ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 183

โรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิด

ลู่ม่านยังไม่ทันเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างใน ในตอนแรกลู่ม่านนึกว่าใครมีความขัดเคืองใจ หรือไม่ได้รับความยุติธรรมกัน

หลังจากฟังอย่างละเอียด ถึงได้ฟังออก ว่าพวกเขากำลังซุบซิบนินทากันอยู่

ส่วนใหญ่จะคุยเล่น ไม่มีสาระอะไรเลย

อีกทั้งยังตระกูลเฉินอยู่ในประเด็นที่เอามานินทาด้วย โดยเฉพาะบ้านเฉิน ความโหดร้ายของเฉินหลี่ซื่อ รวมถึงเรื่องที่เฉินเถาฮัวกลับมาจากเมืองหย่งอาน และการหายตัวไปอย่างลึกลับของจ้าวซื่อ

ต้องยอมรับเลยว่า จินตนาการของพวกนางล้ำเลิศมาก หลังจากฟังไปสักพัก ลู่ม่านยิ่งฟังยิ่งติดใจ เหมือนละครช่วงหัวค่ำในยุคปัจจุบัน

ลู่ม่านเคาะหน้าผาก และเตือนตัวเองถึงจุดประสงค์ที่มา ก่อนจะยืดตัวตรง และเดินเข้าไป

หลังจากเข้าไปมอง สภาพภายในแย่มาก

เดิมทีสิ่งที่พวกนางทำก็เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นเครื่องปรุงรสที่ใช้ในการทำอาหาร ลู่หม่านได้ตั้งกฎไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าต้องสวมชุดทำงานกับหน้ากากปิดปากในเวลาทำงานด้วย

แต่พอเดินเข้าไป มีหลายคนที่ไม่ใส่ชุดทำงานหรือหน้ากากปิดปาก และกำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน

พอเห็นลู่ม่านเดินเข้ามา ภายในโรงงานก็เงียบไปทันที

แต่ไม่นานก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

อีกทั้ง บางคนถึงกับเดินมาถามลู่ม่านตรงๆ “แม่นางลู่ เถาฮัวอยู่ที่เมืองหย่งอานทำอะไรหรือ”

ลู่ม่านไม่พูดอะไร พอทุกคนเห็นว่านางไม่โกรธ ทุกคนก็ยิ่งเดินเข้ามาถามอย่างใจกล้ามากขึ้น

“ใช่แล้ว แม่นางลู่ เล่าให้พวกเราฟังบ้างสิ”

“หึ...” ลู่ม่านยิ้มเยาะ “อยากฟังมากหรือ”

“อยาก!” ทุกคนพูดพร้อมกัน ลู่ม่านเหลือบมองผู้ดูแลที่เธอเลือก และตอนนี้นางก็กำลังมองมาทางลู่ม่านด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น และรอให้ลู่ม่านเล่าเรื่องออกมา

ในใจลู่ม่านโมโหจนแทบจะระเบิดออกมา!

แต่บนใบหน้ายังคงประดับไปด้วยรอยยิ้ม ลู่ม่านเหลือบมองวัตถุดิบที่อยู่ข้างหน้าพวกนางและพูดว่า “ได้สิ แต่ว่า ทุกคนลืมไปหรือเปล่าว่านี่คือเวลาทำงาน”

ทันทีที่พูดแบบนี้ออกมา หลายคนก็ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด

ลู่ม่านยกยิ้มอีกครั้ง “ยังมีใครอยากฟังอีกไหม ถ้าอย่างนั้นพวกเจ้าเก็บข้าวของตรงหน้าก่อน เสร็จแล้วค่อยไปคุยกันข้างใน”

ทั้งที่น้ำเสียงฟังดูไม่ซีเรียสมาก แต่ทำให้ผู้ที่ได้ยินตกใจพร้อมกัน

ในที่สุดผู้ดูแลก็มีได้สติ และรู้ว่าลู่ม่านไม่ได้มาเพื่อคุยกับพวกเขาเลย แต่มาเพื่อเอาเรื่องกับพวกนาง

นางพูดอย่าฃตะกุกตะกัก “ไม่ ไม่ล่ะ แม่นางลู่ พวกเรายังทำงานไม่เสร็จเลย!”

“อย่างนั้นเหรอ?” ลู่ม่านยังคงยิ้มแย้ม “ไม่ไปจริงเหรอ?”

“ไม่ล่ะ” ทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน

จากนั้นลู่ม่านก็เดินออกมาจากโรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิด และเรื่องแรกที่นางทำคือตรงไปที่บ้านของเฉินเหมยเซียง ตอนที่จัดการกับคนงานในโรงงาน ทำให้นางนึกถึงความกล้าหาญของเฉินเหมยเซียงที่ต่อว่าเฉินเซิงอย่างกล้าหาญขึ้นมา นางคิดว่าเฉินเหมยเซียงไม่ได้อ่อนแออย่างที่คิดไว้ เห็นได้ชัดว่านางเป็นคนประเภทที่ดูเหมือนจะอ่อนแอ แต่กลับแข็งแกร่งมาก

นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ม่านมาที่บ้านของเฉินเหมยเซียง ครอบครัวของนางไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมากนัก

บ้านเหมือนบ้านเฉิน สภาพค่อนข้างเก่าแก่โบราณ แต่สามารถมองออกเลยว่า ตอนที่สามีของเฉินเหมยเซียงยังอยู่ คงจะมีชีวิตความเป็นอยู่ดีมาก

แต่ว่า ไม่มีการซ่อมมานานหลายปี ทำให้สภาพดูทรุดโทรมไปตามเวลา

เฉินเหมยเซียงกำลังกลับมาจากแม่น้ำพร้อมกับพร้อมกับพาดอ่างซักผ้าขนาดใหญ่กับเอว ส่วนมืออีกข้างก็ถือถังน้ำขนาดใหญ่ไว้

นางเดินเร็วมาก อาจเป็นเพราะถังน้ำมันหนักมาก

พอเห็นลู่ม่าน นากก็ตกตะลึงเล็กน้อย นางรีบอธิบาย “แม่นางลู่ วันนี้ข้าขอลางานไว้แล้ว”

“ข้ารู้ ข้าแค่อยากมาเยี่ยมเจ้า” ลู่ม่านพูด แล้วหยิบถังซักผ้าในมือของเธอมาจับไว้ เฉินเหมยเซียงอยากจะดึงกลับมา แต่ลู่ม่านเดินไปไกลแล้ว

เฉินเหมยเซียงจึงได้แต่เดินตามไป ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าไปในบ้าน

ในลานบ้าน เฉินชิงซานลูกชายของเฉินเหมยเซียงกำลังจับกิ่งไม้ขีดเขียนบนพื้น พอเห็นพวกเฉินเหมยเซียงเดินเข้ามา เขาก็รีบลุกขึ้นยืนและมองที่ลู่ม่านอย่างสงสัย

“ชิงซาน” ลู่ม่านเคยเจอกับเขาแล้ว จึงยิ้มทักทายเขา

รอยยิ้มนี้กระตุ้นความทรงจำของเฉินชิงซานขึ้นมาได้ทันที เขาจึงยกยิ้มหวานให้ลู่ม่าน “ท่านน้า”

“เด็กดี!” ลู่ม่านกล่าว ก่อนจะเหลือบมองไปที่พื้นตรงหน้าเขา ไม่มองไม่รู้ พอมองถึงได้รู้ ว่าเด็กคนนี้กำลังฝึกเขียนหนังสืออยู่

“เอ๊ะ ที่แท้ชิงซานก็เขียนอักษรได้จริงๆ ?”

เฉินชิงซานเห็นแบบนี้ เขาจึงเกาท้ายทอยอย่างเขินอาย “ท่านแม่สอนข้า”

“เจ้าเขียนหนังสือได้เหรอ?” ลู่ม่านมองที่เฉินเหมยเซียง แต่พอลองมาคิดดู เฉินจูชิงรู้หนังสือ ทั้งคู่คงได้เรียนรู้มาจากพ่อของพวกเขานั่นเอง

“ได้เรียนมาบ้าง” เฉินเหมยเซียงกล่าว “ข้สเรียนกับท่านพ่อตอนข้ายังเด็ก”

อย่างนี้นี่เอง……

ลู่ม่านบอกถึงจุดประสงค์ที่มาทันที “โรงงานผงเครื่องเทศสิบสามชนิดของข้า ตอนนี้ยังขาดผู้ดูแลที่สามารถอ่านและเขียนได้ ข้าคิดว่าเหมยเซียงเจ้าเหมาะสมกับงานนี้ ถ้าเจ้าคิดว่าเจ้าทำได้ พรุ่งนี้ก็มาทำงานเลย”

เฉินเหมยเซียงตกตะลึงไปสักพัก ก่อนจะพูด “แม่นางลู่ ท่านพูดจริงหรือ”

“จริงสิ!” ลู่ม่านพยักหน้า “ข้ายังได้ฟังเรื่องราวของเจ้าจากพี่เหยาแล้ว ข้าคิดว่าเจ้าควรจะคิดถึงตัวเองบ้าง งานในโรงงานถึงแม้จะไม่ใช่งานที่ดีมาก แต่ถ้าเจ้าต้องการความช่วยเหลือ โรงงานจะเป็นที่พึ่งให้เจ้ากับชิงซานเสมอ”

ลู่ม่านไม่ได้พูดตรงจนเกินไป นางกลัวว่าจะถูกประหารชีวิตในฐานะตัวประหลาด

แต่ว่า นางรู้ว่าเฉินเหมยเซียงจะต้องเข้าใจความหมายของนางอย่างแน่นอน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก

เฉินเหมยเซียงที่อยากจะบอกปัดในตอนแรก พอได้ยินลู่ม่านพูดประโยคหลัง ในใจก็กระตุกขึ้นมา ถ้าครอบครัวเฉินไม่มีที่ให้นางยืนอีกต่อไป นางยังสามารถพาชิงซานไปใช้ชีวิตลำพังสองแม่ลูกได้

ถ้าได้เป็นผู้ดูแล เงินเดือนก็จะได้เพิ่มเป็นสองเท่า...

ในขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างใน “เหมยเซียง ใครมาหรือ”

พอเฉินชิงซานได้ยินเสียงนั้น เขาก็รีบวิ่งกลับไปและช่วยพยุงอีกฝ่ายออกมา ปรากฏว่าเป็นแม่สามีของเฉินเหมยเซียง หญิงชรารูปร่างผอมมาก แต่แต่งตัวสะอาดสะอ้าน และแข็งแรง

“เป็นแม่นางลู่มาท่านแม่” เฉินเหมยเซียงกล่าว

ทันทีที่เธอได้ยินว่าคนที่มาคือลู่ม่าน แม่สามีของเฉินเหมยเซียงก็มองมาทันที

เพียงแต่สายตาของนางดูไม่ค่อยดี พยายามมองอยู่สักพักถึงจะมองชัด ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่นำเก้าอี้ที่เฉินชิงซานยกมาให้นาง “แม่นางลู่มาก็ดีแล้ว ข้ากำลังจะให้คนไปแจ้งพอดี เหมยเซียงของเรา ก่อนหน้านี้นางทั้งต้องยุ่งกับการทำงานในโรงงาน และยุ่งกับงานบ้าน มันเหนื่อยมากเกินไป ข้าเลยจะตัดสินใจแทนนาง ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป นางจะไม่ไปทำงานที่โรงงานแล้ว”

“ท่านแม่...” เฉินเหมยเซียงมองแม่สามีด้วยความตกใจ “ท่านแม่ ข้าไม่เหนื่อย”

“ไม่ได้ ตอนนี้พ่อของเจ้าเริ่มขี้หลงขี้ลืมมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนข้าสายตาก็เริ่มมองไม่เห็นแล้ว ในช่วงปกติ ให้ชิงซานดูแลพวกข้าคนเดียวจะไหวได้อย่างไร ที่สำคัญ ชิงซานโตแล้ว ถึงเวลาต้องไปเรียนที่โรงเรียนได้แล้ว บ้านเราก็เหลือเขาเป็นทายาทคนเดียว จะให้มาขีดๆ เขียนๆ ในสวนเองแบบนี้ตลอดได้อย่างไร!”

ต้องยอมรับเลยว่า คำพูดของแม่สามี ทำให้เฉินเหมยเซียงเริ่มลังเล

นางอยากส่งเฉินชิงซานเข้าเรียนในโรงเรียนมาตลอด แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเห็นด้วย แต่ตอนนี้ พวกเขากลับเอ่ยพูดขึ้นมาเอง...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน