ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 193

ลู่ม่านค่อนข้างเชื่อว่าเป็นประการหลัง คาดว่าเขาคงคิดว่าเป็นการทะเลาะกันเล็กน้อย ไกล่เกลี่ยไปสะเปะสะปะได้แล้ว

ไหนเลยจะคาดคิดว่า ตาแก่เฉินจะไม่ได้เตรียมพื้นที่ที่จะให้เขาช่วยไกล่เกลี่ยเลยด้วยซ้ำ ในขณะที่เขายังไม่ทันได้นั่ง ตาแก่เฉินก็เอ่ยขึ้นมาทันทีว่า

“พี่ใหญ่ ที่ข้าเรียกท่านมาวันนี้ ก็เพื่อจะให้ท่านรับหลี่ซื่อกลับไป”

หลี่ขุยนิ่งอึ้ง “นี่มันเรื่องอะไรกัน”เหมือนเขายังมองสถานการณ์ไม่ออก ยังคงแสร้งโง่และพูดว่า “น้องเล็กของข้าคิดบ้านอย่างนั้นหรือ อยากจะกลับไปเยี่ยมบ้านซินะ”

พูดจบ เขาก็มีสีหน้าลำบากใจ “น้องเล็กคิดถึงบ้านก็เรื่องธรรมดา ที่จริง ที่จริงพี่ควรจะให้เจ้ากลับไปอยู่สักระยะ เพียงแต่ที่บ้านลำบากเหลือเกิน ไหนเลยจะมีที่ให้อยู่”

ชิ ช่างเป็นพวกเจ้าเล่ห์เสียจริง

ก่อนที่ตาแก่เฉินจะได้เอ่ยปากพูด ก็ปิดกั้นเส้นทางที่จะหันหลังกลับไปของเฉินหลี่ซื่อเสียแล้ว

คนที่อยู่ในเหตุการณ์ น่าจะพอฟังออก มีเพียงเฉินหลี่ซื่อเท่านั้น ที่ฟังไม่ออกถึงความหมายในคำพูดนั้น

นางยังคงคิดว่า ที่พี่ชายมาก็เพื่อมาเป็นที่พึ่งพาของตน ทันใดนั้นก็โผเข้าไป ร้องไห้ขึ้นมา “พี่ใหญ่ เขาจะหย่ากับข้า”

หลี่ขุยผลักเฉินหลี่ซื่อออกและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “จะเป็นไปได้ยังไง เจ้าห้าแต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนดูแลครอบครัวอย่างดี ในหมู่บ้านไป่ฮัวนี้ใครบ้างไม่รู้ว่าเจ้าห้านั้นเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากแค่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่จะหย่ากับคู่ทุกข์คู่ยากของตนเอง เจ้าต้องฟังผิดแน่ๆ”

ถูกกล่าวหาทั้งที่ไม่เป็นความจริงอีกแล้ว หลี่ขุยยิ้มอย่างจริงใจ

ถ้าหากเป็นตาแก่เฉินที่เห็นแก่ศักดิ์ศรีเช่นแต่ก่อน คงถูกเขาทำให้ต้องกล้ำกลืนสิ่งที่คิดอยู่กลับเข้าไปในใจ แต่ว่าตอนนี้ ศักดิ์ศรีทั้งหมดของตาแก่เฉินได้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว ไหนเลยยังจะมีเกียรติให้รักษา

ได้ยินถึงตรงนี้ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ที่คอไม่คายออกไปคงไม่สบายใจต เอ่ยอย่างแน่วแน่ว่า

“นางได้ยินไม่ผิด วันนี้ข้าจะหย่ากับเมีย”พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินตรงไปทางผู้ทำบันทึกที่อยู่ทางด้านหลัง เอาหนังสือหย่าที่เขียนเสร็จแล้วขึ้นมา ยื่นให้กับหลี่ขุย

“รบกวนพี่ใหญ่พานางกลับไปด้วย”

ทีนี้หลี่ขุยมองตาค้างทีเดียว “เจ้าห้า หรือมันจะไม่มีวิธีที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเลยหรือ”

“ไม่มีแล้ว”ตาแก่เฉินได้เล่าเรื่องราวแปลกประหลาดต่างๆที่เฉินหลี่ซื่อทำทั้งหมดด้วยความเคียดแค้นชิงชังอีกรอบ หลังจากเล่าทั้งหมดให้หลี่ขุยฟังแล้ว เขาก็หันหลังให้

ทันใดนั้นหลี่ขุยก็ฟาดฝ่ามือลงไปที่หน้าของเฉินหลี่ซื่อ “เจ้านี่มันเหลวไหลจริงๆ”

เฉินหลี่ซื่อถูกตบจนรู้สึกมึนงง มองหลี่ขุยอย่างไม่เข้าใจ

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ หลี่ขุยได้โยนหนังสือหย่าที่อยู่ในมือให้กับเฉินหลี่ซื่อ “ที่บ้านยังมีงานรออยู่ ข้าต้องกลับก่อน”

“พี่ใหญ่”เฉินหลี่ซื่อไม่กล้าเชื่อสายตาตนเอง “พี่ใหญ่ หรือว่าท่านจะไม่สนใจข้าด้วยคนอย่างนั้นหรือ”

“หึ……”หลี่ขุยทำเสียงในลำคอ “ไม่ใช่ข้าไม่สนใจเจ้า ถ้าหากเจ้ากลับไปแล้ว คนอื่นจะมองพวกเราอย่างไร อายุปูนนี้แล้วยังถูกหย่าและส่งกลับบ้านมารดาไป ลูกสาวในครอบครัวของพวกเรา วันหน้าจะแต่งงานออกเรือนอย่างไร ”

“แต่ข้าเป็นน้องสาวพี่นะ ”เฉินหลี่ซื่อที่แต่ไหนแต่ไรก็ถูกเอาใจ บวกกับหลายปีมานี้ฐานะทางบ้านก็ดีขึ้น พวกญาติพี่น้องนับว่าต่างก็ดีกับนาง จึงทำให้นางคิดว่าพวกเขานั้นดีกับนางด้วยใจจริง

แต่นางกลับลืมไปว่า เมื่อก่อน ตอนที่นางไม่มีเงินพวกเขาแทบไม่เคยจะมาสนใจนางเลย แม้แต่การกลับบ้านมารดา ก็ไม่มีใครสนใจ

หลี่ขุยไม่สนใจเฉินหลี่ซื่ออีก หลังจากเดินออกจากประตู เขาก็ไม่หันหน้ากลับมามองด้วยซ้ำ แน่นอนว่า ก่อนจะจากไป ยังไม่ลืมที่จะเอาของว่างที่ติดมือมาด้วยกลับไป

เฉินหลี่ซื่อเสียใจและสิ้นหวัง ค่อยๆเก็บหนังสือหย่าที่ตกอยู่บนพื้น ในวินาทีนั้นเอง นางจึงรับรู้ว่า ตัวเองนั้นน่าจะทำผิดไปแล้วจริงๆ

ตาแก่เฉินเห็นดังนั้น ก็รู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา

ทำท่าจะพูด ในที่สุดเขาก็พูดออกมา “เจ้ากลับไปสำนึกผิด หากภายหน้า……”คำพูดต่อจากนั้น เขาไม่ได้พูดออกมา

สิ่งที่เขาอยากจะพูดคือ ถ้าหากภายหน้าเจ้ากลับใจได้แล้ว ค่อยกลับมา

แต่ว่าตอนนี้เขาไม่กล้าพูด นิสัยแข็งกร้าวของเฉินหลี่ซื่อนั้นเขารู้ดี ถ้าหากพูดออกไปตอนนี้ นางคงไม่มีทางกลับใจได้

“ไปกันเถอะ”คนรุ่นหลังหลายคนในตระกูล หามตัวเฉินหลี่ซื่อขึ้นมา ผลักไปทางด้านนอก

เฉินหลี่ซื่อจับมือของเฉินหลิ่วเอ๋อไว้แน่นไม่ปล่อย ร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย “หลิ่วเอ๋อ แม่ไม่อยากจากเจ้าไป”

เฉินหลิ่วเอ๋อก็ใช้แรงยื้อเฉินหลี่ซื่อเอาไว้ แต่ว่าในที่สุดก็ถูกพรากแม่ไป

ตาแก่เฉินที่เห็นเมียเก่าตนเองถูกคนลากออกไป ก็รู้สึกไม่พอใจ เอ่ยเตือนขึ้นมาเบาๆว่า “เบาหน่อย ไม่ต้องรีบร้อน”

ลู่ม่านเห็นดังนั้น ก็มองเฉินจื่ออานที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยสีหน้าไม่ดีเลย คิดอยากจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่เหมือนมีอะไรติดอยู่ที่คอ

นิ่งเงียงมาเป็นเวลานานเพิ่งจะเปิดปากพูดตามที่ใจคิด “เห็นทีท่านพ่อคงอยากจะให้ท่านแม่กลับไปคิดทบทวนตัวเองดีๆ ท่านก็อย่าเป็นกังวลนักเลย ”

เฉินจื่ออานพยักหน้า ครั้งนี้ท่านแม่ทำเกินไปจริงๆ สามารถคิดทบทวนพฤติกรรมตัวเองก็ดี

ทั้งสองคนยังไม่ทันพูดจบ ไม่รู้ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อพุ่งออกมาจากทางไหนอย่างกะทันหัน นางพุ่งตรงอย่างรวดเร็วไปยังทางด้านหลังของตาแก่เฉิน เห็นเพียงแสงเย็นๆที่ส่องประกาย เฉินหลิ่ว มีดหั่นผักในมือเฉินหลิ่วเอ๋อได้ฟันฉับลงไปยังไหล่ของตาแก่เฉินแล้ว

“ท่านมันผู้ชายที่ชอบล้อเล่นกับความรู้สึกผู้หญิง อาศัยอะไรมาหย่า”

เฉินหลิ่วเอ๋อเต็มไปด้วยความโมโห พอดีกับที่ลู่ม่านจับแววตาของนางได้ เหมือนกับแววตาในวันนั้นวันที่หลี่ยวี่ได้ปฏิเสธนาง หรือบางที การกระทำของนางครั้งนี้ อาจไม่ได้เกิดจากสาเหตุในวันนี้

แต่เป็นการทอดทิ้งของหลี่ยวี่ ทำให้หัวใจนางเกิดความเกลียดชังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้น ความเกลียดชังเช่นนี้ก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้งจากการที่ตาแก่เฉินหย่าแม่ของตน กระทบกระเทือนต่อนางอย่างรุนแรง

ทุกคนที่เห็นสถานการณ์ต่างก็เงียบไปชั่วครู่จากนั้นก็เกิดความโกลาหลขึ้นมา มีคนร้องเสียงแหลมว่า “อ๊าก ฆ่ากันแล้ว”

จากนั้น คนที่มุงกันอยู่อย่างแน่นขนัดต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง เฉินจื่ออานอยู่ใกล้กับตาแก่เฉิน เขารีบเข้าไปประคองตาแก่เฉินที่กำลังจะล้มลงไปกับพื้น

“ท่านพ่อ……”

ผู้ใหญ่บ้านก็ตกใจมาก ร้องตะโกนเสียงดังว่า “เร็วเข้า ให้คนไปเรียกท่านหมอมา ส่วนคนอื่นๆ รีบมัดตัวเฉินหลิ่วเอ๋อเอาไว้”

“อย่า อย่ามัด”แม้ว่าตาแก่เฉินจะตกใจกับการที่ถูกเฉินหลิ่วเอ๋อฟันตนเองจนได้รับบาดเจ็บ แต่ในเวลาสำคัญก็ยังคงเป็นห่วง ว่าชื่อเสียงของลูกสาวตนเองจะทำให้เสื่อมเสียไมได้

ผู้ใหญ่บ้านเฉินขมวดคิ้วแน่น “เรื่องนี้จะฟังท่านไม่ได้”พูดจบแล้ว เขาก็หันไปแสดงเจตนารมณ์กับคนที่อยู่ด้านหลัง

ตาแก่เฉินส่ายหน้าอย่างแรง “นางยังเป็นแค่หญิงสาวคนหนึ่ง ไม่มีอันตรายอะไร เมื่อครู่คงเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ……”

ตาแก่เฉินหนักแน่นมาก ทันใดนั้นผู้ใหญ่บ้านเฉินก็คิดถึงลูกสาวของตนเอง ในที่สุดก็พยักหน้า “ก็ได้”

ตาแก่เฉินพูดจบ ก็เหมือนจะหมดเรี่ยวแรงทั้งร่างกาย อ่อนยวบลงทันที

พอดีที่ท่านหมอมาแล้ว จึงยกตาแก่เฉินไปรักษาด้านใน เพราะเหตุวุ่นวายนี้ เฉินหลี่ซื่อจึงถูกปล่อย นางรีบวิ่งเข้าไปกอดเฉินหลิ่วเอ๋อเอาไว้ มีนางอยู่ อารมณ์ของเฉินหลิ่วเอ๋อก็ค่อยๆสงบลงบ้าง

โชคดี แม้ว่าบาดแผลจะลึก แต่ก็ไม่ได้ถูกจุดสำคัญในร่างกาย หลังจากท่านหมอห้ามเลือดให้กับตาแก่เฉินแล้ว ก็ให้ยาต้มเอาไว้และจากไป

คนในหมู่บ้าน หลังจากที่มีเหตุการณ์ฟันกันเกิดขึ้น ต่างก็แยกย้ายกันไปแล้ว

แต่ว่า เรื่องที่เฉินหลิ่วเอ๋อใช้มีดฟันคน ได้ถูกกระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว คิดว่า ชื่อเสียงของเฉินหลิ่วเอ๋อ คงจะป่นปี้แล้ว

แม่หม้ายหนิวเห็นว่าเรื่องราวบานปลายใหญ่โต ก็กลับบ้านไปแล้ว

พวกลู่ม่านกับผู้ใหญ่บ้านเฉินกลับยังคงรอให้ตาแก่เฉินฟื้นขึ้นมา เพียงแต่ค่ำคืนนี้เหมือนจะยาวนานกว่าปกติ ในช่วงก่อนฟ้าสาง ตาแก่เฉินก็ตื่นขึ้นมาอย่างเจ็บปวด

เฉินหลิ่วเอ๋อได้นอนหลับไปแล้ว เฉินหลี่ซื่อรีบยกยาต้มเข้ามาจากทางด้านนอก “ข้าต้มเองกับมือ ท่านหมอบอกว่าสามารถระงับปวด……”

เป็นครั้งแรกที่ลู่ม่านเห็นเฉินหลี่ซื่อยอมลดตัวลงมาเพื่อประจบประแจง ไม่มีทีท่าเอาแต่ใจไร้เหตุผลเหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด ทำให้รู้สึกว่า จะว่าอย่างไรดี น่าสงสารเล็กน้อย

แต่ว่า เมื่อใช้กับตัวเฉินหลี่ซื่อก็คงพูดได้เพียงว่าที่ต้องตกอยู่ในสภาพน่าสงสาร เพราะการกระทำก่อนหน้านี้ของตนแท้ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน