ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน นิยาย บท 203

แต่ว่า เหอซานยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นไร จะต้องทำงานให้ได้ ลู่ม่านพูดเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง จึงต้องบอกให้เหอเย่วคอยดูแลเขา

แต่ใครจะรู้ว่า เหอซานทำงานในสวนเก่งมาก ต้องยอมรับเลยว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า!

เพราะพริกเผ็ดและแสบมาก ตอนที่เด็ดก็กลัวว่าจะไปทำให้พริกที่ยังไม่โตบอบช้ำ ดังนั้นลู่ม่านจึงไปสั่งทำกรรไกรจากร้านตีเหล็กมา

แจกให้ทุกคนทีละอัน ใช้มาตัดพริก

ทุกคนทำงานกันอย่างรวดเร็ว ตอนบ่าย อาจารย์โจวก็มาเหมือนกัน

เห็นทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ เขาก็ไม่พอใจขึ้นมา “ดูท่าแล้ว พวกเจ้าคงจะลืมว่าเมื่อก่อนข้าก็ทำสวนเหมือนกัน?”

เฉินจื่ออานรีบพูดว่า “แต่ว่า อาจารย์ท่าน……”

“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เจ้าจำคำข้าเอาไว้นะ เรียนหนังสือจะเอาแต่เรียนไม่ได้ ต้องหัดแบ่งเวลาพักผ่อนกับทำงานให้สมดุลกัน”

“เจ้าค่ะ!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์พูดถูก นี่เป็นกรรไกรที่ข้าเตรียมให้ท่านเจ้าค่ะ”

อาจารย์โจวก็ถึงเริ่มทำงานอย่างมีความสุข

วันแรกเก็บพริกได้ประมาณสามไร่ หลังจากที่ขนพริกกลับไปแล้ว ลู่ม่านก็เอาไปตากไว้ตรงลานบ้าน

เฉินจื่ออานก็ถึงรู้ว่า วิธีที่ลู่ม่านบอกก็คือเอาพริกไปตากแห้งกลายเป็นพริกแห้ง เพื่อจะได้เก็บไว้ได้หลายปี

ตอนยุคสมัยใหม่ พริกแห้งส่วนใหญ่ขายแพงกว่าพริกสดอีก และยังไม่กลัวว่าจะเน่าด้วย นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ

ตอนวันที่สอง ตาแก่เฉินก็แบกร่างกายป่วยๆของตัวเองมา ตามด้วยหลิวซื่อและเฉินจื่อฟู่

มาถึงแล้ว ตาแก่เฉินก็พูดอย่างไม่มีเรี่ยวแรงว่า “ทำไมที่บ้านยุ่งขนาดนี้ถึงไม่ไปบอกกับเราล่ะ? ถึงแม้ร่างกายของข้าจะเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว แต่ตัดพริกก็ยังได้อยู่”

พูดจบ เขาก็มองไปยังเฉินจื่อฟู่ “ข้าวที่บ้านก็มีไม่น้อย แต่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ว่างก็ว่างไปเปล่าๆ……”

“ใช่ๆ……” เฉินจื่อฟู่พูดปากไม่ตรงกับใจ

พูดถึงขั้นนี้แล้ว เฉินจื่ออานก็ไม่รู้จะพูดยังไงอีก จึงต้องบอกว่า “ท่านพ่อระวังสุขภาพตัวเองด้วยแล้วกัน”

“ข้ารู้แล้วน่า!” ตาแก่เฉินพูดแล้ว ก็รีบกรรไกรแล้วเดินไปที่สวนทันที เฉินจื่อฟู่ยังคงลีลา ถูกหลิวซื่อผลักก็ถึงจะเดินตามไป

ตอนที่เริ่มทำงาน ตาแก่เฉินก็อธิบายอีกครั้ง “แม่ของเจ้ามีหลิ่วเอ๋อดูแลอยู่ที่บ้าน……”

“ท่านพ่อ ไม่เป็นไรขอรับ” เฉินจื่ออานมองดูคนแก่ที่ถูกกระทบอย่างเสียใจ รู้สึกว่า ตอนนี้เขาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังจริงๆ ถึงแม้จะตอนที่พูดกับลูกชายตัวเองก็ยังเป็นแบบนี้

มีพวกเขาสามคนเข้ามาช่วยด้วย ทุกคนก็ทำกันเร็วขึ้น วันนี้พวกเขาตัดพริกไปแล้วห้าไร่

รอถึงวันที่สี่ พริกในลานบ้านก็ไว้ไม่พอแล้ว ลู่ม่านจึงให้ตาแก่เฉินกับเหอซานที่อายุมากแล้วอยู่ในบ้าน ให้พวกเขาเอาพริกแห้งใส่ไว้ในตะกร้า แล้วไปไว้ในโกดังหลังบ้าน

รอกลับมาตอนเย็น ลู่ม่านก็เป็นเฉินจูชิงมาด้วย เขากำลังช่วยคนแก่สองท่านขนของอยู่ ตาแก่เฉินจ้องมองเขานิ่ง สายตาเต็มไปด้วยความเสียดาย

เห็นพวกเขากลับมา เฉินจูชิงก็เก็บพริกถุงสุดท้ายเสร็จพอดี กลับหลังหันไปพูดว่า “ข้ากลับก่อนนะ”

ตาแก่เฉินรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เจ้าทำงานมาทั้งวันแล้ว กินก่อนค่อยกลับไหม!”

“ไม่แล้วขอรับ!” เฉินจูชิงรีบมองไปยังเหอเย่ว แต่เหอเย่วกำลังก้มหน้าไม่ได้มองเขา “ข้ายังมีธุระ”

เฉินจูชิงพูดจบแล้ว ก็เดินออกไปทันที ลู่ม่านก็ถึงถอนหายใจ ผลักเหอเย่วที่อยู่ข้างๆ “ช่วยข้าส่งแขกหน่อย”

เหอเย่วส่ายหน้า “ข้าไปทำกับข้าวดีกว่า!”

ลู่ม่านถอนหายใจ ดูท่าแล้วครั้งก่อนเหอเย่วคงจะเสียใจต่อเฉินจูชิงมาก

พวกเขายุ่งอยู่ประมาณหกวัน ในที่สุดก็เก็บพริกที่สุกเสร็จแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน พริกชุดที่สองก็เริ่มสุกแล้วเหมือนกัน

จริงๆเล้ย พื้นที่โกดังในบ้านเกือบครึ่งเอาไว้เก็บพริกแห้งหมดแล้ว

ลู่ม่านจึงต้องเอาพริกสดมาทำซอสพริก ในยุคสมัยใหม่ พริกทำอาหารได้หลากหลายมาก งั้นต่อไปก็ค่อยๆทำออกมาทีละอย่างแล้วกัน

ตอนนี้ ลู่ม่านอยากทำพริกสับดองสักหน่อย รอครั้งหน้าซื้อปลาได้แล้วจะทำหัวปลาราดพริกสับ

ว่าแล้วก็ลงมือทำเลย ตอนนี้พริกสดที่โตเต็มที่แล้วมีไม่เยอะ ให้คนงานระยะสั้นสามคนทำก็ได้แล้ว ส่วนคนอื่นๆ ก็กลับไปตำแหน่งเดิมของตัวเอง

ลู่ม่านพาเหอเย่วเริ่มทำพริกสับดอง พูดถึงพริกสับดองแล้ว คนในยุคสมัยใหม่น่าจะทำเป็นกันหมดนะ เพราะนั่นเป็นวัตถุดิบที่อร่อยมากพอสมควร

แต่ไม่เหมือนกับยุคโบราณ คนที่ทำเป็นมีแค่ลู่ม่านคนเดียว

คัดเลือกพริกที่มีรูปลักษณ์ค่อนข้างดีออกมาก่อน เหอเย่วจะเอาไปล้าง แต่ถูกลู่ม่านห้ามเอาไว้ก่อน พริกสับดองจะให้เปียกน้ำไม่ได้ ไม่งั้นรสชาติจะเปลี่ยนไป

และถ้าโดนน้ำเมื่อไหร่ พริกพวกนั้นจะกักเก็บน้ำไว้ ดังนั้นจะล้างไม่ได้

เอาผ้าฝ้ายที่เตรียมไว้แล้วออกมา ลู่ม่านกับเหอเย่วสองคนเช็ดพริกให้สะอาดทีละอัน จากนั้นก็ใส่ไว้ในตะกร้า ทิ้งไว้ตากลมด้านนอก

พอเริ่มแห้งแล้ว ก็เอามาสับ

การหั่นพริกเป็นงานที่ยากมาก สิ่งที่ยากคือไม่ใช่การหั่น แต่เพราะพริกมีความเผ็ดและแสบมาก ถ้าไม่ระวังอาจจะแสบร้อนมือก็ได้

ยังดีที่ลู่ม่านมีประสบการณ์ ให้เหอเย่วสวมถุงมือที่พวกเขาทำขึ้นมาเอง

ถึงแม้จะไม่สวย แต่ผู้หญิงยังไงก็ต้องปกป้องมือของตัวเองให้ดี

หลังจากที่หั่นพริกเสร็จแล้วก็เริ่มสับเป็นชิ้นเล็กๆ ขิงสับละเอียด เอาไปผสมกันเสร็จแล้วก็เริ่มใส่เข้าไปในไห

ที่บ้านเปิดโรงงาน จึงมีไหชนิดต่างๆเยอะมาก ลู่ม่านเตรียมไหขนาดกลางไว้ห้าสิบไห พริกชุดแรกที่เตรียมไว้ก็ได้ประมาณห้าสิบไหเต็มแล้ว

หลังจากที่ใส่เข้าไป ก็ใส่เหล้าขาว เกลือ น้ำตาลอีกนิดหน่อย ใช้เพื่อปรุงแต่งรสชาติ

หลังจากที่เตรียมทุกอย่างเสร็จแล้ว ลู่ม่านกับเหอเย่วก็ขนไหทั้งหมดเข้าไปไว้ในโกดังชั้นใต้ดิน ตอนนี้อากาศร้อน ที่ตรงนั้นค่อนข้างเย็น จึงเหมาะสมแก่การดอง

ทั้งสองขนย้ายไม่กี่รอบก็เหนื่อยจนหอบแล้ว

เฉินจื่ออานเห็นแล้ว ก็แย่งไหในมือของลู่ม่านไป “ข้าทำเอง”

ลู่ม่านอึ้ง “จื่ออาน เจ้าทำงานตัวเองเสร็จแล้วเหรอ?”

“อืม!” ยังไงเฉินจื่ออานก็เป็นผู้ชาย จึงมีแรงเยอะกว่า ขนย้ายของพวกนี้เร็วกว่าพวกนางเยอะมาก ไม่นาน ไหทั้งหมดก็ถูกขนย้ายลงไปหมดแล้ว

ลู่ม่านเข้าไปจุ๊บให้รางวัลเฉินจื่ออาน เฉินจื่ออานควบคุมตัวเองไม่ได้ โอบเอวของลู่ม่านเข้ามา

ตอนที่ทั้งสองกำลังพลอดรักกันอยู่นั้น ลู่ม่านก็ไหใบใหญ่ด้านหลังเฉินจื่ออานร้าว

“อย่าขยับ!” ลู่ม่านตะคอก ทำเอาเฉินจื่ออานสะดุ้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน