ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 189

ลู่ม่านนิ่งอึ้ง กำลังจะเดินไปข้างหน้า ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้นมาว่า “จื่ออาน ไม่เจอกันนานเลยนะ”ฃ

เฉินจื่ออานตอบรับเสียงหนึ่ง ทั้งสองต่างก็นิ่งเงียบไป

มีความรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรจะพูดคุยกัน ลู่ม่านเหมือนถูกทิ่มแทงในหัวใจ จึงหมุนตัวจากไปจากตรงนั้นโดยทันที

หลังจากกลับไปแล้ว เหอเยว่เห็นว่าลู่ม่านกลับมาคนเดียว ก็สงสัยขึ้นมา “พี่ลู่ม่าน พี่จื่ออานเล่า ”

“เออ ตามมาทีหลัง ”ลู่ม่านพูดจบ กำลังจะกลับเข้าไปในห้อง เหอเยว่ก็ถามขึ้นมาว่า “คนในโรงงานทำผงเครื่องเทศสิบสามชนิดมา บอกว่ามีเรื่องจะคุยกับท่าน”

ลู่ม่านพยักหน้า เดินออกไปทันที

พอเดินไปถึงก็พบว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ในโรงงานวุ่นวายโกลาหลไปหมดแล้ว

เพราะผู้ดูแลคนก่อน หลังจากที่ถูกลู่ม่านเปลี่ยนตัว ก็รู้สึกไม่พอใจ แม้ว่านางจะไม่แสดงออกตลอดมา แต่ว่าวันนี้หลังจากเข้ามาทำงาน ก็ทำงานอย่างไร้กฎระเบียบ

เฉินเหมยเซียงจึงมาหาเธอเพื่อคุยเรื่องนี้ เพิ่งจะคุยได้สองสามประโยค คนคนนั้นก็เข้ามาตบตีกับเฉินเหมยเซียง

เพราะว่าเฉินเหมยเซียงนั้นอ่อนแอกว่าเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นมีแรงมาก ดึงผมของเฉินเหมยเซียงเอาไว้ แล้วเหวี่ยงไปทางด้านข้าง สถานการณ์ค่อนข้างอันตรายมาก เมื่อเห็นว่าเฉินเหมยเซียงจะชนเข้ากับกำแพงแล้ว

ลู่ม่านก็รีบวิ่งเข้าไปกอดเฉินเหมยเซียงเอาไว้ แต่นางกลับถูกกระแทกเข้าที่แขน รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที

“แม่นาง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ”เฉินเหมยเซียงรีบเข้าไปประคองลู่ม่านและถามขึ้น

ลู่ม่านเจ็บจนดวงตาแดงก่ำไปหมด แต่ยังคงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”จากนั้น ก็หันไปมองคนที่ก่อเรื่องคนนั้น “เจ้าพูดมา ว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ยังจะมีเรื่องอะไร นางมีความสามารถอะไร ถึงได้มาควบคุมข้า”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว “แล้วเจ้าทำผิดหรือไม่เล่า”

“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด”คนคนนั้นแก้ตัว

ลู่ม่านยังอยากจะพูดต่อ เฉินเหมยเซียงได้ประคองนางไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง“ แม่นางลู่ ให้ข้าจัดการดีกว่า”

ในเวลาเช่นนี้ เฉินเหมยเซียงอยากจะรับผิดชอบด้วยตนเอง นับว่ามีความกล้าไม่น้อย ลู่ม่านจึงเห็นด้วยกับความคิดของนาง เดินไปนั่งลงข้างๆอย่างวางใจ

เห็นเพียงเฉินเหมยเซียงเดินเข้าไป ยืนประจันหน้ากับผู้หญิงคนนั้น จ้องดวงตาของหญิงคนนั้นแล้วพูดว่า “วันนี้ ตอนที่ข้ามาทำงาน เจ้ากำลังคุยเล่นอยู่กับทุกคน ข้าพูดถูกหรือไม่”

คนคนนั้นนิ่งอึ้งไป พยักหน้าอย่างไม่พอใจ “ก็แค่คุยเล่นกันนิดหน่อย ข้าใส่ชุดทำงาน และสวมผ้าปิดปากแล้ว”

เฉินเหมยเซียงพยักหน้า “ใช่ เจ้าสวมชุดทำงาน และสวมหน้ากาก แต่ว่าเรื่องที่เจ้าพูดถึงเป็นเรื่องขั้นตอนการทำงานของเจ้าใช่หรือไม่”

คนคนนั้นคงคิดไม่ถึงว่าเฉินเหมยเซียงจะได้ยินที่พูดคุยกันทั้งหมด นิ่งไปชั่วครู่กำลังจะหาข้ออ้างเพื่อตอบโต้ ไหนเลยจะคาดคิดว่า เฉินเหมยเซียงนั้นไม่ให้โอกาสนาง และมองไปยังคนอีกคนที่อยู่ข้างๆกัน

“ยังมีคนบางส่วนก็พูดเหมือนกัน แต่พูดไม่มาก ข้าจะไม่เอ่ยชื่อ แต่ว่า ถ้าหากมีการพยายามจะปกปิดข้ากับแม่นางลู่ละก็ เช่นนั้นข้าจะขอเตือนว่าพวกเจ้าควรจะหยุดความคิดไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ”

วิธีการนี้ไม่รู้เฉินเหมยเซียงไม่เรียนมาจากใคร การข่มขู่เช่นนี้ มีหลายคนที่รู้สึกผิดก้มหน้าต่ำลงทันที

ผู้ดูแลคนก่อนหน้านี้ เห็นว่าตนเองเสียเปรียบแล้ว จึงเอ่ยขอตัวก่อนอย่างง่ายดาย

เฉินเหมยเซียงไม่ใช่คนเลอะเลือน รีบหันกลับไปมองทางลู่ม่าน ในสายตามีแววขออนุญาต ลู่ม่านพยักหน้า นางจึงรีบเรียกให้คนไปคิดค่าแรงให้หญิงคนนั้นทันที

เรื่องจบลงอย่างรวดเร็วมาก เฉินเหมยเซียงจึงเดินมาประคองลู่ม่าน “แม่นางลู่ ให้ข้าไปหาท่านหมอเป็นเพื่อนเจ้าดีกว่า”

“ไม่ต้อง”ลู่ม่านลองขยับแขนด้วยตนเอง น่าจะไม่กระทบกระเทือนถึงกระดูก แต่ชนแรงไปหน่อย รู้สึกปวดอยู่บ้าง

ลุกขึ้นกำลังจะเตรียมตัวกลับ เฉินเหมยเซียงก็รีบตามไป “ข้าจะไปส่งเจ้า”

ลู่ม่านพยักหน้า ทั้งสองค่อยๆเดินไป เฉินเหมยเซียงลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แม่นางลู่ เจ้าจะโทษข้าหรือไม่”

ลู่ม่านนิ่งอึ้ง “เพราะอะไร”

“ที่จริงเมื่อครู่ นางได้ทำผิดกฎของโรงงานเราที่กำหนดเอาไว้ ที่จริงข้าสามารถฉวยโอกาสนี้ไล่นางออกไปได้ ไม่จำเป็นต้องให้เงิน แต่ว่า ข้ากลับเลือกที่จะจ่ายค่าแรง……”

ลู่ม่านเลิกคิ้วเล็กน้อย “แล้วทำไมเจ้าจึงเลือกทำเช่นนี้เล่า”

“เพราะว่า ……”เฉินเหมยเซียงกลับไปเป็นผู้หญิงที่ดูอ่อนโยนและอ่อนแอคนนั้นอีกครั้งแล้ว “ที่จริงฐานะที่บ้านของนางก็ไม่ได้ดีมาก สามีนางป่วย นอนซมอยู่บนเตียงตลอดปี……”

เฉินเหมยเซียงเหมือนจะเข้าในความลำบากของนางดี “คงเป็นเพราะว่านางถูกปลดจากตำแหน่ง ทำให้เงินที่ได้น้อยลงไปมาก จึงได้ทำตัวเป็นปรปักษ์กับข้า”

ลู่ม่านจึงยิ้มออกมา “ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า บางครั้งการทำงานก็โหดเหี้ยมเช่นนี้เอง ผู้ที่มีความสามารถจึงจะอยู่ได้ แต่ว่า เจ้าคิดถึงมุมของนางเช่นนี้ข้าก็รู้สึกว่าดีมาก ใช้ทั้งความดีและการลงโทษในเวลาเดียวกัน”

เฉินเหมยเซียงเห็นว่าลู่ม่านไม่ได้โกรธจริงๆ ในที่สุดจึงยิ้มออกมา

ลู่ม่านเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พูดว่า “ถ้าหากเป็นห่วงนาง ในโรงงานของเรายังมีงานฝีมือที่ยังไม่ได้ส่งออกไปอีกมากไม่ใช่หรือ เจ้าให้นางมากหน่อยก็ได้”

เฉินเหมยเซียงพยักหน้า “ขอบคุณแม่นางลู่ ”

เสียเวลาที่โรงงานอยู่ตลอดช่วงบ่าย ขอบฟ้าค่อยๆกลายเป็นสีแดง เมื่อก่อน ในเวลาเช่นนี้ลู่ม่านนั้นอยากจะกลับบ้านโดยเร็วที่สุด แต่ว่าวันนี้ นางกลับไม่อยากจะกลับไปเลยสักนิด

แม้จะยุ่งตลอดทั้งบ่าย แต่ก็ยังคงลืมสายตาที่เป็นประกายของหญิงสาวคนนั้นไม่ได้

ระหว่างที่คิด ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าเดินมา จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงของเฉินจื่ออาน “เสี่ยวม่าน ทำไมเจ้าจึงมาอยู่ที่นี่”

ลู่ม่านไม่ตอบ ยังคงค่อยๆเดินไปข้างหน้า

เฉินจื่ออานรีบตามขึ้นไป อยากจะดึงแขนของนางเอาไว้ และแตะเข้าที่แขนที่ได้รับบาดเจ็บของลู่ม่านพอดี ลู่ม่านซี้ดปาก หดแขนกลับไป

เฉินจื่ออานตกใจ รีบดึงแขนของลู่ม่านไปอีกครั้ง และสำรวจอย่างละเอียด บนข้อมือขาวนวลนั้น เกิดรอยช้ำขึ้นมาแล้ว ค่อนข้างสะดุดตาทีเดียว

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ”เฉินจื่ออานร้อนใจมาก “ยังได้รับบาดเจ็บตรงไหนอีกหรือไม่”

ลู่ม่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”

เฉินจื่ออานค่อยสบายใจลงหน่อย ยื่นมือไปกุมมือของลู่ม่าน “เสี่ยวม่าน ทำไมวันนี้เจ้าจึงกลับบ้านเร็วนัก ”

ลู่ม่านกัดริมฝีปาก นางไม่ใช่หญิงสาวประเภทอมพะนำเอาไว้ อัดอั้นมาตลอดทั้งบ่าย นางแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากจะรู้สึกเช่นนี้อีกต่อไปแล้วจริงๆ

อ้าปากขึ้น ลู่ม่านเอ่ยออกมาว่า “จื่ออาน ก่อนที่ข้าจะปรากฏตัวขึ้น เจ้าเป็นคนอย่างไร”

เฉินจื่ออานนิ่งอึ้ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มซื่อบื้อที่คุ้นเคยของเขาออกมา “เสี่ยวม่าน ทำไมจู่ๆถึงได้ถามเช่นนี้เล่า”

“ข้าก็แค่อยากจะรู้ ก่อนหน้านี้เจ้ามีหญิงสาวที่หมายปองหรือไม่ ”ลู่ม่านสูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง รอคำตอบของเฉินจื่ออาน

แทบจะเป็นความเร็วในชั่วพริบตาเท่านั้น เฉินจื่ออานจับมือของลู่ม่านเอาไว้ “เสี่ยวม่าน เจ้าพูดอะไรเหลวไหล มีคนมานินทาอะไรกับอีกแล้วหรือ ”

“ไม่มี”ลู่ม่านปลดมือออกอีกครั้ง “ข้าเป็นคนเห็นเองกับตา”

“หา”เฉินจื่ออานรู้สึกประหลาดใจ “เจ้าเห็นอะไร”

“ข้าเห็นทั้งหมดนั่นแหละ เห็นนางเงยหน้ามองท่าน ในดวงตาเป็นประกายเชียว”ลู่ม่านรู้สึกตื้อตันที่จมูก แต่เฉินจื่ออานยิ่งรู้สึกมึนงงเข้าไปใหญ่ ”เสี่ยวม่าน เจ้าพูดถึงใครกันแน่”

“ผู้หญิงคนนั้นในงานเลี้ยง……”ลู่ม่านกัดฟันเค้นคำพูดออกมาทีละคำ

“อ๋อ”ในที่สุดเฉินจื่ออานก็เข้าใจ จึงรีบอธิบายให้นางฟังอย่างร้อนใจว่า “เสี่ยวม่าน เจ้าเข้าใจผิดแล้ว นั่นเป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านเฉิน ชื่อเฉินชิวหยู่

ที่แท้ก็เป็นลูกสาวของผู้ใหญ่บ้านเฉิน ลู่ม่านขมวดคิ้วขึ้นมา

“ข้ากับนางไม่ได้มีอะไรกัน ”เฉินจื่ออายยิ้มราวกับยกภูเขาออกจากอกไปได้และพูดว่า“นาง……”

ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ด้านหลังก็มีเสียงคนร้องเรียกขึ้นมา “จื่ออาน ทำไมพวกเจ้าสองคนยังอยู่ที่นี่ ท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้าทะเลาะกันอีกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน