ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 196

ลู่ม่านมองเฉินจื่ออานที่ทำหน้าราวกับไม่ใส่ใจเลยสักนิดอย่างไม่พอใจ ที่แท้ก็เป็นคนซื่อบื้อจริงๆ

ถ้าหากเฉินชิวหยู่ไม่ชื่นชอบเขา ในเมื่อนางปฏิเสธการจับคู่ของพ่อแม่ได้ เช่นนั้นนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปหาเฉินจื่ออานเพื่อสารภาพรักแล้ว ฉะนั้น คำอธิบายของเฉินจื่ออานนั้นฟังไม่ขึ้นเลย

เพียงแต่ เฉินจื่ออานบอกว่าเขาไม่เคยชื่นชอบเฉินชิวหยู่ ลู่ม่านมองออก ว่าเขาไม่ได้โกหก

นางเองก็เคยมีคนที่เคยรักมาก่อน ในยุคปัจจุบัน นางก็มีแฟนเก่าไม่ใช่หรือไง ถ้าหากจะเอาเรื่องพวกนี้มาเป็นข้อต่อรองกับเฉินจื่ออานละก็ ฟังดูไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

ลู่ม่านคิดถึงตรงนี้ก็ยิ้มออกมา ตอนแรกตนเองได้คุยกับเฉินจื่ออานเรียบร้อยแล้วมิใช่หรือ จะประคับประคองซึ่งกันและกัน เชื่อใจซึ่งกันและกันมิใช่หรือ หรือว่าเธออยู่ในฐานะสาวน้อยมานาน ก็เลยมีนิสัยขี้น้อยใจขึ้นมาอย่างนั้นหรือ

เฉินจื่ออานที่อยู่ทางด้านหลังเห็นว่าลู่ม่านไม่พูดจา ก็ร้อนใจขึ้นมาอีกครั้ง “เสี่ยวม่าน ทำไมเจ้าไม่พูดจา สิ่งที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง ถ้าหากข้าโกหกละก็ ข้า ……ขอให้ข้าถูกฟ้าผ่า”

ลู่ม่านรู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา หมุนร่างไปจ้องมองเฉินจื่ออาน “ใครว่าเจ้าพูดโกหกกันเล่า”

“น้องนาง เจ้าเชื่อข้าใช่หรือไม่ ”เฉินจื่ออานจึงโล่งอก รั้งตัวลู่ม่านเข้ามาในอ้อมอกอีกครั้ง ใบหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ

“น้องนาง เมื่อครู่ข้าตกใจมากจริงๆ ”

“หืม”ลู่ม่านไม่เข้าใจ

เฉินจื่ออานถอนหายใจเฮือกหนึ่ง “ข้าเห็นป้าหนิวต้องจากไปเช่นนั้น รู้สึกไม่สบายใจจริงๆ คนเป็นๆทั้งคน ต้องจากไปเพราะเรื่องเข้าใจผิดเล็กน้อยเท่านั้น ข้ากลัวจริงๆ น้องนางเดิมทีเจ้าก็เป็นนางฟ้าที่ฟ้าประทานมาให้ข้า ถ้าหากเป็นเพราะเจ้าเข้าใจผิด แล้วไปจากข้า……”

“ตาทึ่ม”ลู่ม่านตัดบทเขาอย่างไม่พอใจ

“น้องนางว่าข้าเป็นอะไร ข้าก็เป็นอย่างนั้น ”เฉินจื่ออานพูดอย่างเอาใจ ฝีมือในการเกี้ยวสาวยิ่งอยู่ก็ยิ่งพัฒนาขึ้นแล้ว ลู่ม่านทำเสียงหึในลำคอ

เปลี่ยนกิริยาใหม่เพื่ออิงแอบอยู่ในอ้อมอกของเฉินจื่ออาน “ป้าหนิวตายไปแล้ว หวังต้าลี่ตัวคนเดียวก็น่าสงสารมาก วันหน้า พวกเราต้องช่วยเหลือเขาให้มาก……”

“อืม ต้องช่วยอยู่แล้ว”เฉินจื่ออานพูด

พูดจบ ทั้งสองคนก็เงียบไปชั่วครู่ ในที่สุดก็นอนหลับไป

เมื่อตื่นขึ้นมา ก็เป็นเวลาเย็นแล้ว เรื่องที่ป้าหนิวฆ่าตัวตายได้กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว คนในหมู่บ้านได้ออกหน้าช่วยจัดงานศพให้

ตาแก่เฉินพยายามฝืนร่างกายของตนลุกขึ้นมาเพื่อไปดูป้าหนิวเป็นครั้งสุดท้าย และพาเฉินหลี่ซื่อไปด้วย บอกว่าจะไปขอขมาป้าหนิว แต่ว่าหวังต้าลี่ไม่ยอมให้พวกเขาเข้าใกล้ร่างของป้าหนิว สุดท้ายพวกเขาได้แต่กลับบ้านไป

เหยาซื่อได้พูดคุยกับลู่ม่านเป็นการส่วนตัวว่า “เกรงว่าหวังต้าลี่คงจะแค้นใจตระกูลเฉินของพวกเจ้าแล้ว ตอนนี้เขาทำงานอยู่ในโรงงานของเจ้า เจ้าต้องระวังตัวไว้บ้าง”

แม้ลู่ม่านจะรู้สึกว่า น่าจะไม่เป็นไร แต่อย่างไรเสียกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ ยังไงนางก็ต้องระวังตัวไว้บ้าง

ผ่านไปแล้วสามวัน หลังจากหวังต้าลี่จัดการเรื่องงานศพเสร็จแล้ว ก็มาทำงานปกติ

ลู่ม่านได้สอบถามจากผู้ดูแล ผู้ดูแลบอกว่าหวังต้าลี่ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ไม่มีทีท่าที่ผิดแปลกไป

ลู่ม่านจึงวางใจ รู้สึกว่าตนเองนั้นคิดมากไปเอง

บวกกับหวังต้าลี่ทำงานในโรงงานได้ไม่เลวเลย ภายใต้การตัดสินใจของผู้ดูแลหวังต้าลี่ถูกย้ายตำแหน่งไปยังฝ่ายเครื่องปรุงรส

ที่นั่นเมื่อเทียบกับฝ่ายบรรจุแล้ว งานเบากว่ามาก อีกทั้งเป็นเพราะต้องใช้ทักษะในการทำงานฉะนั้นจึงทำให้ค่าแรงสูงขึ้นอยู่บ้าง

แม้ว่าอาการบาดเจ็บของตาแก่เฉินจะสาหัสมาก แต่วันที่สองเขาก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้ว

ได้ยินว่าหวังต้าลี่มาทำงาน เขาก็มาเยี่ยม แต่หวังต้าลี่ไม่ยอมพบเขา

ตอนเย็น ลู่ม่านเพิ่งจะออกมาจากโรงงาน ก็ได้ยินจากเหอเยว่ว่าตาแก่เฉินมาหานาง หากนางกับเฉินจื่ออานไม่ยุ่ง ก็ให้ไปพบเขา หลังจากเลิกงาน

พอดีกับที่ เฉินจื่ออานก็กลับมาแล้ว ทั้งสองจึงออกไปด้วยกัน

พอเดินเข้าไป ก็เห็นว่าตาแก่เฉินนั่งอยู่บนบันไดหินหน้าประตูสูบยาเส้น ข้างๆกันนั้นมีเฉินหลี่ซื่อนั่งอยู่ด้วย ในมือถือพัดกำลังต้มยา

ยาในหม้อเดือดพล่านแล้ว ทั้งลานบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยาจีน

เห็นเฉินจื่ออานกับลู่ม่านเดินเข้ามา ใบหน้าของเฉินหลี่ซื่อเกิดท่าทีประหม่าขึ้นมาทันที อาจเป็นเพราะว่าตนเองแต่ไหนแต่ไรวางตัวสูงส่ง แต่ทันใดนั้นก็ถูกพวกเขามองเห็นสภาพที่อ่อนน้อมถ่อมตัวของตนเอง นางรู้สึกอายกระมัง

เฉินจื่ออานแสร้งทำเป็นว่ามองไม่เห็น ค่อยๆเดินไปตรงหน้าตาแก่เฉินและร้องเรียกขึ้นว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่……”

“มากันแล้วหรือ ”ตาแก่เฉินพ่นควันยาสูบออกมา ยื่นมือออกไปกวักเรียกเฉินจื่ออาน “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

ทางด้านหลัง เฉินหลี่ซื่อรีบพูดขึ้นมาว่า “ยังไม่ได้กินยาเลย……”

“วางไว้ตรงนั้น”ตาแก่เฉินทิ้งคำพูดเอาไว้ แล้วพาเฉินจื่ออานหมุนตัวเข้าไปในเรือน

เฉินจื่ออานดูออกอยู่บ้างว่าเฉินหลี่ซื่อนั้นน่าสงสาร จึงช่วยเฉินหลี่ซื่อโดยการพูดขึ้นว่า “ยายังร้อนอยู่ คุยกันเสร็จแล้วค่อยดื่มก็ได้”

เฉินหลี่ซื่อพยักหน้า มีท่าทีอบอุ่นกับเฉินจื่ออานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “อืม จื่ออาน”

……

ในเรือน ตอนที่เฉินจื่ออานเดินเข้าไป ตาแก่เฉินได้เดินออกมาจากด้านในแล้ว ในมือถือถุงเงินเอาไว้ ดูแล้ว ตุงและหนักมาก

ยื่นถุงเงินนั้นให้กับเฉินจื่ออาน ตาแก่เฉินก็พูดขึ้นว่า “ของสิ่งนี้ เจ้าช่วยข้ามอบให้กับหวังต้าลี่ด้วย”

เฉินจื่ออานนิ่งอึ้ง ยื่นมือไปจับถุงเงินถุงนั้น สิ่งที่สัมผัสได้คือ……เงิน

ขณะที่กำลังนิ่งอึ้ง ตาแก่เฉินก็ถอนหายใจออกมา “แม้ว่าแม่หม้ายหนิวคนนั้นจะฆ่าตัวตายเอง แต่ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นต้นเหตุมาจากตระกูลเฉินของพวกเรา ในใจข้า ไม่ว่าอย่างไรก็ละเลยไม่ได้ พวกเราต้องชดเชยให้เขาได้เท่าไหร่ ก็เท่านั้น ”

เฉินจื่ออานพยักหน้า คิดถึงท่าทีจริงจังของเฉินหลี่ซื่อเมื่อครู่นี้ อาจเป็นเพราะการตายของแม่หม้ายหนิว ทำให้นางรู้สึกเกิดความหวาดกลัวขึ้นในใจกระมัง

เอาเงินนั้นส่งกลับไป เฉินจื่ออานพูดว่า “ข้ามีเงิน ข้าให้เขาเองก็ได้ ตอนนี้พวกท่านมีเงินทองไม่มาก เก็บไว้ใช้เองเถอะ”

“เอาไป”ตาแก่เฉินแน่วแน่มาก “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเจ้า เป็นบาปกรรมที่แม่เจ้าก่อขึ้น พวกเจ้าต่างก็แยกบ้านออกไปแล้ว ไม่ควรจะเข้ามายุ่งเรื่องพวกนี้”

หยุดไปชั่วครู่ ตาแก่เฉินก็พูดว่า “ภายหน้า เจ้ายังจะเข้าร่วมการสอบบัณฑิตอีกมิใช่หรือ ถ้าหากมีคนเอาเรื่องนี้ไปเป็นจุดอ่อนของเจ้า เช่นนั้นคงไม่ดีแน่”

นี่เป็นครั้งแรกที่ตาแก่เฉินคิดแทนในมุมของเฉินจื่ออาน จะบอกว่าไม่ซาบซึ้งก็เป็นไปไม่ได้ เฉินจื่ออานนั้นรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ

“ท่านพ่อ……”

“อืม”ตาแก่เฉินตอบรับเสียงหนึ่ง เอ่ยอย่างจริงจังว่า “ทำตามที่ข้าบอกเถอะ”

“ได้”ความห่วงใยจากคนใกล้ชิด เฉินจื่ออานจะไม่รับได้อย่างไร รับถุงเงินนั้นมา เก็บไว้ที่หน้าอก เฉินจื่ออานจึงถามถึงบาดแผลของตาแก่เฉิน

ตาแก่เฉินพูดยิ้มๆว่า “ดีขึ้นมากแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง”

ขณะที่กำลังพูด ด้านนอกประตูมีเสียงของเฉินหลี่ซื่อดังขึ้น “หลิ่วเอ๋อ อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะกินสักหน่อย”

เฉินหลิ่วเอ๋อหลังจากทำร้ายตาแก่เฉินจนบาดเจ็บ ก็กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา มีท่าทีเหมือนกับตอนที่ถูกหลี่ยวี่ทิ้งไปคราวนั้นไม่มีผิด

ตาแก่เฉินเองก็น่าจะได้ยินเช่นกัน เห็นดังนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ

“เฮ้อ จื่ออาน เรื่องน้องสาวเจ้า เจ้าคงต้องใส่ใจสักหน่อยแล้ว”

เฉินจื่ออานไม่เข้าใจความหมายของคำพูดนั้น “ทำไมหรือ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน