ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 197

อาจเป็นเพราะว่าเจ็บแผลที่ไหล่ ตาแก่เฉินจึงเอายาสูบขึ้นมาสูบอีกหลายเฮือกจึงเปิดปากพูดขึ้น

“อายุของหลิ่วเอ๋อก็ไม่เล็กแล้ว สมควรแก่เวลาที่จะหาคู่แล้ว ตอนนี้ครอบครัวเรา พี่ใหญ่เจ้าก็ยุ่งอยู่กับร้านหม้อไฟ ไม่มีเวลาว่าง พี่รองของเจ้า เจ้าก็รู้ดี เขาไม่มีความสามารถจะทำเรื่องนี้ได้ ที่พ่อสามารถฝากฝังได้ก็มีแต่เจ้าเท่านั้น ”

ชิ ที่แท้ก็จะหาคู่ครองให้กับเฉินหลิ่วเอ๋อ ลู่ม่านรู้สึกหนักใจจริงๆ

แต่นางก็รู้ดี สถานการณ์ของตาแก่เฉินในตอนนี้ คาดว่าเฉินจื่ออานคงยากจะปฏิเสธได้ เป็นดังคาด เฉินจื่ออานลังเลอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดก็พยักหน้ารับ

“ได้ ท่านพ่อ ข้าจะจัดการให้ เพียงแต่ ตอนนี้ในใจของหลิ่วเอ๋อคิดอย่างไร พวกเราต่างก็ไม่เข้าใจ……”

“ไม่ต้องสนใจนาง”ตาแก่เฉินพูดอย่างหนักแน่น “ตอนนี้หลิ่วเอ๋อไหนเลยจะมีความคิดเป็นของตนเอง ข้าหวังเพียงแค่ว่า สามารถหาคนที่อดทนต่อนางได้ ยอมรับในตัวนางได้เท่านั้น ข้าก็วางใจแล้ว”

ลู่ม่านเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ท่านมีตัวเลือกในใจแล้วอย่างนั้นหรือ”

น้ำเสียงนี้ เห็นได้ชัดว่ามีตัวเลือกที่มองไว้แล้ว เฉินจื่ออานก็มองไปทางตาแก่เฉิน เพื่อรอให้ตาแก่เฉินตอบ

ตาแก่เฉินก็ไม่ได้ปิดปังอะไร เขายอมรับออกมาตรงๆว่า “ใช่ ก่อนหน้านี้ข้าได้ดูไว้แล้ว”

“เป็นใคร”เฉินจื่ออานถามขึ้น

แต่ในใจของลู่ม่านกลับคิดว่า ใครกันนะที่ดวงซวยขนาดนี้ นางไม่อาจจะนึกภาพได้เลย ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อจะสามารถยอมรับเรื่องการแต่งงานที่ตาแก่เฉินจัดการให้ และเริ่มต้นชีวิตแต่งงาน นี่เป็นเรื่องที่เกินจะคาดคิดจริงๆ

ถ้าหากเฉินหลิ่วเอ๋อมีความคิดเช่นนี้ละก็ ไหนเลยจะยังคงจมปลักอยู่กับเรื่องเดิมและเดินออกมาจากปัญหานั้นไม่ได้สักที

“เป็นคนที่พวกเจ้าต่างก็รู้จัก”ตาแก่เฉินพูดถึงคนคนนั้นขึ้นมา ใบหน้ามีรอยยิ้มผุดขึ้นมาเล็กน้อย “หน้าตาเขาไม่เลว และยังมีความรู้อ่านออกเขียนได้อยู่บ้าง ถ้าหากหลิ่วเอ๋อสามารถแต่งงานกับเขาได้ ข้าก็วางใจแล้ว”

“เฉินจูชิงหรือ”ในสมองของลู่ม่านสว่างวาบขึ้นมาทันที ถึงว่า ก่อนหน้านี้มักจะเห็นตาแก่เฉินพูดคุยอยู่กับเฉินจูชิงอยู่บ่อยๆ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีหลายครั้งหลายคราที่ตาแก่เฉินชื่นชมว่าเฉินจูชิงคนนี้ต่อหน้าลู่ม่านว่าเป็นคนไม่ดีทีเดียว

แรกเริ่ม ลู่ม่านก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตอนนี้มานึกดูแล้ว คนที่มีความรู้อ่านออกเขียนได้ และเป็นคนดี จะเป็นใครไปได้ ต้องเป็นเขาแน่นอนไม่ต้องสงสัย

“ใช่แล้ว”ตาแก่เฉินพูดยิ้มๆ “ข้าเคยถามเขาแล้ว ที่บ้านเกิดของเขาก็ไม่เคยมีภรรยามาก่อน อีกอย่างก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าภายหน้าจะตั้งหลักปักฐานอยู่ที่หมู่บ้านไป่ฮัว”

ตาแก่เฉินสูบยาเส้นอีกเฮือกหนึ่ง คายควันบุหรี่ออกมาแล้วบอกว่า “ข้าคิดดีแล้ว บ้านเก่าหลังนี้หลังจากที่พวกเจ้ากับเจ้าใหญ่ย้ายออกไปแล้ว เรือนด้านตะวันออกก็ว่างอยู่ พวกเราสามารถปรับปรุงด้านในสักหน่อย วันหน้าพวกเขาสองคนสามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้ ถ้าหากภายหน้าจูชิงจะออกไปสร้างบ้านของตนเอง ที่ดินของครอบครัวเราก็มี……”

พูดถึงพวกเขาสองคนแล้ว ลู่ม่านแอบสบถในใจเบาๆ เขาคิดง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง

ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ม่านขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน นางเห็นว่าเหอเยว่กับเฉินจูชิงนั้นเหมือนจะมีใจต่อกันอยู่บ้าง เฉินจูชิงคนนี้ชอบใครกันแน่ ยังยากที่จะพูดได้

“เรื่องนี้ ยังต้องถามดูก่อนกระมัง”ลู่ม่านพูด

“ก็ดี”ตาแก่เฉินพยักหน้า “ตอนนี้จูชิงทำงานอยู่กับพวกเจ้า เรื่องนี้ก็ให้พวกเจ้าไปจัดการแล้วกัน ”

“หลิ่วเอ๋อรู้เรื่องนี้หรือไม่”เฉินจื่ออานถาม

“ถามให้ชัดเจนแล้วค่อยบอกนาง”เห็นทีตาแก่เฉินคงจะมั่นใจแล้ว

เฉินจื่ออานจึงพยักหน้า “ได้ เรื่องนี้ข้ากลับไปจะรีบจัดการทันที”

ตอนที่ออกมาจากบ้านหลังเก่า เฉินหลี่ซื่อยังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องของเฉินหลิ่วเอ๋อ ใช้วาจาเกลี้ยกล่อมขอร้อง เฉินหลิ่วเอ๋อก็ไม่ยอมโผล่หน้าออกมาสักที เฉินจื่ออานกับลู่ม่านต่างมองหน้ากัน แล้วก็ถอนหายใจออกมา

เอาเงินที่ตาแก่เฉินให้มาไปยังโรงงาน เฉินจื่ออานมอบให้กับหวังต้าลี่ด้วยมือตนเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรหวังต้าลี่ก็ไม่ยอมรับเอาไว้ ไม่ว่าเฉินจื่ออานจะพูดอย่างไร เขาก็ไม่รับ

สุดท้าย ยังไม่ทันที่เฉินจื่ออานจะพูดจบ ก็หาข้ออ้างว่าต้องไปทำงาน แล้วก็ออกไปทันที

เฉินจื่ออานถอนหายใจอย่างจนใจ ได้แต่เก็บเงินนั้นเอาไว้ หลังจากนั้น เขาก็คุยกับผู้ดูแลเป็นการส่วนตัว วันหน้าหากมีโอกาสต้องขึ้นเงินเดือนให้เขาบ้าง

หลังจากคุยเรื่องนี้เสร็จแล้ว เฉินจื่ออานก็เดินไปทางด้านนอก

พอดีกับที่เฉินจูชิงกลับมาจากการไปส่งสินค้า กำลังลากเกวียนเข้าไปเพื่อเลี้ยงหญ้าให้วัวที่ต่างเกวียน เฉินจื่ออานยืนดูอยู่หน้าประตูครู่หนึ่ง เห็นแค่ว่าเขาค่อยๆจูงวัวเข้าไป จากนั้นก็เอาแปรงมาแปรงที่หลังของวัวเบาๆ

รอจนอาการหายใจหอบเหนื่อยของวัวค่อยๆกลับสู่ปกติแล้ว เขาจึงไปเอาหญ้าสะอาดมาวางเอาไว้ในรางอาหาร

จากนั้น ก็ไปตักน้ำสะอาดมาล้างทำความสะอาดรางอาหารวัวให้สะอาด เปลี่ยนน้ำ แล้วทำความสะอาดคอกวัวให้เรียบร้อย จึงหมุนตัวออกมา

เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู ก็เห็นเฉินจื่ออานที่ยืนอยู่ด้านนอกประตูตลอด เขารีบพูดยิ้มๆว่า “เจ้านาย ท่านมา……”

เขายืนยันจะเรียกเฉินจื่ออานว่าเจ้านาย เฉินจื่ออานจึงได้แต่ตามใจเขา

“อืม ข้ามาดูโรงงาน นี่เจ้า กำลังจะกลับบ้านใช่หรือไม่”

“ขอรับ”เฉินจูชิงพูดจบ เฉินจื่ออานก็รีบเสริมขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นก็กลับพร้อมกัน”

เฉินจื่ออานจงใจหาหัวข้อเพื่อสนทนากัน สอบถามถึงเรื่องราวของเฉินจูชิงอีกรอบ เป็นอย่างที่ตาแก่เฉินพูดจริงๆ

เมื่อกลับถึงบ้าน เหอเยว่รออยู่ที่หน้าประตูและรายงานว่า “อาหารค่ำเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”

เมื่อเห็นเฉินจูชิงเหอเยว่ก็ยิ้มเล็กน้อย ดวงตาโค้งขึ้น

เฉินจื่ออานลากตัวเฉินจูชิงไปด้วย “เจ้าคงยังไม่ได้กินข้าวกระมัง พอดีเลย เช่นนั้นวันนี้ก็ไปกินด้วยกันในบ้านเถอะ”

“ทำเช่นนี้ไม่ได้ ”เฉินจูชิงรีบปฏิเสธ “เจ้านายดีกับข้ามากแล้ว ข้าจะไปกินข้าวร่วมโต๊ะกับท่านได้อย่างไร อีกอย่าง พวกเราก็ซื้อผักมาเองบางส่วน สามารถกลับไปทำกินเองได้”

“ทำไม ข้าจะเลี้ยงเจ้ากินข้าวสักมื้อไม่ได้หรืออย่างไร ”เฉินจื่ออานแสร้งทำเสียงจริงจัง เฉินจูชิงจึงโล่งใจ “เช่นนั้นข้าก็ขอเคารพไม่สู้เชื่อฟังแล้วกัน”

ลู่ม่านคิดไม่ถึงจริงๆว่า เฉินจื่ออานจะไปตามตัวเฉินจูชิงมาจริงๆ

แต่ในเมื่อคนมาแล้ว นางเองก็รู้สึกดีกับเฉินจูชิงมาก ความมุ่งมั่นพยายาม และเป็นคนนิสัยไม่เลว ไม่มีใครไม่ชอบ

ยิ่งไปกว่านั้น พี่สาวของนางก็ทำงานอยู่กับลู่ม่าน และทำได้ดีเสียด้วย

ลู่ม่านกำลังจะเรียกเหอเยว่ให้ไปเพิ่มถ้วยชามหนึ่งชุด เด็กสาวกลับเอาถ้วยและตะเกียบออกมาแล้ว ลู่ม่านนึกถึงเรื่องที่ตนเห็นก่อนหน้านี้ จึงเผลอมองเหอเยว่อยู่ครู่ใหญ่

ไม่ช้า ทั้งสามคนก็นิ่งลง

เฉินจื่ออานสำรวจดูท่าทีการกินข้าวของเฉินจูชิงอย่างเงียบๆ เฉินจื่ออานรู้จักเฉินหลิ่วเอ๋อดี ตั้งแต่เล็กนางก็ประกาศว่าตนเองนั้นถูกหมอดูทายทัก คิดว่าตนเองนั้นจะมีชีวิตที่สุขสบาย เพราะฉะนั้น แต่ไหนแต่ไรก็หยิ่งยโสมาก

ชายหนุ่มในหมู่บ้าน นางไม่เคยจะชายตามอง นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมตาแก่เฉินจึงชอบเฉินจูชิงกระมัง

เฉินจูชิงเคยเรียนหนังสือ เรื่องมารยาทเขาล้วนรู้ดี ขอเพียงเฉินหลิ่วเอ๋อสามารถรับได้ นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว

ท่าทีการกินข้าวของเฉินจูชิงนั้นไม่เลวจริงๆ เฉินจื่ออานก็ให้คะแนนในใจเพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน

หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้ว เฉินจื่ออานจึงถามขึ้นมาอย่างจริงจังว่า “จูชิง เจ้ามีหญิงสาวที่ชื่นชอบอยู่ในใจหรือไม่ ”