ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 182

เฉินหลี่ซื่อส่งเสียงฮึดฮัดออกมา แต่กลับถูกตาแก่เฉินจับได้จับได้ทันที

เขาดุเฉินหลี่ซื่อทันที “วันนี้เป็นวันดีของจื่อฉาย ไม่ว่าเจ้าจะไม่พอใจแค่ไหน ก็เก็บความรู้สึกไว้”

เฉินหลี่ซื่ออารมณ์เสียมาก แต่หลายวันก่อนนางพบว่าตาแก่เฉินได้รับเงินค่าเลี้ยงดูในปีนี้จากเฉินจื่ออานแล้ว แต่กลับไม่ได้เอาให้นาง ที่ผ่านมานางเป็นคนเก็บเงินในครอบครัวมาตลอด

ตอนนี้ ตาแก่นี่กลับกีดกันนาง ทำให้นางไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ทำได้เพียงอดทนไว้

และก็เป็นไปตามที่คิดไว้ พอที่ร้านไม่มีกิจกรรม ก็ไม่มีลูกค้าอะไรจริงๆ

หลังจากที่ลู่ม่านและคนอื่นๆ กินข้าวเสร็จ ตลอดช่วงเที่ยงก็มีลูกค้าเข้ามาเพียงสองโต๊ะ แต่เพราะพวกเขาไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติของพริกนัก พวกเขาจึงสั่งหม้อไฟรสชาติแบบดั้งเดิม

สุดท้าย ตอนที่ลู่ม่านและคนอื่นๆ จะกลับไป เฉินจื่อฉายก็ออกมาส่งลู่ม่านและคนอื่นๆ พร้อมกับพูดว่า “จื่ออาน เจ้าไม่โกรธพี่ใหญ่ใช่ไหม”

เฉินจื่ออานส่ายหน้า “พูดอะไรอย่างนี้ นี่เป็นทางเลือกของพี่เอง ข้ากับเสี่ยวม่านมีแต่หวังว่ากิจการของร้านพี่ใหญ่จะดีขึ้นเรื่อยๆ”

เฉินจื่อฉายยกยิ้ม “ตกลง ข้าจะทำมันอย่างดี”

เฉินจื่ออานพยักหน้า ก่อนจะมองเข้าไปข้างในอีกครั้ง พอเห็นพวกตาแก่เฉินก็ลุกขึ้นแล้ว เขาจึงถามด้วยความลังเล “ท่านพ่อ กลับพร้อมพวกข้าเลยไหม”

“ไม่ล่ะ เจ้ากลับเถอะ!” ตาแก่เฉินกล่าว “ตอนที่พวกข้ามา ได้ยืมเกวียนวัวมา”

“ตกลง!” เฉินจื่ออานพยักหน้า ก่อนจะได้ยินเฉินหลี่ซื่อบ่นพึมพำด้วยเสียงต่ำ “ถ้ากตัญญูจริงๆ ทำไมไม่ซื้อเกวียนวัวมาให้เลยล่ะ”

เฉินจื่ออานชะงักงัน และจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ในระหว่างทาง ก่อนที่เฉินจื่ออานจะถามด้วยท่าทางลังเล “เสี่ยวม่าน ข้าอยากจะซื้อเกวียนวัวให้ท่านพ่อได้ไหม?”

ไม่ใช่ว่าลู่ม่านไม่ได้ยินคำพูดของเฉินหลี่ซื่อ ในตอนนี้ แต่นางรู้เฉินจื่ออานไม่ใช่ที่ทำอะไรไม่คิด ในเมื่อเขาพูดแบบนี้ เขาจะต้องคิดทบทวนไว้ดีแล้ว

นางจึงเอ่ยถาม “เพราะอะไร”

เฉินจื่ออานนิ่งเงียบไปสักพักก่อนจะพูดว่า “คืออย่างนี้ สิ่งที่ท่านแม่พูดในวันนี้ ข้าได้ยินแล้ว พอมาคิดอย่างรอบคอบดูแล้ว ที่จริงแล้วงานทั้งหมดในบ้านเฉินตอนนี้ตกอยู่ที่ท่านพ่อคนเดียว ส่วนพี่รอง เจ้าก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ส่วนพวกท่านแม่ก็คงไม่ทำอะไรเหมือนกัน ช่วงนี้ท่านพ่อช่วยเหลือข้าไว้มาก ข้าอยากจะใช้สิ่งนี้เป็นค่าตอบแทนสำหรับประสบการณ์ที่ท่านพ่อสอนงานข้า...”

“แต่ถ้ามีเกวียนวัว งานของท่านพ่อก็จะไม่เพิ่มขึ้นหรือ” ลู่ม่านถามกลับ

ก่อนหน้านี้เฉินจื่ออานคงจะใจร้อนเกินไปจนไม่ทันได้คิดอะไรมาก แต่พอได้ยินแบบนี้เขาก็สงบลง

ลู่ม่านนกยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าไม่ได้บอกว่าท่านซื้อเกวียนวัวให้ท่านพ่อไม่ได้ ข้าแค่คิดว่า แทนที่จะให้ท่านพ่อทำงานหนักแบบนี้ ปล่อยให้ท่านพ่อเริ่มสั่งงานพี่รองและคนอื่น ๆ จะดีกว่า ตอนนี้อยู่ที่บ้านเฉินมีที่นาไม่เยอะแล้ว ถ้าทุกคนไม่เกียจคร้าน จะต้องทำได้แน่นอน ถึงตอนนั้นเราค่อยซื้อเกวียนวัวให้ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าทำสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น จะไม่ดีกว่าเหรอ”

“เสี่ยวม่านเจ้าพูดถูก!” เฉินจื่ออานกล่าวด้วยความจริงใจ “ข้าจะคิดทบทวนดูอีกที”

วันรุ่งขึ้น ตอนที่ตาแก่เฉินมาดูเฉินจื่ออานปลูกพริก เฉินจื่ออานก็บอกในสิ่งที่เขาคิดให้ฟัง ตาแก่เฉินมองไปที่เฉินจื่ออานด้วยความปลาบปลื้มใจ “ถ้าพี่รองของเจ้า รู้จักสงสารพ่อบ้างก็คงจะดี”

เฉินจื่ออานจนใจ “พี่รอง เขาคงยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้”

ที่จริงแล้วเฉินจื่ออานแค่พูดปลอบใจเท่านั้น ตาแก่เฉินเองก็ฟังออก

หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก ตาแก่เฉินก็พยักหน้าและกล่าวว่า “เรื่องนี้ข้าเข้าใจแล้ว จื่อคังเดินไปในทางที่ผิดแล้วคนหนึ่ง ข้าจะไม่ปล่อยให้พี่รองของเจ้าเดินไปในทางที่ผิดอีกอีก ทางบ้านเฉินข้าจะจัดการให้เป็นระเบียบเอง เจ้าไม่ต้องห่วง”

เฉินจื่ออานได้ยินแบบนั้นจึงรู้สึกโล่งใจ และเริ่มปลูกพริกของเขาต่อ

หนึ่งเดือนผ่านไป ในที่สุดเฉินจื่ออานก็ปลูกพริกทั้งหมดจนเสร็จ

ตอนนี้ ทางด้านปลูกพริกก็ไม่มีอะไรมากแล้ว เหลือเพียงคอยสังเกตและดูแลเท่านั้น ดังนั้นลู่ม่านจึงมอบงานทั้งหมดให้กับเฉินจื่ออาน

ส่วนนางมีสิ่งที่สำคัญมากที่ต้องทำ นั่นคือผลผลิตแรกของถั่วเหลือง ในที่สุดก็ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว

หลายวันมานี้ ลู่ม่านรีบไปหาเหยาซื่ออีกครั้ง เพื่อติดต่อคนงานชั่วคราว ให้มาช่วยเก็บเกี่ยวถั่วเหลือง

บอกว่าจะทำนางก็ลงมือทำทันที หลังจากลู่ม่านกินข้าวเช้าเสร็จ นางก็ตรงไปที่โรงงานทำผลไม้กวนทันที ตอนนี้โรงงานผลไม้กวนที่เหยาซื่อคอยดูแลนั้น ได้เปิดสายงานใหม่ขึ้นมาอีกสามกลุ่มแล้ว

ตอนที่ได้เจอกับจวงลี่จ้งครั้งล่าสุด นางได้ยินจวงลี่จ้งพูด ว่าผลไม้กวนของนางได้ถูกนำไปขายทั่วประเทศแล้ว แน่นอนว่าพวกของปลอมก็โผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก แต่รสชาติไม่ดีเท่ากับของหมู่บ้านไป่ฮัว

มีข่าวลือมาว่าสาเหตุที่ผลไม้กวนของหมู่บ้านไป่ฮัวนั้นอร่อยแบบนี้ เป็นเพราะได้รับพรจากเทพธิดาดอกไม้ ดังนั้นผลไม้กวนเหล่านั้นจึงมีรสชาติหอมมาก

หลังจากที่ลู่ม่านรู้ นางก็หัวเราะจนเจ็บท้อง มีเทพธิดาดอกไม้ที่ไหน นางแค่เพิ่มมะนาวลงไปเท่านั้นเอง

แน่นอน นางรู้ว่าตำนานนี้เป็นตระกูลจวงปล่อยข่าวลือออกไป ทำให้นางรู้สึกนับถือจวงลี่จ้งมาก การตลาดแบบนี้ สามารถพบได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน แต่ในยุคโบราณมันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก

คนในตระกูลจวง สมแล้วที่ได้ฉายาตระกูลการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ตอนที่ไปถึงโรงงาน หลังจากที่ลู่ม่านบอกเหยาซื่อว่านางอยากหาคนงานชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว นางพบว่าเฉินเหมยเซียงไม่ได้มาทำงาน

หลังจากถามเหยาซื่อ ถึงได้รู้ว่าตั้งแต่เฉินเหมยเซียงลงนามในโฉนดที่ดิน สถานะของเธอในบ้านก็ยิ่งต่ำต้อยมากขึ้นไปอีก ในช่วงหลายวันมานี้ พ่อสามีแม่สามีของนางไม่มีท่าทางเป็นมิตรต่อนางเลย

บอกว่านางยอมทิ้งทุ่งนากว้างแบบนี้ไป เพราะนางมีผู้ชายคนอื่นแล้วใช่ไหม

กลัวว่านางจะทิ้งไป ดังนั้น หลายวันมานี้ พ่อสามีแม่สามีของนางจึงอ้างว่าตนเองไม่สบาย ไม่ให้เธอมาทำงาน

ลู่ม่านฟังแล้วรู้สึกอึดอัดใจมาก ทำไมพ่อสามีแม่สามีของนางถึงได้เห็นแก่ตัวถึงขนาดนี้ อย่าว่าข้างกายเฉินเหมยเซียงไม่มีชายอื่น ถึงแม้จะมี นางทำงานหนักและเหน็ดเหนื่อยเพื่อครอบครัวนี้มาหลายปี ตอนนี้นางไม่ต้องการอะไรเลย

พวกเขาไม่ควรจะรู้สึกขอบคุณหรือไง? ทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนี้กับนาง

ลู่ม่านโมโหมาก “ถ้าข้าเป็นเหมยเซียง ข้าคงจากไปแล้ว”

เหยาซื่อถอนหายใจ “ผู้หญิงเรา พอแต่งงาน และมีลูกแล้ว ถ้าจากไปจริง ๆ จะหาที่หลบภัยได้จากที่ไหนกัน?” ตรงจุดนี้ ถึงแม้เหยาซื่อที่เป็นคนเข้มแข็งและขยันขันแข็ง แต่ในฐานะผู้หญิงในยุคโบราณคนหนึ่ง นางยังคงมีความคิดดั้งเดิมมาก

นางเข้าใจเหตุผลที่ลู่ม่านโมโหดี แต่นางไม่เข้าใจว่าหลังจากที่ลู่ม่านโมโห แล้วบอกว่าสนับสนุนให้เฉินเหมยเซียงจากไปหมายความว่าอย่างไร

ดั่งสุภาษิตที่บอกไว้ว่า ยอมเสียส่วนน้อย แต่ไม่นอมทำลายชีวิตการแต่งงานของผู้อื่น ลู่ม่านเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและมีการศึกษา ไม่ควรจะไม่รู้นี่นา

ถึงแม้การแต่งงานนั้นจะพังทลายไปแล้ว แต่ก็ยังต้องแสร้งทำเป็นไม่มีปัญหาอะไรต่อหน้าผู้อื่น

ลู่ม่านรู้ ความคิดของคนเราแตกต่างกัน ดังนั้นนางจึงไม่ยืนกราน เหยาซื่อจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อ และพูดถึงเรื่องที่โรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิด เช้านี้ นางยังเห็นในโรงงานดูวุ่นวายกันหมด

พอได้ยินแบบนี้ ลู่ม่านจึงขมวดคิ้ว “ในโรงงานไม่มีคนดูแลหรือไง ทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องวุ่นวาย?”

เหยาซื่อถอนหายใจ “ผู้ดูแลคนนั้น ข้ากลัวว่าจะห้ามพวกเขาไว้ไม่อยู่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน