก่อนจะลุกขึ้นดึงเขาออกจากที่นา

“ผู้ใหญ่บ้าน ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้”

ผู้ใหญ่บ้านพยักหน้า และรู้สึกชื่นชมเฉินจื่ออานมากขึ้น เฉินจื่ออานนั้นปกติจะดูเป็นคนซื่อมาก เขายังเคยคิดว่าในอนาคตถ้าเขาทำการค้าจนใหญ่โตอาจจะถูกรังแกเอาได้

แต่ดูจากตอนนี้แล้ว เขาเป็นคนที่สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกสถานการณ์ และยังมีฝีมือการต่อสู้ ไม่เลวเลยจริงๆ!

พอคิดถึงลูกสาวของเขา เขารู้สึกเสียใจมากจริงๆ ในตอนนั้น ลูกสาวของตนเองชอบเฉินจื่ออานมาก แต่สถานการณ์ของบ้านเฉินในตอนนั้นแย่มาก และแม่สามีอย่างเฉินหลี่ซื่อก็ดุร้ายมาก เขาและภรรยาต่างก็กังวล ว่าถ้าลูกสาวของพวกเขาแต่งเข้าบ้านเฉินจะถูกรังแกได้

จึงไม่เห็นด้วยที่จะให้ทั้งสองแต่งงานกัน

ลูกสาวก็เป็นเด็กที่เชื่อฟังพ่อแม่ หลังจากรู้ความคิดของพวกเขาแล้ว นางก็ค่อยๆ เลิกติดต่อกับเฉินจื่ออาน ต่อมานางก็แต่งงานกับคนในหมู่บ้านข้างๆ

ถ้าเป็นลูกสาวของเขาเองที่ได้แต่งงานกับเฉินจื่ออาน…

ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านกำลังคิดอยู่ เฉินจื่ออานก็เรียกเขาอีกครั้ง “ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน?”

“หะ!” ผู้ใหญ่บ้านได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว และมองไปที่เฉินเซิง “ที่นาผืนนี้ ตามที่พี่สะใภ้ของเจ้าพูดเมื่อตะกี้ ได้ถูกแลกเปลี่ยนกับนาที่อุดมสมบูรณ์กับเจ้าแล้ว เจ้ายอมรับหรือไม่”

เฉินเซิงลังเลอยู่เล็กน้อย สีหน้าของเขาไม่เต็มใจมาก

พอเห็นอย่างนี้ เฉินจื่ออานก็เหลือบมองไปที่เขา เฉินเซิงตกใจและพยักหน้ารับอย่างรวดเร็ว “ข้ายอมรับ”

“ดีมาก!” ผู้ใหญ่บ้านมองไปทางเฉินเหมยเซียงอีกครั้ง “เจ้ามีโฉนดที่ดินหรือไม่?”

เฉินเหมยเซียงส่ายหน้า “ในตอนนั้นมีเพียงหนังสือรับรองเท่านั้น...”

ไม่แปลกใจเลยที่เฉินเซิงกล้ายึดครองโดยไม่กลัว ที่แท้ก็เพราะยังไม่ได้ทำเป็นโฉนดที่ดิน ถึงแม้เรื่องจะไปถึงศาล ก็ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้

และเป็นไปตามที่คาด กฎหมายเป็นสิ่งที่กำหนดได้ดีที่สุด

“เราจะไปเปลี่ยนเป็นโฉนดที่ดินเดี๋ยวนี้เลย! ข้าจะไปช่วยด้วย”

เฉินเหมยเซียงตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็เหลือบมองไปทางเฉินเซิงอย่างประหม่า “เอ่อ... ได้ไหมน้องเขย”

สีหน้าของเฉินเซิงบูดบึ้งมาก แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ทำ ถ้าทำแล้ว ที่ดินของที่บ้าน เขาจะไม่สามารถยึดครองได้อีกแล้วเชียวนะ?

เขากัดฟันพูดอีกครั้ง “อยากจะไปทำก็ได้ แต่พวกเจ้าต้องรับเงื่อนไขของข้าหนึ่งข้อ”

“เงื่อนไขอะไร?” ผู้ใหญ่บ้านมองเขาด้วยความโกรธ

“ก็ ต้องเซ็นเอกสาร ถ้าในอนาคตพี่สะใภ้แต่งงานใหม่ ที่นาพวกนั้น นางไม่มีสิทธิ์เอาไปด้วย บนโฉนดที่ดินจะต้องเขียนชื่อพี่ชายของข้าเข้าไปด้วย...”

เฉินเหมยเซียงตัวแข็งทื่อ ก่อนจะมองหน้าเฉินเซิงอย่างผิดหวัง “น้องเขย นี่เจ้าสงสัยในตัวข้าอย่างนั้นหรือ”

“ข้าจะกล้าได้อย่างไร!” “ตอนที่เฉินเซิงเผชิญหน้ากับเฉินเหมยเซียง เขาไม่มีความกลัวเลย และยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น หรือจะว่าก็คือ เพราะเฉินเหมยเซียงกลั่นแกล้งได้ง่าย

“เฉินเซิง พี่ชายของเจ้ายังไม่กลับมา เจ้าก็สาปแช่งเขาแล้วเหรอ!” เฉินจื่ออานตะโกนออกมาอีกครั้ง เฉินเซิงรีบหดคอลงอีกครั้ง

“จะเรียกว่าสาบแช่งได้อย่างไร? พี่ชายของข้าหายไปหลายปีแล้ว ข้าวางแผนอนสคตให้เขาไม่ได้หรือไง ข้าจะยืนมองสมบัติของเขาถูกคนอื่นเอาไปได้อย่างไร?”

“พอแล้ว!” เฉินเหมยเซียงตะโกนออกมาทันที “ข้าไม่เคยคิดจะแต่งงานใหม่!”

“ใครจะไปรู้ล่ะ” เฉินเซิงยกยิ้มเยาะเย้ย

“เพี๊ยะ!”ญฌ เฉินเหมยเซียงตบหน้าเฉินเซิงอย่างแรง “เจ้าพูดพี่สะใภ้ของเจ้าแบบนี้ ถ้าพี่ชายของเจ้าอยู่ที่นี่ด้วย จะเสียใจมากขนาดไหน?”

เฉินเซิงเกือบจะถูกตบจนมึนงง เขาคิดไม่ถึงว่าเฉินเหมยเซียงที่ปกติดูอ่อนแอจะตบคนได้!

“เฉินเหมยเซียง…” เขาตะโกนเรียก และกำลังจะตรงเข้าไปทำร้าย เฉินจื่ออานรีบเข้ามาขวาง แต่เฉินเหมยเซียงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง

“ไม่เอาก็ไม่เอา ข้สก็ไม่ต้องการมัน ชื่อบนหนังสือรับรองเดิมทีก็เป็นชื่อพี่ชายของเจ้าอยู่แล้ว ข้าไม่เอา” หลังจากนั้นนางก็หันกลับมาอย่างแน่วแน่ “ไปกันเถอะ สายมากแล้ว”

“เหมยเซียง…” ลู่ม่านรีบเดินตามให้ทัน ในใจนางชื่นชมเฉินเหมยเซียงไม่น้อย

ความหยิ่งทระนงนั้นน่าชื่นชมมาก แต่ไม่ว่าในสมัยโบราณหรือสมัยใหม่ ผู้หญิงที่ไม่มีสมบัติติดตัวเลยจฌ จะเลี้ยงลูกได้อย่างไร? ตอนนี้ พี่ชายของเฉินเซิงยังไม่กลับมา ยังดีอยู่บ้าง

แต่ถ้าเขาก็กลับมา ผ่านไปหลายปีแบบนี้ เขาอาจมีครอบครัวใหม่แล้ว ถึงตอนนั้นเฉินเหมยเซียงจะไม่มีอะไรเหลือเลย นางจะทำอย่างไร?

“เจ้าจะตกลงไม่ได้!” ลู่ม่านพูดอย่างเห็นใจ

“แม่นางลู่ ขอบคุณท่านมาก” เฉินเหมยเซียงยกยิ้ม “แต่แต่ว่า ข้าตัดสินใจแล้ว”

พอได้ยินว่าเฉินเหมยเซียงเห็นด้วย เฉินเซิงก็รีบลุกขึ้นและเดินตามไป “เจ้าพูดเองนะ จะเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ!”

เฉินเหมยเซียงส่งเสียงฮึออกมา แล้วเดินออกไป

ลู่ม่านมองไปที่ผู้ใหญ่บ้าน “ท่านลุงผู้ใหญ่บ้าน เราไม่ใช้ที่นาผืนนี้แล้วดีหรือไม่ ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้เหมยเซียงจะไม่มีหลักประกันในอนาคต ข้าจะรู้สึกผิดมาก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน