ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 194

เฉินหลี่ซื่อค่อยๆเดินไปที่ข้างเตียง ยังไม่ทันถึงข้างเตียง ตาแก่เฉินก็ได้หันไปมองทางเฉินจื่ออาน “เอายามาให้ข้า”

เฉินจื่ออานเม้มปาก เฉินหลี่ซื่อยื่นถ้วยยาให้กับเฉินจื่ออานอย่างผิดหวัง “ป้อนพ่อเจ้าด้วย”

พูดจบ นางก็เดินออกไปพร้อมกับหันกลับมามองตาแก่เฉินเป็นระยะ

แต่ว่าที่สุดแล้วตาแก่เฉินก็ไม่ได้มองนางอีกเลย สุดท้ายเฉินหลี่ซื่อได้แต่ปิดประตูเดินออกไป

เฉินจื่ออานป้อนยาให้กับตาแก่เฉินแล้ว จึงลุกขึ้นมามองไปทางเฉินจื่อฟู่ที่กำลังหาวเพราะง่วงนอน “พี่รอง พี่ไปพักเถอะ”

เฉินจื่อฟู่ตื่นขึ้นมาทันที เห็นตาแก่เฉินฟื้นแล้ว เขาก็รีบเข้าเอ่ยอย่างเป็นห่วงว่า “ท่านพ่อ ท่านตื่นแล้วหรือ รู้สึกอย่างไรบ้าง”

ตาแก่เฉินผิดหวังในตัวเฉินจื่อฟู่มาก ได้แต่บอกไปอย่างเรียบเฉยว่า “เจ้ากลับไปเถอะ”

แต่เหมือนเฉินจื่อฟู่จะตื่นอย่างเต็มที่ก็คราวนี้เอง เขารีบยกถ้วยยาที่อยู่บนหัวเตียงของตาแก่เฉินออกอย่างใส่ใจ นั่งลงตรงหัวเตียงถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย

“ท่านพ่อ ท่านไม่สบายตรงไหน บอกข้า……”

ตาแก่เฉินไม่สนใจเขา แต่มองไปทางเฉินจื่ออาน “พี่ใหญ่ของเจ้าล่ะ”

“พี่ใหญ่เปิดร้านอยู่ในเมือง เมื่อครู่ข้าได้ให้คนไปส่งข่าวให้เขาแล้ว พรุ่งนี้เขาน่าจะเดินทางกลับมาแต่เช้า”

ตาแก่เฉินโบกมือ “ช่างเถอะ บอกเขาว่าไม่ต้องกลับมา สุขภาพข้ายังดีอยู่ เรื่องในบ้านทำเอาพวกเจ้าต่างก็เหนื่อยไปตามๆกัน ข้าพักผ่อนสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว”

“อืม”เฉินจื่ออานพยักหน้า

อาจเป็นเพราะว่าตาแก่เฉินได้กินยาแล้ว อาการปวดจึงบรรเทาลงไปบ้าง และยังพูดอย่างสะลึมสะลือว่า “พวกเจ้าทั้งหมดกลับไปเถอะ”

เฉินจื่ออานเห็นดังนั้น และลากตัวเฉินจื่อฟู่ออกไปด้วย

หลิวซื่อเห็นดังนั้น ก็เดินตามไปพูดกับลู่ม่านว่า

“พวกเจ้ากลับไปเถอะ ที่นี่มีข้าอยู่”แม้ว่าหลิวซื่อจะไม่พูดจา แต่เป็นคนในบ้านที่ทำงานน่าเชื่อถือที่สุด

เพียงแต่เฉินจื่ออานได้แต่ส่ายหน้า “พี่สะใภ้รอง ท่านก็ไปพักผ่อนเถอะ เสี่ยวม่านก็กลับไปด้วย ข้าจะอยู่เฝ้าที่นี่เอง……”

กำลังพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นนอกประตูก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้น คนกลุ่มหนึ่งวิ่งผ่านหน้าประตูไป ในมือต่างก็ถือคบเพลิงเอาไว้

เฉินจื่ออานรีบออกไปดึงหนึ่งในกลุ่มคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งและถามขึ้นว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

“จื่ออาน ข้าคิดว่าเจ้ารู้แล้วเสียอีก แม่หม้ายหนิวตั้งแต่กลับไปจากที่นี่ ก็พบว่าลูกชายของนางหายไปแล้ว นางก็เลย ออกมาขอร้องผู้ใหญ่บ้านกลางดึก ให้พวกเราช่วยกันออกค้นหา……”

“ว่าไงนะ หวังต้าลี่หายตัวไปหรือ ”เรื่องหนึ่งยังไม่ทันสงบก็มีเรื่องใหม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

ลู่ม่านคิดถึงท่าทีของหวังต้าลี่เมื่อตอนเย็นที่ดูเหมือนถูกเหยียดหยาม ในใจก็รู้สึกค่อยๆไม่สบายใจขึ้นมา ปกติแล้ว ลูกชายที่อยู่ในครอบครัวที่มีแม่เป็นผู้เลี้ยงดูคนเดียวนั้นมีจิตใจที่รักเกียรติและศักดิ์ศรีค่อนข้างสูง แต่ความสามารถในการรับแรงกดดันนั้นอ่อนแอมาก

เขาเห็นกับตาตัวเองว่า แม่ของตนถูกคนอื่นชี้หน้าด่าว่าเป็นคนที่ทำลายครอบครัวผู้อื่นต่อหน้าผู้คนมากมาย เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเกิดคิดสั้น……

“ข้าไปด้วย”เฉินจื่ออานก็ไม่สนใจเรื่องที่จะอยู่ที่นี่แล้ว หันกลับไปพูดกับหลิวซื่อประโยคหนึ่ง แล้วก็ออกไป

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พบว่าลู่ม่านตามออกมาด้วย เฉินจื่ออานรีบหันไปพูดกับลู่ม่านว่า “ข้าไปคนเดียวก็พอแล้ว เจ้ากลับบ้านไปก่อน ”

“มีคนมากขึ้นหนึ่งคนก็มีแรงมากขึ้นหนึ่งแรง”ลู่ม่านพูดอย่างสบายๆ แล้วก็ยื่นคบไฟที่หลิวซื่อเอาให้เมื่อครู่ให้กับเฉินจื่ออาน

หลังจากที่เฉินจื่ออานจุดคบเพลิง ก็พาลู่ม่านเดินตามกลุ่มคนไปด้านหน้า

ไม่มีใครรู้ว่าหวังต้าลี่ไปที่ไหน เพราะฉะนั้นทุกคนจึงวิ่งตามหากันวุ่นวายไปหมด สุดท้าย เป็นลู่ม่านที่พูดเตือนขึ้นว่า “ทุกคนช่วยกันทบทวนความทรงจำได้หรือไม่ ว่าปกติแล้วหวังต้าลี่ชอบไปสถานที่แห่งใด”

ทุกคนต่างก็ส่ายหน้า “ปกติแล้วหวังต้าลี่คนนี้ไปไหนมาไหนคนเดียว ใครจะไปรู้ว่าเขาชอบไปที่ใด”

“ใช่แล้ว เจ้านี่มันนิสัยแปลกประหลาด……”

เพียงแต่มีคนหนึ่ง ก็คือเจ้าพ่อพวงมาลัยคนนั้นที่ถูกหวังต้าลี่สั่งสอนไปเมื่อตอนเย็นพูดขึ้นด้วยเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจนัก “เจ้าเด็กนี่จะไปไหนได้ ถ้าไม่ใช่ริมแม่น้ำ จะฆ่าตัวตายไงเล่า”

“ปกติหวังต้าลี่ชอบไปที่ริมแม่น้ำหรือ”ลู่ม่านถาม

“อืม”เมื่อพ่อพวงมาลัยคนนั้นอยู่ต่อหน้าลู่ม่าน กลับถือว่าสุภาพอยู่บ้าง ที่สำคัญคือ เป็นคนตระกูลเดียวกับเฉินจื่ออาน

อีกอย่าง เขารู้ดีว่าตนเองสู้เฉินจื่ออานไม่ไหว

“ทุกคนพยายามไปตามหาที่ริมแม่น้ำกันเถอะ”เฉินจื่ออานพูด

ทุกคนได้ยินแล้ว ต่างก็เดินไปทางแม่น้ำในหมู่บ้านสายนั้น แม่น้ำสายน้ำเปรียบเสมือนกับสถานที่กักเก็บน้ำในยุคปัจจุบัน ใช้เก็บน้ำไว้ใช้โดยเฉพาะ เพื่อใช้ในการเกษตรยามเข้าสู่หน้าแล้ง

ปีนี้ยังไม่เคยเกิดสถานการณ์ภัยแล้ง น้ำที่สะสมในแม่น้ำตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงปีนี้ทั้งปี ค่อนข้างสูง ถ้าหากหวังต้าลี่มีความคิดที่อยากจะฆ่าตัวตาย เช่นนั้นเวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เกรงว่า……

