แต่ว่า เหอซานยืนยันว่าตัวเองไม่เป็นไร จะต้องทำงานให้ได้ ลู่ม่านพูดเท่าไหร่เขาก็ไม่ฟัง จึงต้องบอกให้เหอเย่วคอยดูแลเขา
แต่ใครจะรู้ว่า เหอซานทำงานในสวนเก่งมาก ต้องยอมรับเลยว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า!
เพราะพริกเผ็ดและแสบมาก ตอนที่เด็ดก็กลัวว่าจะไปทำให้พริกที่ยังไม่โตบอบช้ำ ดังนั้นลู่ม่านจึงไปสั่งทำกรรไกรจากร้านตีเหล็กมา
แจกให้ทุกคนทีละอัน ใช้มาตัดพริก
ทุกคนทำงานกันอย่างรวดเร็ว ตอนบ่าย อาจารย์โจวก็มาเหมือนกัน
เห็นทุกคนมองเขาอย่างแปลกใจ เขาก็ไม่พอใจขึ้นมา “ดูท่าแล้ว พวกเจ้าคงจะลืมว่าเมื่อก่อนข้าก็ทำสวนเหมือนกัน?”
เฉินจื่ออานรีบพูดว่า “แต่ว่า อาจารย์ท่าน……”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอก เจ้าจำคำข้าเอาไว้นะ เรียนหนังสือจะเอาแต่เรียนไม่ได้ ต้องหัดแบ่งเวลาพักผ่อนกับทำงานให้สมดุลกัน”
“เจ้าค่ะ!” ลู่ม่านพูดด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์พูดถูก นี่เป็นกรรไกรที่ข้าเตรียมให้ท่านเจ้าค่ะ”
อาจารย์โจวก็ถึงเริ่มทำงานอย่างมีความสุข
วันแรกเก็บพริกได้ประมาณสามไร่ หลังจากที่ขนพริกกลับไปแล้ว ลู่ม่านก็เอาไปตากไว้ตรงลานบ้าน
เฉินจื่ออานก็ถึงรู้ว่า วิธีที่ลู่ม่านบอกก็คือเอาพริกไปตากแห้งกลายเป็นพริกแห้ง เพื่อจะได้เก็บไว้ได้หลายปี
ตอนยุคสมัยใหม่ พริกแห้งส่วนใหญ่ขายแพงกว่าพริกสดอีก และยังไม่กลัวว่าจะเน่าด้วย นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วล่ะ
ตอนวันที่สอง ตาแก่เฉินก็แบกร่างกายป่วยๆของตัวเองมา ตามด้วยหลิวซื่อและเฉินจื่อฟู่
มาถึงแล้ว ตาแก่เฉินก็พูดอย่างไม่มีเรี่ยวแรงว่า “ทำไมที่บ้านยุ่งขนาดนี้ถึงไม่ไปบอกกับเราล่ะ? ถึงแม้ร่างกายของข้าจะเทียบกับเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว แต่ตัดพริกก็ยังได้อยู่”
พูดจบ เขาก็มองไปยังเฉินจื่อฟู่ “ข้าวที่บ้านก็มีไม่น้อย แต่ยังไม่ถึงเวลาเก็บเกี่ยว ว่างก็ว่างไปเปล่าๆ……”
“ใช่ๆ……” เฉินจื่อฟู่พูดปากไม่ตรงกับใจ
พูดถึงขั้นนี้แล้ว เฉินจื่ออานก็ไม่รู้จะพูดยังไงอีก จึงต้องบอกว่า “ท่านพ่อระวังสุขภาพตัวเองด้วยแล้วกัน”
“ข้ารู้แล้วน่า!” ตาแก่เฉินพูดแล้ว ก็รีบกรรไกรแล้วเดินไปที่สวนทันที เฉินจื่อฟู่ยังคงลีลา ถูกหลิวซื่อผลักก็ถึงจะเดินตามไป
ตอนที่เริ่มทำงาน ตาแก่เฉินก็อธิบายอีกครั้ง “แม่ของเจ้ามีหลิ่วเอ๋อดูแลอยู่ที่บ้าน……”
“ท่านพ่อ ไม่เป็นไรขอรับ” เฉินจื่ออานมองดูคนแก่ที่ถูกกระทบอย่างเสียใจ รู้สึกว่า ตอนนี้เขาใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังจริงๆ ถึงแม้จะตอนที่พูดกับลูกชายตัวเองก็ยังเป็นแบบนี้
มีพวกเขาสามคนเข้ามาช่วยด้วย ทุกคนก็ทำกันเร็วขึ้น วันนี้พวกเขาตัดพริกไปแล้วห้าไร่
รอถึงวันที่สี่ พริกในลานบ้านก็ไว้ไม่พอแล้ว ลู่ม่านจึงให้ตาแก่เฉินกับเหอซานที่อายุมากแล้วอยู่ในบ้าน ให้พวกเขาเอาพริกแห้งใส่ไว้ในตะกร้า แล้วไปไว้ในโกดังหลังบ้าน
รอกลับมาตอนเย็น ลู่ม่านก็เป็นเฉินจูชิงมาด้วย เขากำลังช่วยคนแก่สองท่านขนของอยู่ ตาแก่เฉินจ้องมองเขานิ่ง สายตาเต็มไปด้วยความเสียดาย
เห็นพวกเขากลับมา เฉินจูชิงก็เก็บพริกถุงสุดท้ายเสร็จพอดี กลับหลังหันไปพูดว่า “ข้ากลับก่อนนะ”
ตาแก่เฉินรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า “เจ้าทำงานมาทั้งวันแล้ว กินก่อนค่อยกลับไหม!”
“ไม่แล้วขอรับ!” เฉินจูชิงรีบมองไปยังเหอเย่ว แต่เหอเย่วกำลังก้มหน้าไม่ได้มองเขา “ข้ายังมีธุระ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตบ้านนาของแม่นางลู่ม่าน
เด็กไม่ตายเพราะแม่คลอดยากจะตายเพราะคนรับใช้ป้อนโจ๊กข้าวจนอิ่มตื้อ รอดได้คือดวงแข็งเว่อ...
อ่านไป งงไป ตัดสินประหาร หรืออภัยโทษ?...
หม่อมข้า? ใช้ MS Word ไม่ระวังเลย...
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอน 337 แล้ว โดยภาพรวมพระเอกไม่ค่อยมีเสน่ห์ ไม่เฉียบแหลมเลย...
อะไรจะมีปมขนาดนั้น วุ่นวายตอกย้ำเหลือเกินเกี่ยวกับระบบศักดินา ทั้งที่มันเป็นคนละยุคสมัยกัน...
ตอน285-287 หายทำไงดี...
ตอนหายค่ะ 284แล้วกระโดดไป288เลยค่ะ...
บท 285-287 หายค่ะ 284แล้ว288เลย รบกวนด้วยค่ะ...
281-311 รบกวนด้วยค่ะ...
บทที่241-311 หายค่ะ...