“ท่านพ่อ อย่างไรซะก็หาวิธีให้ทั้งสองครอบครัวได้เจอหน้ากันก่อนค่อยว่ากันอีกทีเถอะ”เฉินจื่ออานพูดขอร้อง คาดว่าเขาคงคิดคล้ายๆกับลู่ม่าน
ในที่สุดตาแก่เฉินก็เห็นด้วย แล้วก็สูบยาเส้นเข้าไปเฮือกหนึ่งจากนั้นจึงพูดว่า “เช่นนั้นก็เป็นสามวันหลังจากนี้ สามวันหลังจากนี้เป็นวันที่มีตลาดพอดี หาข้ออ้างไปเจอกันในเมืองหาสถานที่ดีๆคุยกัน”
เฉินจื่ออานรีบพยักหน้ารับทันที“ถ้าเช่นนั้นก็ไปที่ภัตตาคารเฟิ่งหลายดีกว่า ที่นั่นมีคนเข้าออกมากมาย น่าจะเหมาะกับการคุยกัน”
เดิมทีตาแก่เฉินคิดว่า ทำไมไม่ไปที่ร้านหม้อไฟของเฉินจื่อฉาย แต่เมื่อคิดดูอีกทีจึงไม่พูดดีกว่า
เพราะว่าปัญหาระหว่างเฉินเถาฮัวกับเฉินหลิ่วเอ๋อนั้นไม่เล็กเลย ถ้าหากไปที่นั่น เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้น
หลังจากตกลงกันเรียบร้อย ตาแก่เฉินก็กลับไป
ในที่สุดพวกเฉินจื่ออานก็รู้สึกโล่งใจได้เสียที อาศัยช่วงที่ไปในโรงงานเฉินจื่ออานก็ดึงตัวเฉินจูชิงไปคุยเป็นการส่วนตัวว่าหลังจากนี้สามวันจะมีการพบปะกันของทั้งสองครอบครัว อีกทั้ง เฉินจื่ออานได้เตือนอ้อมๆว่า ให้เขาคุยกับผู้อาวุโสในครอบครัวของตนเองได้แล้ว
เฉินจูชิงรู้สึกดีใจมาก พยักหน้ารับไม่ขาดสาย
เวลาสามวันผ่านไปไม่นานก็มาถึง ตอนเช้าเดิมทีลู่ม่านนั้นไม่อยากไป ความรู้สึกที่เธอมีต่อเฉินหลิ่วเอ๋อ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นความรู้สึกดีๆได้
ถ้าหาก ก่อนหน้านี้หลังจากที่ถูกหลี่ยวี่ทอดทิ้ง นางสามารถตั้งสติและทำตัวให้ดีขึ้น ใช้ชีวิตดีๆ บางทีนางอาจจะสนใจนางอยู่บ้าง
แต่ว่าตอนนี้ นางกลับมีท่าทีหมดอาลัยตายอยาก กระทั่งเพราะถูกกระตุ้นจิตใจ ถึงกับลงมือทำร้ายพ่อของตนเอง
ลู่ม่านรู้สึกไม่ชอบจากใจจริง
แต่เฉินจื่ออานกลับบอกว่า ไม่ว่าอย่างไรลู่ม่านก็เป็นพี่สะใภ้ เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตของเฉินหลิ่วเอ๋อ ทุกคนในบ้านต่างก็ไปกันหมด จะขาดลู่ม่านไปได้อย่างไร
ลู่ม่านจึงลุกขึ้นมาล้างหน้าแต่งตัว เพราะวันนี้มีเฉินหลิ่วเอ๋อเป็นตัวหลัก ฉะนั้น ลู่ม่านก็ไม่ได้บรรจงแต่งตัวอะไรมากนัก อีกทั้งยังเลือกที่จะสวมชุดที่ดูค่อนข้างแก่เสียด้วยซ้ำ บนศีรษะก็ปักแค่ปิ่นเงินหนึ่งชิ้น เช่นนี้ไม่มีทางเด่นกว่าเฉินหลิ่วเอ๋อแน่นอน
การปฏิบัติเช่นนี้ต่อเฉินหลิ่วเอ๋อ นับว่าทำดีที่สุดแล้ว
พวกเขานั้นแยกกันเดินทางไป เมื่อลู่ม่านกับเฉินจื่ออานไปถึง พวกเฉินหลิ่วเอ๋อได้นั่งอยู่ที่โถงใหญ่ที่อยู่ทางด้านล่างของร้านแล้ว
พวกลู่ม่านแสร้งทำเป็นว่ามาทำธุระ และบังเอิญมาพบพวกเขา ตาแก่เฉินจึงเรียกให้พวกเขามานั่งด้วยกัน
เพิ่งจะนิ่งลง ก็เห็นเฉินจื่อฉายวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาจากทางนอกร้าน ตอนนี้เฉินจื่อฉายหลังจากที่ได้เป็นเถ้าแก่แล้ว เขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่น่าจะเป็นเฉินเถาฮัวซื้อให้เขา น่าดูกว่าเมื่อก่อนมากทีเดียว
ถ้าหากไม่ยิ้ม ยังคงเหมือนเมื่อก่อนที่ดูขี้ขลาดไม่กล้าแสดงออกอยู่ดี ลู่ม่านนึกว่าเจอกับเถ้าแก่ใหญ่เข้าแล้วเสียอีก
เฉินจื่อฉายเดินเข้าไปทักทายพวกตาแก่เฉินกับเฉินหลี่ซื่อ ตาแก่เฉินรู้สึกไม่พอใจในการแต่งกายของเฉินจื่อฉายสักเท่าไหร่ “ทำไมจึงแต่งตัวเช่นนี้”
เฉินจื่อฉายนิ่งอึ้ง ยิ้มอย่างซื่อๆ “นี่เป็นชุดที่เถาฮัวเตรียมไว้ให้ข้า บอกว่าอย่าให้เสียหน้าท่านอาของนางเด็ดขาด”
เฉินจื่อฉายไม่อยู่บ้าน จึงไม่รู้เลยว่าเฉินหลิ่วเอ๋อนั้นไม่รู้เรื่องการจับคู่แต่งงานครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
ตาแก่เฉินรีบตัดบทของเฉินจื่อฉายทันที พูดยิ้มๆ “หิวกันแล้วกระมัง ยากมากที่ครอบครัวเราจะอยู่กันพร้อมหน้า ดูสิว่าอยากจะกินอะไร จื่ออาน เจ้าไปสั่งเถอะ”
เฉินจื่ออานส่ายหน้า “ให้ท่านแม่กับหลิ่วเอ๋อไปสั่งดีกว่า ”
เฉินหลิ่วเอ๋อยังคงซึมๆ สุดท้ายก็เป็นเฉินหลี่ซื่อที่เรียกเสี่ยวเอ้อมาถาม จากนั้นก็สั่งอาหารไปสองสามอย่าง
ตอนที่รออาหาร นอกประตูมีคนที่แต่งชุดสีแดงเพลิงทั้งร่างเดินเข้ามาในร้าน พอคนคนนั้นเข้ามา ก็ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่ในร้าน
ไม่เพียงแต่ชุดที่มีสีสันสวยสะดุดตา บนศีรษะยังประดับสิ่งของไว้ไม่น้อย เพียงแต่ดูจงใจแต่งมากเกินไป ทำให้สูญเสียความงามไป
กวาดตามองดูในห้องโถง คนคนนั้นเดินตรงมาทางด้านที่พวกลู่ม่านกับเฉินจื่ออานนั่งอยู่ จนกระทั่งนางเดินมาถึงด้านหน้าของเฉินจื่อฉาย เรียกเขาว่าท่านพ่อ ทุกคนจึงได้สติเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน คนคนนี้ก็คือเฉินเถาฮัวนั่นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...