ทุกคนต่างก็ไม่กล้าจะคิดต่อ ต่างก็วิ่งตรงไปยังแม่น้ำสายนั้น

แม่หม้ายหนิวเองก็ออกตามหาพร้อมกับกลุ่มคนมาถึงตรงนี้พอดี ได้ยินพวกเขาคุยกันว่าลูกชายนางอาจจะกระโดดแม่น้ำ นางก็ตกใจมาก รีบตามไปทันที สองขาอ่อนแรงไปหมด

ลู่ม่านประคองนางเอาไว้ พานางไปที่ริมแม่น้ำด้วยกัน

แม่น้ำในยามค่ำคืน มองจากที่ไกลๆ ขาวโพลนราวกับผลึกแก้วแผ่นใหญ่ พวกผู้ชายต่างก็ถือคบไฟพุ่งไปที่ตลิ่ง ร้องตะโกนไปยังผืนน้ำ

ทันใดนั้นก็มีคนบอกว่า “ที่นี่มีร่องรอยอยู่ด้วย”

ทุกคนต่างก็กรูเข้าไป อาศัยแสงจากคบเพลิง มองเห็นบริเวณที่เป็นแอ่งแห่งหนึ่ง มีรอยเท้าคนทิ้งเอาไว้

เฉินจื่ออานมองดูแล้วจึงพูดขึ้นว่า “เดินตามรอยเท้านี้ไป ทุกคนลองหาดูรอบๆให้ทั่ว”

ไม่ช้า ทุกคนต่างก็กระจายออกไป ลู่ม่านกลับมองไปยังใจกลางแม่น้ำอย่างรู้สึกเป็นห่วง ผิวแม่น้ำที่ขาวโพลน ทันใดนั้นก็มีเงาสีดำสายหนึ่งผุดขึ้น ลู่ม่านหัวใจกระตุก ตะโกนขึ้นว่า “ดูตรงนั้น”

วินาทีต่อมา มีคนร้องเสียงหลงขึ้นมาว่า “นั่นมันหวังต้าลี่”

ทันใดนั้น ยังไม่ทันพูดจบประโยค เฉินจื่ออานก็กระโดดลงไปในแม่น้ำแล้ว คนหนุ่มในหมู่บ้านที่ว่ายน้ำเก่งต่างก็กระโดดตามลงไปในแม่น้ำ ไม่ช้าหวังต้าลี่ก็ถูกดึงขึ้นมาบนฝั่ง

“ต้าลี่!” แม่หม้ายหนิวร้องไห้จนแทบขาดใจ

เฉินจื่ออานรีบให้คนดึงตัวนางออกไปก่อน จากนั้นก็ยื่นมือไปใต้จมูกของหวังต้าลี่ วินาทีต่อมา ดวงตาของเขาก็หม่นลง “ไม่มีลมหายใจแล้ว”

“ต้าลี่ ต้าลี่ของแม่”แม่หม้ายหนิวเสียการควบคุมไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ผลักทุกคนที่กันนางเอาไว้ออกไป โผไปทางหวังต้าลี่“ทำไมเจ้าจึงคิดสั้นเช่นนี้ ถ้าเจ้าตายไปแล้ว แม่จะอยู่อย่างไร”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว นั่งลงและมองไปยังหวังต้าลี่

ร่างของเขายังไม่มีอาการบวมน้ำ แสดงว่าเพิ่งจะจมน้ำไม่นาน น่าจะยังมีโอกาสช่วยชีวิตได้ ตอนที่อยู่ในยุคปัจจุบัน เด็กๆที่อยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าต่างก็เคยได้รับการสอนเกี่ยวกับการช่วยเหลือเบื้องต้นในกรณีฉุกเฉิน

เรื่องที่เกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นในการช่วยคนจมน้ำ ลู่ม่านก็มีความรู้อยู่บ้าง

“เร็วเข้า ทุกคนรีบถอยออกไปกันก่อน”ลู่ม่านพูดขึ้นอย่างร้อนใจ

แม่หม้ายหนิวจ้องมองลู่ม่านอย่างแค้นใจ “พวกเจ้าคนของตระกูลเฉิน อย่ามาทำเสแสร้งที่นี่หน่อยเลย”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว แต่ชีวิตคนสำคัญกว่า ยังคงอธิบายเหตุผลให้ฟังอย่างอดทนว่า “ลูกชายของเจ้าบางทีอาจมีโอกาสรอดได้ แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้ายังอยากจะให้ลูกชายมีชีวิตรอดหรือไม่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน