ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 198

เฉินจูชิงนิ่งอึ้งไป คาดว่าในใจของเขาก็คงจะเข้าใจเจตนาของเฉินจื่ออานในวันนี้แล้ว เขาไม่โง่ ย่อมต้องเดาออกอยู่แล้ว

ตระกูลเฉินเหลือลูกสาวที่รอแต่งงานอยู่คนเดียว ก็คือเฉินหลิ่วเอ๋อ เฉินหลิ่วเอ๋อคนนี้ ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเฉินจูชิงเคยพบแล้ว ที่หน้าประตูทางเข้าหมู่บ้าน ตอนนั้นไม่รู้ว่าเฉินหลิ่วเอ๋อรีบร้อนจะไปที่ไหน จึงได้ดูร้อนใจนัก วิ่งเร็วมาก

พอดีกับที่ เกวียนของเขาขับผ่าน เกือบจะชนเข้ากับเฉินหลิ่วเอ๋อ

ขณะที่ตกอยู่ในอาการตกใจ เขาก็ถูกท่าทีของเฉินหลิ่วเอ๋อดึงดูดเอาไว้

เฉินหลิ่วเอ๋อ ก็เหมือนสาวงามในตำรานั่นเอง

หลังจากนั้น เขาก็ได้รู้ว่า ที่แท้สถานที่ที่เฉินหลิ่วเอ๋อจะไปนั้นคือโรงเรียนที่สร้างขึ้นใหม่ ได้ยินว่าที่เฉินหลิ่วเอ๋อไปที่นั่น เพราะต้องการไปช่วยเหลือมารดาของนาง

มารดาของเฉินหลิ่วเอ๋อคือเฉินหลิ่วซื่อ หลังจากนั้นก็ได้ยินจากปากชาวบ้านพูดกันว่า นางไม่ใช่คนดีอะไร

แต่เฉินจูชิงที่เกิดความรู้สึกดีๆกับเฉินหลิ่วเอ๋อ ได้มองข้ามความไม่สมบูรณ์แบบเล็กน้อยนั้นไปจนหมดแล้ว แน่นอนว่า เรื่องที่เฉินหลิ่เอ๋อทำร้ายตาแก่เฉินจนได้รับบาดเจ็บ เขาเองก็ยังไม่ได้ยินข่าว

หลังจากที่ในใจรู้ว่าเฉินจื่ออานคิดอะไรอยู่ เฉินจูชิงก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง เขารีบพูดขึ้นอย่างลนลานว่า “ไม่มี”

ได้ยินดังนั้น ลู่ม่านก็มองไปทางเหอเยว่ที่เตรียมจะเดินเข้ามาจากทางด้านนอก เห็นเพียงร่างของเหอเยว่ชะงักไปชั่วครู่ ราวกับได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง

เด็กสาวที่เพิ่งจะรู้จักกับความรักครั้งแรก เกรงว่าจะไม่สามารถยอมรับการกระทบกระเทือนจิตใจในทันทีทันใดเช่นนี้ได้

แต่ว่า เหอเยว่กลับไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ไม่ช้า นางก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆเฮือกหนึ่ง แล้วก้าวเข้าไปข้างใน

เฉินจื่ออานได้ยินคำตอบนี้ ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก อาศัยว่าฤทธิ์เหล้ากำลังได้ที่ เขาเสนอแนะว่า “จูชิง ข้าดูเจ้าอายุก็ไม่เด็กแล้ว น่าจะถึงเวลาแต่งงานได้แล้ว ถ้าหากคิดว่าเป็นไปได้ ก็หาเวลาให้พวกเราสองครอบครัวมากินข้าวด้วยกันสักมื้อ”

เฉินจูชิงพยักหน้าอย่างทึ่มทื่อ แต่ทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “เกรงว่าจะไม่ได้ ตอนนี้บ้านข้ายากจนยิ่งนัก แม้แต่ที่ซุกหัวนอนยังไม่มี จะให้แม่นางมาลำบากกับข้าได้อย่างไร……”

คำพูดนี้ เขาพูดจากใจจริง เหอเยว่ที่อยู่ข้างๆ ขอบตาแดงก่ำขึ้นมาจริงๆ

นางปฏิบัติกับเฉินจูชิงอย่างหลงใหล คิดไม่ถึงว่าในใจเขาจะมีคนอื่นอยู่แล้ว และคนคนนั้น ยังเป็นเฉินหลิ่วเอ๋อ

แต่ว่า คิดดูแล้วก็จริง เฉินหลิ่วเอ๋อเป็นน้องสาวของเฉินจื่ออาน เป็นคุณหนูของตระกูลเฉิน ย่อมต้องดีกว่าเด็กสาวกำพร้าที่หนีภัยมาอย่างนางแน่นอน

เฉินจื่ออานไหนเลยจะรู้ว่าเหอเยว่คิดเช่นไร ตอนนี้ในใจเขามีแต่อารมณ์ตื่นเต้นที่ได้ช่วยเฉินหลิ่วเอ๋อหาคู่ครองเท่านั้น

เมื่อได้ยินเฉินจูชิงปฏิเสธ เขารีบพูดว่า “สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นของนอกกาย เจ้าไม่ต้องใส่ใจมากนัก ตอนนี้ข้าเข้าใจท่าทีของเจ้าแล้ว ข้าเองก็นับว่ารู้ดีแก่ใจพอสมควรแล้ว เรื่องอื่น วันหลังเมื่อผู้อาวุโสของพวกเราทั้งสองฝ่ายมานั่งคุยกันแล้วค่อยว่ากันอีกที”

พูดจบ เฉินจื่ออานก็เรียกเหอเยว่“ ส่งจูชิงกลับไปพักผ่อนเถอะ”

เหอเยว่มองเฉินจูชิงด้วยสายตาที่แดงก่ำ ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ยอมเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ลู่ม่านจึงรีบดันตัวเฉินจื่ออาน “เหอเยว่ยังมีงานที่ยังต้องทำ ท่านส่งจูชิงกลับไปเถอะ”

เหล้าองุ่นแค่นั้นไม่มีผลกระทบต่อเฉินจื่ออานสักเท่าไหร่ เห็นดังนั้น เขาก็พยักหน้า ส่งเฉินจูชิงออกไป

รอให้ทั้งสองคนเดินออกไปแล้ว ลู่ม่านจึงลุกขึ้นเดินไปยังห้องครัว

เหอเยว่กำลังก้มหน้าล้างถ้วยชามอยู่ เห็นสีหน้าของนางไม่ชัดเจน ลู่ม่านเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างกายนาง ถามเสียงเบาว่า

“คำพูดของเฉินจูชิงเมื่อครู่ เจ้าว่าอย่างไร”

มือที่กำลังล้างจานของเหอเยว่ชะงักไป จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “เขาคือเขา ข้าคือข้า ข้าจะไปว่าอะไรได้”

ลู่ม่านขมวดคิ้ว “แต่ว่าก่อนหน้านี้ข้าเห็นเจ้ากับเขาดูสนิทสนมกันมาก ”ถ้าหากเป็นเช่นนี้ เฉินจูชิงยังทำอย่างนี้ นั่นก็เท่ากับว่าเขามันก็แค่คนดีจอมปลอมเท่านั้น

“ไม่มี” เหอเยว่อธิบายทันที “ไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านคิด พี่เสี่ยวม่าน”

ลู่ม่านเลิกคิ้ว ได้ยินเหอเยว่พูดอีกว่า “เป็นข้าที่เห็นว่าเขาตัวคนเดียว ไม่มีใครดูแล ฉะนั้นจึงสนิทสนมกับเขาอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่เคยแสดงท่าทีอะไรต่อข้าเลย”

“แล้วถ้าหากเขาไปอยู่กับคนอื่น เจ้าจะไม่เสียใจหรือ”ลู่ม่านถามกลับไป

เหอเยว่ลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วจึงพูดว่า “เสียใจ แต่เสียใจก็ไม่มีประโยชน์อะไร ข้าดูออก เขาชอบแม่นางหลิ่วเอ๋อจริงๆ……”

ที่แท้ เหอเยว่ก็มองออกอย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้นี่เอง

แต่ว่า คิดแล้วก็จริง หลังจากที่หญิงสาวตกอยู่ในห้วงแห่งอารมณ์รัก ล้วนตาสว่างขึ้นทั้งสิ้น คนที่ชอบ แค่ขมวดคิ้ว หรือส่งสายตา นางก็ดูออกว่าหมายถึงอะไร

“แต่ว่า พี่เสี่ยวม่าน ท่านไม่ต้องห่วง ข้าไม่มีทางทำลายความรักของพวกเขาแน่ ขอเพียงพวกเขามีความสุข ข้าก็ยินดีกับพวกเขาด้วย”

ที่แท้ นางก็คิดว่าที่ลู่ม่านพูดเช่นนี้ ก็เพราะอยากจะให้นางตายใจอย่างนั้นหรือ

ลู่ม่านถอนหายใจ ยื่นมือไปตบไหล่ของนาง “คนอื่นจะว่าอย่างไร ข้าไม่สน ข้าหวังเพียงแค่ว่า เจ้าจะมีชีวิตที่ดี”

ได้ยินดังนั้น เหอเยว่ก็ดวงตาแดงก่ำขึ้นมา นางกอดแขนของลู่ม่านเอาไว้ ร้องไห้ออกมา

ลู่ม่านไม่ได้ผลักไสนาง ปล่อยให้นางร้องไห้อยู่ชั่วครู่แล้วจึงพูดขึ้นว่า “วันหน้า ข้าจะช่วยเจ้าหาคนที่ดียิ่งกว่า”

เหอเยว่จึงยิ้มออกมาทั้งน้ำตา “เช่นนั้นคงต้องดีกว่าเฉินจูชิงแน่”

วันรุ่งขึ้น เฉินจื่ออานเตรียมตัวจะไปที่บ้านหลังเก่าเพื่อจะแจ้งข่าวเรื่องเมื่อวานให้ตาแก่เฉินทราบแต่เช้า ไหนเลยจะคิดว่า ยังไม่ทันได้ออกจากประตูบ้าน ตาแก่เฉินก็มาถึงแล้ว

น่าจะเป็นเพราะอารมณ์ดีกระมัง ดูแล้วสีหน้าไม่เลวเลย

เรียกให้เขาเข้าไปนั่งในบ้าน เขากลับเงยหน้าขึ้นไปดูต้นไม้เก่าแก่ที่ขึ้นเองตามธรรมชาติในลานบ้านต้นนั้น ตอนที่สร้างบ้าน ต้นไม้ต้นนั้นก็ขึ้นอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว

เดิมที พวกเขาจะตัดมันทิ้ง แต่ลู่ม่านเห็นว่าอย่างน้อยต้นไม้ต้นนั้นก็มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว จึงให้คนเก็บเอาไว้

ลำต้นของมันใหญ่และสูงมาก ครอบคลุมไปเกือบครึ่งหนึ่งของลานบ้าน โดยเฉพาะฤดูนี้ เพิ่มความรู้สึกเย็นสบายได้มากโข

บวกกับกล้าของต้นพริกที่ปลูกเอาไว้ในลานบ้านก่อนหน้านี้ ยังเหลืออยู่บางส่วน ลู่ม่าน ก็ย้ายพวกมันไปปลูกที่สวนดอกไม้ด้านหน้าด้วย

ทั้งแดงทั้งเขียว ผลพริกที่ออกมา ทำให้ทั่วลานบ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาก

ตาแก่เฉินชี้นิ้วไปยังเก้าอี้ไม้ที่อยู่หน้าประตูบ้าน “ไม่ต้องเข้าไปแล้ว ข้านั่งตรงนี้ก็ได้”

ปกติแล้วลู่ม่านก็ชอบมานั่งตรงนี้ จึงไม่ได้บังคับฝืนใจ ให้เหอเยว่ไปเอาน้ำชาและของว่างมา

เฉินจื่ออานออกมาแล้ว สองพ่อลูกจึงนั่งลงหันหน้าเข้าหากัน เฉินจื่ออานเล่าเรื่องที่ได้คุยกับเฉินจูชิงเมื่อวานให้เขาฟัง

พูดจบแล้ว ตาแก่เฉินก็ยินดีออกนอกหน้า

“อย่างนี้ก็ดี ในเมื่อเจ้าหนุ่มคนนั้นก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เช่นนั้นก็ให้เจ้าหนุ่มคนนั้นมาสู่ขอที่บ้านได้เลย”

เฉินจื่ออานนิ่งอึ้ง “แต่ว่า หลิ่วเอ๋อยังไม่เคยดูตัวกันเลย นางเองก็มีความคิดของตนเอง ถ้าหากพวกเราช่วยนางตัดสินใจ เกรงว่านางจะไม่ยอมตกลง”

“นางกล้าหรือ”ตาแก่เฉินพูดเสียงเย็น พูดเช่นนี้ก็จริง แต่เมื่อเฉินจื่ออานเอ่ยเตือน หัวใจของตาแก่เฉินก็ตุ้มๆต่อมๆขึ้นมา

ในใจของลู่ม่านนั้นคิดไปในทิศทางตรงกันข้าม ด้วยสถานการณ์ของเฉินหลิ่วเอ๋อ แม้ว่าในหมู่บ้านจะไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โตอะไร

แต่คนส่วนใหญ่ ที่จริงต่างก็รู้ดีแก่ใจ

คนธรรมดาทั่วไป คาดว่าคงไม่มีใครอยากจะได้สะใภ้เช่นนี้เข้าบ้าน

เฉินจูชิงนั้นยังเข้าใจเรื่องของหมู่บ้านไป่ฮัวไม่มากพอ และยังตัวคนเดียว คนหนุ่มสาวมักจะถูกความรักทำให้หน้ามืดตามัว ว่าไม่ได้ ถ้าหากเฉินเหมยเซียงรู้เข้า คงไม่มีทางเห็นด้วยแน่ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน